นครราชสีมา – สลด! ลูกสาวโร่ขอความช่วยเหลือ หลังแม่วัย 50 ปี ถูกแฟนใหม่ที่เพิ่งคบกัน 3 เดือน ทำร้ายร่างกายอย่างทารุณ จนอาการสาหัสปางตาย เข้ารักษาตัวในห้อง ICU แพทย์ระบุสมองบวม เลือดคั่งในสมอง ปอดแตก และมีรอยช้ำทั่วร่างกาย ล่าสุดพบติดเชื้อในกระแสเลือด ด้านชาวบ้านในพื้นที่เผยผู้ก่อเหตุมีพฤติกรรมใช้ยาเสพติด และมักทำร้ายผู้บาดเจ็บเป็นประจำ แต่ไม่มีใครกล้าให้ข้อมูลตำรวจ เพราะเกรงว่าจะถูกทำร้ายหากผู้ก่อเหตุพ้นโทษกลับมา ขณะที่ตำรวจคุมตัวได้แล้ว แต่เบื้องต้นตั้งข้อหาเพียงแค่เสพยา รอพยานหลักฐานเพิ่มเติมในคดีทำร้ายร่างกาย

จากกรณี น.ส.เอ (นามสมมติ) เข้าขอความช่วยเหลือและแจ้งความกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ หลังแม่ของตนเอง อายุ 50 ปี ถูกนายหม่อง (นามสมมติ) อายุ 40 ปี ซึ่งเป็นแฟนใหม่ที่เพิ่งคบหากันได้เพียงประมาณ 3 เดือน ทำร้ายร่างกายจนได้รับบาดเจ็บสาหัสปางตาย ต้องเข้ารักษาตัวอย่างเร่งด่วนที่ห้องผู้ป่วยหนัก (ICU) โดยอาการยังไม่รู้สึกตัว

แพทย์ผู้รักษาได้แจ้งอาการของเหยื่อว่า มีภาวะสมองบวมและเลือดคั่งในสมอง ปอดแตกและมีเลือดออกในปอด นอกจากนี้ ตามร่างกายยังมีร่องรอยฟกช้ำจากการถูกทำร้ายอย่างชัดเจน ล่าสุดพบว่ามีอาการติดเชื้อในกระแสเลือด ซึ่งถือเป็นภาวะวิกฤต

น.ส.เอ ได้เดินทางเข้าแจ้งความที่สถานีตำรวจภูธรห้วยแถลง จังหวัดนครราชสีมา หลังได้รับข้อมูลจากชาวบ้านในพื้นที่ว่า ได้ยินเสียงแม่ของตนเองมีปากเสียงทะเลาะวิวาทกับนายหม่อง แต่ไม่มีใครสามารถเข้าไปตรวจสอบภายในบ้านได้ เนื่องจากนายหม่องมักจะล็อกประตูหน้าบ้านไว้ทุกวันเมื่อออกจากบ้านไป ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้เชิญตัวนายหม่องมาสอบสวน แต่ผู้ต้องสงสัยยังคงให้การปฏิเสธว่าไม่ได้ทำร้ายร่างกาย อย่างไรก็ตาม การตรวจหาสารเสพติดในร่างกายของนายหม่อง พบว่ามีสารเสพติดในปัสสาวะ

ความคืบหน้าล่าสุด เมื่อวันที่ 21 เมษายน 2568 ผู้สื่อข่าวได้ลงพื้นที่ไปยังบ้านเกิดเหตุ ในพื้นที่ตำบลตะโก อำเภอห้วยแถลง จังหวัดนครราชสีมา ได้สอบถามข้อมูลจากญาติและเพื่อนบ้านใกล้เคียง ทราบว่า ผู้บาดเจ็บและนายหม่องมักจะมีปากเสียงและทะเลาะวิวาทกันอยู่เป็นประจำ โดยสาเหตุหลักมาจากที่นายหม่องไม่ได้ทำงานทำการ แต่มักจะขอเงินจากผู้บาดเจ็บเพื่อนำไปซื้อยาเสพติดมาเสพ และเมื่อเสพยาจนเกิดอาการมึนเมาก็จะเริ่มอาละวาดและทำร้ายร่างกายผู้บาดเจ็บ

พฤติกรรมที่รุนแรงและน่าหวาดกลัวของนายหม่อง ทำให้ชาวบ้านที่อยู่ใกล้เคียงรู้สึกหวาดกลัวและไม่กล้าเข้าไปยุ่งเกี่ยว หรือให้ความช่วยเหลือผู้บาดเจ็บในขณะที่เกิดเหตุทะเลาะวิวาท นอกจากนี้ ผู้สื่อข่าวยังได้ตรวจสอบบริเวณที่นอนภายในบ้าน พบเข็มฉีดยาที่ใช้แล้วตกอยู่ ญาติของผู้บาดเจ็บได้เก็บเข็มฉีดยาดังกล่าวส่งมอบให้กับเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.ห้วยแถลง เพื่อทำการตรวจสอบ เนื่องจากเกรงว่าจะเป็นอุปกรณ์ที่ใช้ในการเสพยา

ขณะนี้ เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ดำเนินการในส่วนของคดีความกับนายหม่องแล้วในข้อหาเกี่ยวกับยาเสพติด เนื่องจากผลการตรวจปัสสาวะพบเป็นสีม่วง ยืนยันว่ามีการเสพสารเสพติดจริง ส่วนคดีทำร้ายร่างกายที่ทำให้อาการสาหัสปางตายนั้น ยังคงอยู่ในระหว่างการรวบรวมพยานหลักฐานเพิ่มเติม เนื่องจากนายหม่องยังคงให้การปฏิเสธ ประกอบกับพยานหลายคนในพื้นที่ยังไม่กล้าที่จะให้ข้อมูลที่เป็นประโยชน์ต่อรูปคดี เนื่องจากมีความหวาดกลัวว่า หากนายหม่องพ้นโทษจากคดียาเสพติดกลับเข้ามาในหมู่บ้าน แล้วเกิดอาการคลุ้มคลั่งจากการใช้ยาเสพติดอีกครั้ง ชาวบ้านที่มาเป็นพยานอาจจะถูกนายหม่องตามมาทำร้ายหรือเล่นงานได้ ซึ่งถือเป็นอุปสรรคสำคัญในการดำเนินคดีทำร้ายร่างกายในครั้งนี้