แผ่นดินไหวหนองบัวลำภู: ผู้เชี่ยวชาญชี้สาเหตุจาก ‘ตะเข็บธรณีเลย’ ยันไม่ใช่เรื่องน่าตระหนก ชี้อีสานมีรอยเลื่อนน่าห่วงแค่ 2 จังหวัด

หนองบัวลำภูระทึก! เกิดเหตุแผ่นดินไหวขนาด 3.0 ในพื้นที่อำเภอสุวรรณคูหา ศูนย์ปฏิบัติการธรณีพิบัติภัย กรมทรัพยากรธรณี ชี้แจงไม่ใช่เรื่องผิดปกติ ผู้เชี่ยวชาญด้านธรณีวิทยา ยืนยันสาเหตุเกิดจาก ‘ตะเข็บธรณีเลย’ ซึ่งเป็นรอยเลื่อนเดียวในภาคอีสานที่ยังน่าสนใจในมิติพิบัติภัย ร่วมกับ ‘รอยเลื่อนท่าแขก’ ที่ จ.บึงกาฬ ย้ำชัดรอยเลื่อนอื่นๆ ในอีสานส่วนใหญ่ ‘หมดพลังแล้ว’ ไม่ก่อให้เกิดภัยพิบัติ ไม่จำเป็นต้องตื่นตระหนกแต่อย่างใด

จากกรณีที่ ศูนย์ปฏิบัติการธรณีพิบัติภัย กรมทรัพยากรธรณี รายงานว่า เมื่อเวลา 01.36 น. ของวันที่ 6 พฤษภาคม 2568 ได้เกิดเหตุแผ่นดินไหวขึ้นในพื้นที่ ต.บุญทัน อ.สุวรรณคูหา จ.หนองบัวลำภู โดยวัดความสั่นสะเทือนได้ขนาด 3.0 ที่ระดับความลึกเพียง 4 กิโลเมตร ซึ่งแรงสั่นสะเทือนดังกล่าว สามารถรับรู้ได้ในพื้นที่ใกล้เคียง คือ บ้านบุญทัน และบ้านแสงอรุณ ในตำบลบุญทัน

ต่อมา เพจเฟซบุ๊ก มิตรเอิร์ธ – mitrearth ซึ่งเป็นเพจให้ความรู้ด้านธรณีวิทยา ได้โพสต์ข้อความเกี่ยวกับเหตุการณ์นี้ โดยระบุว่า เหตุแผ่นดินไหวขนาด 3.0 ที่หนองบัวลำภู (ซึ่งอยู่ติดกับ จ.เลย) เป็นเรื่องปกติที่เกิดขึ้นจาก ‘ตะเข็บธรณีเลย’ (Loei Suture) ซึ่งในอดีตเคยเกิดแผ่นดินไหวในบริเวณใกล้เคียงมาแล้วหลายครั้ง เช่น ในปี 2561 ขนาด 3.4, ปี 2563 ขนาด 3.8 และปี 2567 ขนาด 2.6 โดย กรมอุตุนิยมวิทยา มีสถานีตรวจวัดที่จังหวัดเลย ทำให้สามารถวัดเหตุการณ์เหล่านี้ได้อย่างละเอียด

ผู้เชี่ยวชาญจากเพจดังกล่าวยังได้ให้ข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับรอยเลื่อนในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ เพื่อคลายความวิตกกังวลของประชาชน โดยยืนยันว่า ภาคอีสานมีรอยเลื่อนที่ยังพอจะน่าสนใจในมิติพิบัติภัยเพียงแค่ 2 แห่งเท่านั้น คือ บริเวณจังหวัดเลย (ตะเข็บธรณีเลย) ซึ่งเคยเกิดแผ่นดินไหวขนาดเล็กๆ ระหว่าง 2.0-3.0 และจังหวัดบึงกาฬ (รอยเลื่อนท่าแขก)

