“นิพนธ์ บุญญามณี” อดีตรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย และอดีตรองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ออกมาแสดงความเห็นอย่างตรงไปตรงมาถึงผลการเลือกตั้งซ่อม สส.เขต 8 นครศรีธรรมราช ที่พรรคประชาธิปัตย์ประสบความพ่ายแพ้อย่างราบคาบ โดยเน้นย้ำว่าพรรคฯ ต้องกล้าเปลี่ยนแปลงในทุกมิติอย่างจริงจัง หากยังคงยึดติดกับแนวทางเดิมโดยไม่ปรับตัว ก็สุ่มเสี่ยงที่จะเสื่อมถอยและล่มสลายในที่สุด พร้อมเร่งให้คณะกรรมการบริหารพรรคฯ ถอดบทเรียนความพ่ายแพ้ครั้งนี้ เพื่อทำความเข้าใจว่าเหตุใดประชาชนชาวใต้ ซึ่งเคยเป็นฐานเสียงสำคัญ จึงหันหลังให้กับพรรคฯ

นายนิพนธ์ บุญญามณี กล่าวเมื่อวันที่ 28 เมษายน 2568 ว่า ผลการเลือกตั้งซ่อมที่นครศรีธรรมราชครั้งนี้ เป็นสิ่งที่พรรคประชาธิปัตย์ต้องน้อมรับการตัดสินใจของประชาชน และนำผลคะแนนที่เกิดขึ้นกลับมาทบทวนอย่างจริงจัง เพื่อกำหนดแนวทางการฟื้นฟูพรรคให้กลับมาเป็นความหวังและเป็นที่พึ่งของประชาชนได้อีกครั้ง

อดีตรองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ผู้นี้กล่าวต่อว่า การเมืองนั้นเป็นเรื่องของความเชื่อมั่นและความศรัทธา หากพรรคประชาธิปัตย์ไม่สามารถสร้างศรัทธาและความไว้วางใจจากประชาชนได้ ก็ยากที่จะประสบความสำเร็จในการเลือกตั้งครั้งต่อไป ดังนั้น คณะกรรมการบริหารพรรคฯ ซึ่งถือเป็นองค์กรสูงสุดของพรรค ต้องกลับมาทบทวนตัวเองอย่างหนัก และต้องกล้าเปลี่ยนแปลงในทุกมิติอย่างจริงจัง หากยังคงยึดติดกับแนวทางเดิมโดยไม่ปรับตัว พรรคฯ ก็มีแต่จะเสื่อมถอยและสุ่มเสี่ยงที่จะล่มสลายในที่สุด

“วันนี้พรรคฯ ต้องกล้าถามตัวเองว่า ประชาชนคิดอย่างไรกับพรรคฯ ในสถานการณ์ปัจจุบัน ต้องกล้าประกาศแนวทางการเมืองที่สุจริต โปร่งใส และทำให้ประชาชนเห็นเป็นรูปธรรม ไม่ใช่เพียงแค่กล่าวอ้าง แต่ต้องแสดงให้เห็นว่าพรรคกล้าเปลี่ยนแปลงในสิ่งที่สังคมไม่พึงประสงค์ได้จริงๆ” นายนิพนธ์กล่าวเน้นย้ำ

นายนิพนธ์กล่าวเพิ่มเติมว่า พรรคฯ มีความจำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องวิเคราะห์อย่างลึกซึ้งว่าเพราะเหตุใดประชาชนจึงหันหลังให้ และจะต้องเร่งสร้างความเชื่อมั่นให้กลับคืนมาให้ได้ เพราะท้ายที่สุดแล้ว ประชาชนจะมอบอนาคตของประเทศและฝากฝังไว้ให้กับผู้ที่เขาเชื่อถือและไว้วางใจได้เท่านั้น หากพรรคฯ ไม่กล้าเปลี่ยนแปลง ก็มีแต่จะพ่ายแพ้ซ้ำแล้วซ้ำเล่า พรรคฯ ต้องกล้าเปลี่ยนทุกอย่าง หากไม่เปลี่ยน ก็ไม่สามารถอยู่รอดในเวทีการเมืองได้อีกต่อไป