จากกรณีข่าวเศร้าการจากไปอย่างสงบของ “น้องการ์ตูน” ผู้ป่วยติดเตียงจากเหตุการณ์อุบัติเหตุรถพุ่งชนร้านสเต็กเมื่อกว่า 10 ปีก่อน ซึ่งล่าสุด คุณแม่และครอบครัวได้ตัดสินใจครั้งใหญ่ปล่อยมือน้อง ให้จากไปอย่างสงบ ท่ามกลางความอาลัยของผู้ที่ติดตามข่าวสารมาโดยตลอด

อย่างไรก็ตาม หลังจากการจากไปของน้องการ์ตูน ได้เกิดกระแสวิพากษ์วิจารณ์และดราม่าขึ้นในสังคมออนไลน์ เกี่ยวกับการขอรับบริจาคช่วยเหลือค่ารักษาพยาบาลและค่าใช้จ่ายต่างๆ ของคุณแม่น้องการ์ตูน ซึ่งได้มีการตั้งคำถามถึงเงินบริจาคที่เคยได้รับก่อนหน้านี้

ในประเด็นนี้ เพจเฟซบุ๊กชื่อดัง “Drama-addict” ได้ออกมาโพสต์ชี้แจงและอธิบายข้อเท็จจริงเพื่อทำความเข้าใจกับสังคม โดยระบุถึงประเด็นต่างๆ ที่ถูกสงสัย ดังนี้

• มีคำถามว่า เหตุใดถึงเลือกเข้ารับการรักษาในโรงพยาบาลเอกชน ในช่วงที่มีปัญหาเรื่องค่าใช้จ่าย ซึ่งทางเพจระบุว่ามีเหตุผลจำเป็นที่ต้องเลือกโรงพยาบาลดังกล่าว
• ข้อสงสัยว่า คุณแม่เคยเปิดรับบริจาคไปเมื่อ 7 ปีก่อน ได้เงินจำนวนมาก ทำไมยังต้องขอรับบริจาคอีก ทางเพจชี้แจงว่า ค่าใช้จ่ายในการดูแลผู้ป่วยติดเตียงนั้นสูงมาก โดยเฉลี่ยเดือนหนึ่งมีค่าใช้จ่ายจำนวนมาก และนี่ผ่านมา 7 ปีแล้ว เงินบริจาคก้อนก่อนหน้านี้ได้ถูกนำไปใช้ในการดูแลน้องการ์ตูนหมดแล้ว นอกจากนี้ คุณแม่น้องการ์ตูนไม่เคยอยู่เฉย แต่ทำมาหากินเพื่อหาเงินมาดูแลลูกสาวมาโดยตลอด และเงินทุกบาทที่ได้รับมาก็ใช้เพื่อการดูแลน้องการ์ตูนทั้งหมด ไม่เคยนำไปใช้จ่ายสุรุ่ยสุร่าย
• สถานการณ์ล่าสุดของน้องการ์ตูนก่อนเสียชีวิตนั้น มีอาการหนักมาก จนคุณหมอได้แจ้งกับทางครอบครัวว่าไม่ไหวแล้ว และเหลือเพียงขั้นตอนการถอดเครื่องช่วยหายใจ ทางครอบครัวจึงตัดสินใจเช่นนั้น โดยการขอรับบริจาคในครั้งนี้ เป็นการขอเพื่อนำมาช่วยเหลือในส่วนของค่ารักษาพยาบาลและค่าใช้จ่ายในการนำน้องออกมาประกอบพิธีทางศาสนาในอีกไม่กี่วันข้างหน้า
• ทางเพจ Drama-addict เข้าใจว่าการตั้งข้อสงสัยเรื่องการรับบริจาคเป็นเรื่องปกติ แต่ขอยืนยันในเคสนี้ว่า คุณแม่น้องการ์ตูนเป็นคุณแม่ที่ยอดเยี่ยมมาก ดูแลลูกสาวมาตลอด 10 ปี ทำหน้าที่ของคนเป็นแม่อย่างสมบูรณ์แบบที่สุดแล้ว การขอรับบริจาคครั้งนี้เป็นครั้งสุดท้าย
• ทางเพจยังได้ขอร้องด้วยว่า หากมีข้อสงสัยหรือไม่พอใจประเด็นใด ให้มาสอบถามหรือต่อว่าที่เพจ Drama-addict ได้โดยตรง แต่อย่าไปต่อว่าคุณแม่น้องการ์ตูนเลย เพื่อให้ท่านได้ใช้เวลาช่วงสุดท้ายกับลูกสาวให้เต็มที่

ขณะเดียวกัน เพจ “พี่โลมาและเพื่อน” ก็ได้แสดงความคิดเห็นเพิ่มเติมในเรื่องนี้ โดยระบุถึงเงินบริจาคก้อนแรก 1 ล้านบาทเมื่อครั้งแรกสุดว่าหมดไปอย่างรวดเร็วกับค่าผ่าตัดและค่าห้อง ICU และค่าใช้จ่ายอื่นๆ ในช่วงวิกฤตแรกๆ ซึ่งการใช้เงินก็มีผู้ช่วยสังเกตการณ์และดูแล จากนั้นคุณแม่ก็พยายามทำมาหากินมาตลอด จนกระทั่งไม่ไหวจริงๆ จึงมีการขอรับบริจาคอีกครั้ง

ทางเพจพี่โลมาฯ ยังกล่าวถึงเงินบริจาค 7 ล้านบาทที่เคยได้รับว่า อย่าคิดว่าเป็นจำนวนที่เยอะมากนัก เมื่อเทียบกับค่าดูแลผู้ป่วยติดเตียงในระยะยาว ซึ่งประเมินคร่าวๆ อาจสูงถึงเดือนละเป็นแสนบาท หรืออาจจะไม่พอด้วยซ้ำไป ดังนั้นเงิน 7 ล้านบาท อาจจะไม่เพียงพอสำหรับระยะเวลาการดูแลถึง 10 ปี

พร้อมกันนี้ เพจพี่โลมาฯ ยังเน้นย้ำว่า หากจะเกิดกระแสดราม่าเรื่องเงินบริจาค คนที่ไม่ควรถูกต่อว่าเลยคือคุณแม่น้องการ์ตูน แต่คนที่ควรถูกตำหนิอย่างจริงจังและเป็นหัวใจของเรื่องทั้งหมดนี้ คือ “คนที่ทำให้เกิดเรื่องวันนี้ขึ้น” ซึ่งปัจจุบันก็ออกมาจากเรือนจำแล้ว และลอยหน้าลอยตาใช้ชีวิตปกติ

เรื่องราวนี้สะท้อนให้เห็นถึงความยากลำบากและภาระอันหนักอึ้งทั้งทางกายและใจ รวมถึงค่าใช้จ่ายมหาศาลในการดูแลผู้ป่วยติดเตียงระยะยาวนับ 10 ปี ของคุณแม่น้องการ์ตูน และเป็นบทเรียนให้สังคมได้พิจารณาถึงการให้กำลังใจและความเข้าใจ ต่อผู้ที่ต้องเผชิญมรสุมชีวิตอันหนักหนาเช่นนี้