ส่วนรอยเลื่อนอื่นๆ ที่เคยมีกล่าวถึงในภาคอีสาน เช่น รอยเลื่อนโคราช, รอยเลื่อนภูเขียว, รอยเลื่อนสตึก ฯลฯ ผู้เชี่ยวชาญย้ำว่า รอยเลื่อนเหล่านี้ล้วนแล้วแต่เป็น ‘รอยเลื่อนที่ไม่มีพลังแล้ว’ (inactive fault) หรือเรียกได้ว่า ‘ตายไปแล้วอย่างสงบ’ ไม่สามารถก่อให้เกิดแผ่นดินไหวที่เป็นภัยพิบัติได้อีกต่อไป โดยรอยเลื่อนที่ไม่มีพลังเหล่านี้มีประโยชน์หลักๆ ในแง่ของการใช้ช่วยอธิบายการเหลื่อมกันของหินในการทำแผนที่ธรณีวิทยาเท่านั้น

สาเหตุที่รอยเลื่อนส่วนใหญ่ในภาคอีสานหมดพลังแล้ว เป็นเพราะแรงทางธรณีแปรสัณฐานหลักของยุคปัจจุบัน มาจากเขตมุดตัวสุมาตรา-อันดามัน (Sumatra-Andaman subduction zone) ซึ่งอยู่นอกชายฝั่งทะเลอันดามันและห่างไกลจากภาคอีสานมาก แรงเหล่านี้มีความคงที่ไม่เปลี่ยนแปลงง่ายๆ ภายในระยะเวลา 1,000 ปี หรือ 10,000 ปี

ผู้เชี่ยวชาญอธิบายให้เห็นภาพชัดเจนขึ้นว่า การจะทำให้รอยเลื่อนที่อ้างว่ามีในภาคอีสานเหล่านี้เลื่อนตัวได้นั้น จะต้องมีรอยเลื่อนในภาคอื่นๆ ของประเทศไทย เช่น ภาคเหนือ ภาคตะวันตก หรือภาคใต้ ซึ่งมีรอยแตกและรอยเลื่อนที่มีพลังมากกว่า แสดงความเคลื่อนไหวที่รุนแรงกว่านี้เสียก่อน เหตุการณ์แผ่นดินไหวที่เคยเกิดขึ้นที่จังหวัดบุรีรัมย์เมื่อปีที่แล้ว ก็ไม่ได้เกิดจากการเลื่อนตัวของรอยเลื่อนอันเนื่องมาจากแรงทางธรณีแปรสัณฐานหลักเช่นกัน

การที่บางครั้งมีการนำรอยแตกหรือรอยเลื่อนที่ไม่มีพลังแล้วเหล่านี้มาให้วิตกกังวลกันนั้น ผู้เชี่ยวชาญชี้ว่า รอยลักษณะนี้มีอยู่มากมายในภาคเหนือ ภาคตะวันตก และภาคใต้ของไทย หากต้องกังวลกับรอยเลื่อนทุกเส้น คงไม่สามารถใช้ชีวิตปกติได้ และการจะ ‘ปลุก’ รอยเลื่อนที่หมดพลังเหล่านี้ให้กลับมามีพลังอีกครั้ง ในทางธรณีวิทยานั้นเป็นเรื่องที่ยากพอๆ กับการปลุกภูเขาไฟที่สงบไปแล้ว เช่น ภูเขาไฟพนมรุ้ง หรือเขากระโดง ให้กลับมาระเบิดอีกครั้ง

โดยสรุป ผู้เชี่ยวชาญย้ำว่า เหตุแผ่นดินไหวที่หนองบัวลำภูเป็นเรื่องปกติที่เกิดจากตะเข็บธรณีเลย ซึ่งเป็นรอยเลื่อนที่มีพลังขนาดเล็ก และรอยเลื่อนอื่นๆ ส่วนใหญ่ในภาคอีสานไม่มีพลังแล้ว ไม่ก่อให้เกิดภัยพิบัติ การให้ข้อมูลทั้งหมดนี้มีเจตนาเพียงเพื่อไม่ให้ประชาชนชาวไทยต้องตื่นตระหนกในสิ่งที่ไม่ควรตระหนก

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *