“นฤมล” กล้าธรรม ชี้ชัยเลือกตั้งซ่อม สส.นครศรีธรรมราช จุดเริ่มขยายพรรคทั่วประเทศ ปัดไม่ใช่ พปชร.-ทสท. หัวเราะ ไม่ยืนยัน ‘งูเห่า’ ปชช. ซบหรือไม่

นางนฤมล ภิญโญสินวัฒน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ในฐานะหัวหน้าพรรคกล้าธรรม ได้ให้สัมภาษณ์พิเศษ ณ มหาวิทยาลัยนครพนม จังหวัดนครพนม เมื่อช่วงสายของวันที่ 29 เมษายน 2568 ที่ผ่านมา ถึงความสำเร็จล่าสุดของพรรคในการคว้าชัยชนะเลือกตั้งซ่อมสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (สส.) จังหวัดนครศรีธรรมราช เขต 8 ซึ่งถือเป็นก้าวสำคัญของพรรค

นางนฤมลยืนยันว่า ชัยชนะที่นครศรีธรรมราชเป็นไปตามความตั้งใจของพรรคกล้าธรรมที่จะเข้าไปรับใช้พี่น้องประชาชนในพื้นที่ภาคใต้ โดยเริ่มต้นที่นี่ พร้อมย้ำว่านี่ไม่ใช่เป้าหมายสุดท้ายเพียงแค่ภาคใต้ แต่พรรคพร้อมจะขยายการทำงานเพื่อรับใช้ประชาชนทั่วประเทศ และขณะนี้พรรคกำลังเร่งดำเนินการในเรื่องการเพิ่มจำนวนสมาชิกและตัวแทนเขต ซึ่งมีการเติบโตขึ้นอย่างมาก

เมื่อถูกถามถึงปัจจัยที่นำไปสู่ชัยชนะในการเลือกตั้งซ่อม สส.นครศรีธรรมราช เขต 8 หัวหน้าพรรคกล้าธรรมชี้แจงว่า มาจากการทุ่มเทของทั้งพรรค รวมถึงบทบาทสำคัญของ ร้อยเอกธรรมนัส พรหมเผ่า สส.พะเยา ในฐานะประธานที่ปรึกษาพรรคกล้าธรรม และผู้บริหารพรรคทุกคนที่ลงพื้นที่อย่างหนัก เพื่อขอโอกาสจากประชาชนในเขต 8 ได้เข้าไปทำงาน โดยเน้นย้ำถึงความตั้งใจจริงของพรรค

“ในนามของพรรคกล้าธรรม กราบขอบพระคุณคะแนนเสียงของพี่น้องในพื้นที่เขต 8 อำเภอนาบอน อำเภอช้างกลาง อำเภอฉวาง และอำเภอพิปูน ที่ได้ไว้วางใจ มอบโอกาสให้พรรคกล้าธรรมได้เข้ามารับใช้ประชาชนในพื้นที่นี้” นางนฤมลกล่าวด้วยความซาบซึ้ง

สำหรับกรณีที่ นายชินวรณ์ บุณยเกียรติ ผู้สมัครจากพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงหลักฐานการทุจริตและเตรียมยื่นต่อคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) นางนฤมลกล่าวสั้นๆ ว่า “ก็แล้วแต่ที่จะพูด” พร้อมระบุว่ามีองค์กรที่ทำหน้าที่อยู่แล้ว ให้เป็นไปตามกระบวนการของ กกต. และยืนยันว่าพรรคไม่ได้ทำอะไรผิด การชนะการเลือกตั้งมาจากการทุ่มเททำงานหนัก รวมถึง นายก้องเกียรติ เกตุสมบัติ ผู้สมัครของพรรค ซึ่งเป็นสมาชิกสภาองค์การบริหารส่วนจังหวัด (ส.อบจ.) ในพื้นที่อยู่แล้ว จึงมีความใกล้ชิดและเครือข่ายที่เข้มแข็งกับประชาชน ทำให้ได้รับการตอบรับที่ดี

ประเด็นเรื่องการเพิ่มเก้าอี้รัฐมนตรีของพรรคกล้าธรรมในคณะรัฐมนตรี (ครม.) ถูกปัดตกโดยนางนฤมล โดยเธอกล่าวอย่างชัดเจนว่า เป้าหมายของพรรคไม่ได้อยู่ที่ตำแหน่งทางการเมือง แต่คือการได้รับความไว้วางใจจากประชาชนให้เข้าไปทำงาน “ในตอนที่เราปราศรัยหาเสียงหรือพบประชาชนในพื้นที่ จุดประสงค์ของเราคือ ไม่ได้หวังที่จะมีการเพิ่มตำแหน่งในรัฐบาลทั้งสิ้น เราหวังอย่างเดียวว่าขอให้ประชาชนได้มอบโอกาสเมตตาให้เราได้เข้ามารับใช้ในจังหวัดนครศรีธรรมราช” เธอกล่าว

ส่วนการมองว่าพื้นที่ภาคใต้จะเป็นการแข่งขันหลักระหว่างพรรคภูมิใจไทยกับพรรคกล้าธรรมนั้น นางนฤมลเห็นว่าน่าจะเป็นการแข่งขันกับทุกพรรคที่เสนอตัวรับใช้ประชาชน พร้อมระบุว่าพรรคกล้าธรรมอาจเป็น “พรรคน้องใหม่ที่ใจใหญ่หน่อย” พร้อมดูแลประชาชนในทุกจุด สำหรับกระแสข่าวเรื่องการทาบทาม สส. จากพรรคอื่นในพื้นที่ภาคใต้ให้มาร่วมงานกับพรรคกล้าธรรมในสมัยหน้านั้น นางนฤมลยืนยันว่ามีการติดต่อเข้ามาจริงก่อนหน้านี้ โดยมีจำนวน “นับไม่หมด”

ผู้สื่อข่าวสอบถามถึงความชัดเจนในการแถลงข่าวว่าจะมีกลุ่มใดมาย้ายมาอยู่กับพรรคกล้าธรรม นางนฤมลตอบว่ามีความชัดเจน แต่ต้องรอความเรียบร้อยก่อน ทั้งนี้ การย้ายเข้ามาน่าจะมาพร้อมกันทั้งเป็นกลุ่มหรือเป็นรายบุคคล

เมื่อถูกถามย้ำว่ามีการระบุว่ากลุ่ม สส. ที่จะย้ายมานั้นเป็นกลุ่มจากพรรคฝ่ายค้าน นางนฤมลยืนยันว่าไม่ใช่พรรคพลังประชารัฐ และไม่ใช่พรรคไทยสร้างไทย ซึ่งต้องรอดูการแถลงอย่างเป็นทางการ

คำถามสุดท้ายที่ผู้สื่อข่าวถามคือ “ถ้าอย่างนั้นก็เหลือแค่พรรคประชาชน” นางนฤมลเลือกที่จะไม่ตอบเป็นคำพูด แต่ได้แสดงออกด้วยการ “หัวเราะ” ซึ่งทำให้ประเด็นเรื่อง “งูเห่า” จากพรรคประชาชนที่จะย้ายมาร่วมงานกับพรรคกล้าธรรมยังคงเป็นที่จับตามองต่อไป

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *