ข่าวดี! สปสช. เปิดสายด่วน 1330 กด 17 เฉพาะเรื่อง กปท. เริ่ม 17 พ.ค. นี้ ยกระดับบริการสุขภาพท้องถิ่น
ข่าวดี! สปสช. เปิดสายด่วน 1330 กด 17 เฉพาะเรื่อง กปท. เริ่ม 17 พ.ค. นี้ ยกระดับบริการสุขภาพท้องถิ่น
กรุงเทพฯ – สำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) เตรียมเปิดช่องทางใหม่เพื่ออำนวยความสะดวกและเพิ่มประสิทธิภาพการเข้าถึงข้อมูลเกี่ยวกับกองทุนหลักประกันสุขภาพในระดับท้องถิ่น (กปท.) โดยเฉพาะ ผ่านสายด่วน สปสช. 1330 กด 17 ซึ่งจะเริ่มให้บริการตั้งแต่วันที่ 17 พฤษภาคม 2568 เป็นต้นไป การปรับปรุงนี้มีเป้าหมายเพื่อสนับสนุนการดำเนินงานขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น (อปท.) หน่วยบริการ และประชาชนที่เกี่ยวข้องกับ กปท. ทั้งสามประเภทกองทุน
นพ.เติมชัย เต็มยิ่งยง ผู้ช่วยเลขาธิการกลุ่มภารกิจสนับสนุนการจัดหลักประกันสุขภาพในระดับท้องถิ่น สปสช. อธิบายว่า กองทุนหลักประกันสุขภาพในระดับท้องถิ่น หรือ กปท. จัดตั้งขึ้นตามมาตรา 47 แห่งพระราชบัญญัติหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ พ.ศ. 2545 โดยความร่วมมือระหว่าง สปสช. และ อปท. เริ่มดำเนินงานตั้งแต่ปี 2549 เพื่อส่งเสริมการมีส่วนร่วมของชุมชนในการสร้างเสริมสุขภาพ ป้องกันโรค และฟื้นฟูสมรรถภาพ ซึ่งเป็นส่วนสำคัญในการขับเคลื่อนระบบหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ หรือบัตรทอง 30 บาท
กปท. สามกองทุนเพื่อสุขภาพชุมชน
ปัจจุบัน กปท. แบ่งการดำเนินงานออกเป็น 3 รูปแบบหลัก ได้แก่:
- กองทุนหลักประกันสุขภาพในระดับท้องถิ่นหรือพื้นที่: เน้นการสร้างเสริมสุขภาพ ป้องกันโรค บริการรักษาพยาบาลปฐมภูมิเชิงรุก และการฟื้นฟูสมรรถภาพ ดำเนินการและบริหารจัดการโดย อปท. มี อปท. เข้าร่วมแล้วถึง 7,760 แห่ง จากทั้งหมด 7,774 แห่งทั่วประเทศ (ข้อมูล เม.ย. 2568)
- ค่าบริการสาธารณสุข สำหรับผู้ที่มีภาวะพึ่งพิงในชุมชน (Long Term Care : LTC): บริหารจัดการค่าบริการเพื่อดูแลกลุ่มผู้ที่มีภาวะพึ่งพิงตามชุดสิทธิประโยชน์บัตรทอง ดำเนินการโดยหน่วยบริการ อปท. หรือศูนย์พัฒนาคุณภาพชีวิตผู้สูงอายุ ที่เชื่อมโยงบริการทั้งด้านการแพทย์และสังคม มี อปท. ร่วมบริหารจัดการ LTC แล้ว 7,423 แห่ง จาก อปท. ที่ร่วมกองทุนท้องถิ่น (ข้อมูล เม.ย. 2568)
- กองทุนฟื้นฟูสมรรถภาพระดับจังหวัด: จัดตั้งขึ้นเพื่อให้องค์การบริหารส่วนจังหวัด (อบจ.) มีส่วนร่วมในการจัดบริการฟื้นฟูสมรรถภาพแบบครบวงจรสำหรับคนพิการ ผู้สูงอายุ และผู้ที่ต้องการฟื้นฟู มี อบจ. เข้าร่วมแล้ว 72 แห่ง จาก 76 แห่งทั่วประเทศ (ข้อมูล เม.ย. 2568)
นพ.เติมชัย กล่าวเพิ่มเติมว่า ทั้งสามกองทุนนี้มีส่วนสำคัญในการยกระดับคุณภาพชีวิตประชาชน อย่างไรก็ตาม ด้วยวัตถุประสงค์และการบริหารจัดการที่แตกต่างกัน ประกอบกับจำนวน อปท. และผู้เกี่ยวข้องที่มีจำนวนมาก การเข้าถึงข้อมูลที่ถูกต้องและทันสถานการณ์อาจเป็นเรื่องท้าทาย สปสช. เล็งเห็นถึงความสำคัญนี้ จึงได้เพิ่มช่องทางสื่อสารเฉพาะเพื่อสนับสนุนการดำเนินงาน กปท. ให้มีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น นอกเหนือจากช่องทางออนไลน์ที่มีอยู่แล้ว เช่น เฟซบุ๊กกองทุนหลักประกันสุขภาพในระดับท้องถิ่น กปท.
ด้าน น.ส.ดวงนภา พิเชษฐ์กุล ผู้ช่วยเลขาธิการ สปสช. กล่าวเสริมว่า สายด่วน สปสช. 1330 เป็นช่องทางหลักที่สำคัญในการดูแลสิทธิและบริการภายใต้ระบบบัตรทองมาอย่างต่อเนื่อง มีบทบาททั้งการให้ข้อมูล แนะนำ ตรวจสอบสิทธิ และเป็นช่องทางรับเรื่องร้องเรียนร้องทุกข์เพื่อนำไปสู่การแก้ไขปัญหา การเพิ่มช่องทาง 1330 กด 17 นี้ จะเป็นการให้บริการเฉพาะทางสำหรับ กปท. ซึ่งจะช่วยให้ผู้เกี่ยวข้องสามารถสอบถามข้อมูลเกี่ยวกับทั้งสามกองทุนได้อย่างสะดวกรวดเร็วยิ่งขึ้น
“การเตรียมความพร้อมสำหรับช่องทางใหม่นี้ได้ดำเนินการอย่างเข้มข้น ทั้งการจัดทำฐานข้อมูล (Knowledge Base : KB) ในระบบ 1330 ที่รวบรวมข้อมูลของ กปท. ทั้ง 3 กองทุนไว้ครบถ้วน รวมถึงการเตรียมทีมเจ้าหน้าที่เฉพาะกิจไว้คอยให้บริการและตอบคำถามเกี่ยวกับ กปท. โดยเฉพาะ เพื่อให้ข้อมูล สอบถาม ประสานงานกับส่วนกลางและเขตพื้นที่ รวมถึงเป็นช่องทางรับเรื่องร้องเรียนและร้องทุกข์ที่เกี่ยวกับ กปท. โดยเราพร้อมให้บริการเต็มที่ตั้งแต่วันที่ 17 พฤษภาคมนี้เป็นต้นไป” น.ส.ดวงนภา กล่าวทิ้งท้าย
การเปิดสายด่วน 1330 กด 17 ในครั้งนี้ ถือเป็นการตอกย้ำความมุ่งมั่นของ สปสช. ในการพัฒนาระบบบริการและกลไกสนับสนุนการดำเนินงานด้านสุขภาพในระดับพื้นที่ เพื่อให้ประชาชนเข้าถึงสิทธิและบริการสุขภาพได้อย่างสะดวก เท่าเทียม และมีประสิทธิภาพ