สปสช. ทุ่มงบ 800 ล้าน! ชวนคนไทยใช้ “บัตรทอง” คัดกรอง 5 มะเร็งร้าย 6 รายการ ฟรี ภายใต้ “30 บาทรักษาทุกที่”
กรุงเทพฯ – เมื่อวันที่ 4 พฤษภาคม 2568 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า กระทรวงสาธารณสุข (สธ.) และสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) ประกาศเดินหน้าสนับสนุนการตรวจคัดกรองโรคมะเร็งให้แก่ประชาชนไทยทุกสิทธิ ภายใต้นโยบาย “30 บาทรักษาทุกที่” พร้อมจัดสรรงบประมาณกว่า 800 ล้านบาทในปีงบประมาณ 2568 เพื่อให้บริการตรวจคัดกรองมะเร็ง 6 รายการ ครอบคลุม 5 มะเร็งร้ายที่พบบ่อย
นายสมศักดิ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข เปิดเผยว่า มะเร็งเป็นโรคร้ายที่มีความรุนแรงและอัตราการเสียชีวิตสูง การรักษามีค่าใช้จ่ายสูงและซับซ้อน การตรวจคัดกรองในระยะเริ่มต้นจึงมีความสำคัญอย่างยิ่ง ในการค้นหาผู้มีความเสี่ยงหรือผู้ป่วยระยะแรก เพื่อเพิ่มโอกาสในการรักษาให้หายขาดก่อนที่โรคจะลุกลามและรุนแรงจนถึงแก่ชีวิต
รัฐบาลตระหนักถึงภัยคุกคามจากโรคมะเร็ง จึงมอบหมายให้ สปสช. สนับสนุนการบริการตรวจคัดกรองมะเร็งอย่างต่อเนื่อง ภายใต้สิทธิประโยชน์บริการสร้างเสริมสุขภาพและป้องกันโรค ในระบบหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ หรือ “บัตรทอง 30 บาท” โดยประชาชนที่เป็นกลุ่มเป้าหมายสามารถเข้ารับบริการได้โดยไม่เสียค่าใช้จ่าย
สำหรับปีงบประมาณ 2568 สปสช. ได้จัดสรรงบประมาณจำนวน 800.19 ล้านบาท เพื่อสนับสนุนบริการตรวจคัดกรองมะเร็งต่อเนื่องใน 6 รายการสำคัญ ได้แก่:
- บริการตรวจคัดกรองมะเร็งปากมดลูก: สำหรับผู้หญิงไทยทุกสิทธิ อายุ 30 – 59 ปี หรือ 15 – 29 ปี ที่มีความเสี่ยงสูง ครอบคลุมวิธี Pap smear, VIA, HPV DNA Test และชุดเก็บตัวอย่างด้วยตนเอง (HPV self-sampling) จัดสรรงบประมาณ 447.46 ล้านบาท ตั้งเป้าหมาย 2,198,800 คน
- บริการตรวจคัดกรองมะเร็งลำไส้ใหญ่ และลำไส้ตรงด้วยวิธี FIT Test: สำหรับประชาชนอายุ 50 -70 ปี เมื่อพบความผิดปกติจะพิจารณาการส่องกล้องลำไส้ใหญ่ (Colonoscopy) และอาจมีการตัดชิ้นเนื้อตรวจ (Biopsy) จัดสรรงบประมาณ 115.30 ล้านบาท ตั้งเป้าหมาย 1,921,600 คน
- บริการตรวจยีน BRCA1/BRCA2: สำหรับผู้ป่วยมะเร็งเต้านมที่มีความเสี่ยงสูงและญาติสายตรงที่มีประวัติครอบครัวตรวจพบยีนกลายพันธุ์ อายุ 18 ปีขึ้นไป เพื่อค้นหาผู้มีความเสี่ยงสูงและเฝ้าระวังโรค จัดสรรงบประมาณ 41.51 ล้านบาท ตั้งเป้าหมาย 6,870 คน
- บริการคัดกรองรอยโรคเสี่ยงมะเร็งและมะเร็งช่องปาก: สำหรับคนไทยทุกคนอายุ 40 ปีขึ้นไป ปีละ 1 ครั้ง เพื่อค้นหาผู้ป่วยระยะแรก จัดสรรงบประมาณ 35.57 ล้านบาท ตั้งเป้าหมาย 59,278 คน
- บริการตรวจคัดกรองมะเร็งเต้านมด้วยเครื่องแมมโมแกรมและอัลตราซาวด์: รายการใหม่สำหรับปี 2568 สำหรับหญิงไทยทุกสิทธิ อายุ 40 ปีขึ้นไป ที่เข้าเกณฑ์กลุ่มเสี่ยง (มีประวัติญาติสายตรงเป็นมะเร็งเต้านม) จัดสรรงบประมาณ 100.15 ล้านบาท ตั้งเป้าหมาย 41,730 คน
- บริการตรวจคัดกรองโรคพยาธิใบไม้ตับด้วยการตรวจปัสสาวะ (OV-RDT): รายการใหม่สำหรับปี 2568 สำหรับผู้มีอายุ 15 ปีขึ้นไปที่มีภาวะเสี่ยง (ประวัติการติดเชื้อ/กินยาถ่ายพยาธิ/กินปลาน้ำจืดสุกๆ ดิบ) ปีละ 1 ครั้ง ด้วยชุดตรวจสำเร็จรูปที่พัฒนาโดย รพ.ศรีนครินทร์ ม.ขอนแก่น จัดสรรงบประมาณ 60.19 ล้านบาท ตั้งเป้าหมาย 264,000 คน
“บริการคัดกรองโรคมะเร็งทั้ง 6 รายการนี้ เป็นการคัดกรอง 5 โรคมะเร็งร้ายภายใต้บริการสร้างเสริมสุขภาพฯ บัตรทองของคนไทยทุกคน ขอเชิญชวนคนไทยที่เป็นกลุ่มเป้าหมายเข้ารับบริการเพื่อดูแลสุขภาพตนเอง หากพบความเสี่ยงหรือป่วยในระยะเริ่มต้น จะได้เข้าสู่การรักษาก่อนโรคลุกลาม ซึ่งนอกจากจะเพิ่มโอกาสหายแล้ว ยังช่วยลดภาระงบประมาณในการรักษาระยะท้ายซึ่งมีค่าใช้จ่ายสูงมาก” นายสมศักดิ์ กล่าวย้ำ
ด้าน นพ.จเด็จ ธรรมธัชอารี เลขาธิการ สปสช. กล่าวเสริมว่า บริการคัดกรองมะเร็งปากมดลูกให้บริการมาต่อเนื่องตั้งแต่ปี 2548 และในปี 2567 มีผู้เข้ารับบริการเกินเป้าหมายที่ตั้งไว้ ซึ่งผลการคัดกรองที่ผิดปกติได้นำไปสู่การส่องกล้องและรักษาต่อไป สำหรับบริการคัดกรองมะเร็งลำไส้ใหญ่ฯ ด้วย FIT Test เริ่มมาตั้งแต่ปี 2561 ในปี 2567 พบว่าผู้รับบริการจำนวนมากมีผลผิดปกติและเข้าสู่การรักษา ขณะที่บริการตรวจยีน BRCA1/BRCA2 เริ่มปี 2566 เพื่อค้นหาผู้มีความเสี่ยงสูง
ส่วนบริการคัดกรองรอยโรคเสี่ยงมะเร็งช่องปากเริ่มสำหรับผู้สูงวัย 40 ปีขึ้นไปเพื่อตรวจหาผู้ป่วยระยะแรก และในปี 2568 สปสช. ได้เพิ่มเติมบริการคัดกรองใหม่ 2 รายการ คือ ตรวจคัดกรองมะเร็งเต้านมด้วยแมมโมแกรมและอัลตราซาวด์สำหรับกลุ่มเสี่ยงตามแนวทางของสถาบันมะเร็งแห่งชาติ และตรวจคัดกรองโรคพยาธิใบไม้ตับด้วยชุดตรวจปัสสาวะ OV-RDT ซึ่งเป็นนวัตกรรมใหม่ เพื่อเพิ่มการเข้าถึงบริการและตรวจพบโรคได้ตั้งแต่ระยะแรก
เลขาธิการ สปสช. เน้นย้ำให้ประชาชนกลุ่มเป้าหมายอย่าลังเลที่จะใช้สิทธิบัตรทองของตนเองในการเข้ารับบริการคัดกรองมะเร็งเหล่านี้ ณ หน่วยบริการที่ สปสช. กำหนด เพื่อสุขภาพที่ดีและเพิ่มโอกาสในการรักษา.