กองทัพเรือรับทหารใหม่ ผลัด 1/68 เข้าประจำการกว่า 2 พันนาย ณ สัตหีบ ย้ำขั้นตอนรวดเร็ว ปลอดภัย ตามนโยบาย ‘NAVY-SAFETY 2025’
ชลบุรี – วันที่ 2 พฤษภาคม 2568 ณ ศูนย์ฝึกทหารใหม่ กรมยุทธศึกษาทหารเรือ อำเภอสัตหีบ จังหวัดชลบุรี กองทัพเรือได้ให้การต้อนรับทหารใหม่ รุ่นปี 2568 ผลัดที่ 1 จำนวน 2,008 นาย ที่เดินทางมารายงานตัวเพื่อเข้ารับราชการเป็นทหารกองประจำการ หรือที่เรียกกันว่าเป็น ‘น้องเล็กคนใหม่ของกองทัพเรือ’
ภายใต้การอำนวยการของ นาวาเอก ทิวา อ่อนละออ ผู้บังคับการศูนย์ฝึกทหารใหม่ กรมยุทธศึกษาทหารเรือ (ผบ.ศฝท.ยศ.ทร.) พร้อมคณะผู้บังคับบัญชา ได้ให้การต้อนรับและดูแลการดำเนินการรับรายงานตัวของทหารใหม่ ณ สถานีรับรายงานตัวของศูนย์ฝึกทหารใหม่ฯ ซึ่งตั้งอยู่ในพื้นที่ตำบลบางเสร่ อำเภอสัตหีบ จังหวัดชลบุรี
ทหารใหม่ในส่วนของกองทัพเรือ ผลัดที่ 1/68 นี้ ประกอบด้วยผู้ที่เดินทางมาจากหลากหลายภูมิภาค ทั้งภาคกลาง ภาคตะวันออก ภาคเหนือตอนล่าง และภาคตะวันออกเฉียงเหนือ รวมถึงทหารใหม่ที่ได้สมัครเข้ามาโดยวิธีร้องขอ (กรณีพิเศษ) ผ่านระบบออนไลน์ ซึ่งแสดงให้เห็นถึงความสนใจและความตั้งใจที่จะเข้ารับใช้ชาติผ่านการรับราชการในกองทัพเรือ
กระบวนการรับรายงานตัวของทหารใหม่เป็นไปตามมาตรฐานที่วางไว้อย่างเคร่งครัด โดยมีการจัดตั้งสถานีต่างๆ เพื่ออำนวยความสะดวกและตรวจสอบอย่างละเอียด ประกอบด้วย:
- สถานีคัดกรองโรค: เพื่อตรวจสอบสุขภาพเบื้องต้น ป้องกันการแพร่ระบาดของโรค และสร้างความมั่นใจด้านสุขอนามัย
- สถานีตรวจสิ่งเสพติดและสิ่งของต้องห้าม: เพื่อคัดกรองและป้องกันการนำสิ่งผิดกฎหมายเข้าสู่หน่วยฝึก
- สถานีลงทะเบียนคัดแยกสังกัดกองร้อย และธุรกรรมการเงิน: เพื่อดำเนินการด้านเอกสาร การจัดแบ่งหน่วย และการจัดการเรื่องค่าใช้จ่ายส่วนตัว
- สถานีรับยุทธอาภรณ์: เพื่อมอบเครื่องแบบและอุปกรณ์ที่จำเป็นสำหรับการฝึก
การดำเนินงานในแต่ละสถานีเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ รวดเร็ว เรียบร้อย และให้ความสำคัญกับความปลอดภัยเป็นอันดับแรก ซึ่งเป็นไปตามนโยบายของผู้บัญชาการทหารเรือ ที่ได้กำหนดให้ปี พ.ศ. 2568 เป็น ‘ปีแห่งความปลอดภัยของกองทัพเรือ’ ภายใต้แนวคิด “NAVY-SAFETY 2025”
การต้อนรับทหารใหม่ในครั้งนี้ ถือเป็นการก้าวเข้าสู่บทบาทใหม่ของชายไทยที่พร้อมเสียสละเพื่อชาติ และเป็นการเริ่มต้นชีวิตในรั้วกองทัพเรือ ซึ่งพวกเขาจะได้รับการฝึกฝนเพื่อพัฒนาตนเองทั้งด้านร่างกาย จิตใจ และระเบียบวินัย เพื่อเตรียมพร้อมสำหรับการปฏิบัติหน้าที่ในฐานะกำลังพลสำคัญของกองทัพเรือต่อไป