นบ.ยส.24 ลุยสกัดยาบ้าทะลักข้ามโขง! ยึดเกือบ 6 แสนเม็ด ที่เชียงคาน รวบ 2 ผู้ต้องหา คาสารภาพเตรียมส่งต่อ
เลย – หน่วยบัญชาการสกัดกั้นและปราบปรามยาเสพติด สารตั้งต้น และเคมีภัณฑ์ชายแดนภาคตะวันออกเฉียงเหนือ (นบ.ยส.24) สนธิกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจและสถานีเรือเชียงคาน สกัดจับยาบ้าล็อตใหญ่เกือบ 6 แสนเม็ด บริเวณริมแม่น้ำโขง อำเภอเชียงคาน จังหวัดเลย ขณะผู้ต้องหา 2 ราย ลักลอบนำเข้ามาจาก สปป.ลาว สารภาพเตรียมส่งต่ออีกทอด
วันที่ 20 พฤษภาคม 2568 มีรายงานข่าวจากพื้นที่ชายแดนเปิดเผยว่า พล.ท.บุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 (มทภ.2) ในฐานะผู้บัญชาการหน่วยบัญชาการสกัดกั้นและปราบปรามยาเสพติดฯ ชายแดนภาคตะวันออกเฉียงเหนือ (นบ.ยส.24) ได้สั่งการให้หน่วยงานในพื้นที่ตามแนวชายแดน โดยเฉพาะบริเวณริมแม่น้ำซึ่งเป็นพื้นที่ตรงข้ามกับประเทศเพื่อนบ้าน เพิ่มความเข้มงวดในการใช้การข่าวและการออกลาดตระเวนให้มีความถี่มากขึ้น เพื่อป้องกันและปราบปรามการลักลอบกระทำผิดกฎหมาย โดยเฉพาะปัญหายาเสพติด
สืบเนื่องจากคำสั่งดังกล่าว เมื่อช่วงค่ำของวันที่ 19 พฤษภาคม ที่ผ่านมา ร.อ.นรชัย ผ่องอำไพ ผู้บังคับการเหตุการณ์จัดกำลังพล หมวดสกัดกั้นที่ 2 (มว.สกัดกั้นฯที่ 2) พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เชียงคาน และเจ้าหน้าที่สถานีเรือเชียงคาน ได้ร่วมกันเฝ้าตรวจและออกลาดตระเวนในพื้นที่ริมแม่น้ำโขง บริเวณบ้านห้วยซวก ตำบลบุฮม อำเภอเชียงคาน จังหวัดเลย หลังจากได้รับรายงานจากสายข่าวว่าจะมีการลำเลียงยาเสพติดเข้ามาในประเทศไทย
กระทั่งเวลาประมาณ 23.50 น. ขณะที่เจ้าหน้าที่กำลังซุ่มสกัดจับอยู่ในบริเวณดังกล่าว ได้สังเกตเห็นความผิดปกติของรถจักรยานยนต์ที่วิ่งเข้ามาในพื้นที่ซุ่ม จากนั้นจึงได้ใช้เครื่องมือตรวจการณ์กลางคืน (กล้องตรวจการณ์เวลากลางคืน) ส่องไปยังฝั่งสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว (สปป.ลาว) บริเวณบ้านปากซาว เมืองชะนะคาม แขวงเวียงจันทน์ และตรวจพบเรือกีบกำลังแล่นมาจากฝั่ง สปป.ลาว เข้ามาเทียบท่าบริเวณฝั่งไทย
เมื่อแน่ใจว่าเป็นสิ่งผิดกฎหมาย เจ้าหน้าที่ชุดจับกุมจึงได้แสดงตัวเข้าจับกุมชาย 2 ราย ที่อยู่ภายในเรือกีบ จากการตรวจสอบภายในเรือ พบกระสอบที่ถูกซีลกันน้ำมาอย่างดี จำนวน 2 กล่อง เมื่อเปิดออกดู พบเป็นห่อบรรจุยาบ้า จำนวน 99 ห่อ รวมยาบ้าทั้งสิ้น 594,000 เม็ด
จากการสอบสวนเบื้องต้น ผู้ต้องหาทั้งสองคนให้การรับสารภาพว่า ได้นำยาเสพติดจำนวนดังกล่าวมาจากพื้นที่ในประเทศเพื่อนบ้าน ก่อนจะลักลอบนำเข้ามายังฝั่งประเทศไทย และจะมีบุคคลอื่นมารับยาเสพติดต่อไปอีกทอดหนึ่ง เจ้าหน้าที่จึงได้ทำการบันทึกจับกุม พร้อมนำตัวผู้ต้องหาและของกลางทั้งหมด ส่งมอบให้กับสถานีตำรวจภูธรปากชม เพื่อดำเนินการตามขั้นตอนของกฎหมายต่อไป