นันทนา รับลูก ‘ทนายอั๋น’ ล่าชื่อ 20 สว. ส่งศาล รธน. ตีความปม ‘สว.ฮั้วพรรค’ ชี้ภาพลักษณ์ต่ำสุดใน ปวศ.
รัฐสภา – เมื่อเวลา 11.00 น. วันที่ 16 พฤษภาคม 2568 นายภัทรพงศ์ ศุภักษร หรือ ทนายอั๋นบุรีรัมย์ ได้เข้ายื่นหนังสือต่อ น.ส.นันทนา นันทวโรภาส สมาชิกวุฒิสภา (สว.) เพื่อขอให้ดำเนินการรวบรวมรายชื่อ สว. จำนวนไม่น้อยกว่า 20 คน ส่งหนังสือถึงประธานวุฒิสภา เพื่อให้ส่งต่อไปยังศาลรัฐธรรมนูญ พิจารณาตีความพฤติการณ์ของ สว. ที่ถูกกล่าวหาว่ามีความเกี่ยวข้องหรือได้รับการสนับสนุนจากพรรคการเมือง ซึ่งอาจเข้าข่ายขัดต่อรัฐธรรมนูญ มาตรา 113 และส่งผลให้สมาชิกภาพของ สว. สิ้นสุดลง
นายภัทรพงศ์ กล่าวว่า ตนเองเป็นผู้ที่ติดตามและร้องเรียนเรื่องการฮั้วการเลือก สว. มาโดยตลอด และเห็นถึงความผิดปกติในการเลือกตั้งที่ผ่านมาซึ่งมีลักษณะของการรวมกลุ่มกันอย่างชัดเจน จนนำไปสู่การที่คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) และกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) ได้ออกหมายเรียก สว. ไปแล้วถึง 55 คน และกำลังจะมีกลุ่ม สว. ที่เหลือถูกออกหมายเรียกเพิ่มเติมในไม่ช้านี้ รวมถึงมี สว. บางส่วนที่ได้กลับใจและให้ข้อมูลที่เป็นประโยชน์ต่อการสืบสวนสอบสวน
แม้ว่ากระบวนการสืบสวนสอบสวนจะยังไม่ถึงที่สุด แต่ข้อเท็จจริงที่ปรากฏบ่งชี้อย่างชัดเจนว่า กลุ่ม สว. ที่ถูกหมายเรียกนั้นมีส่วนพัวพันกับพรรคการเมือง ซึ่งพฤติการณ์เหล่านี้ส่อให้เห็นถึงการฝักใฝ่พรรคการเมืองอย่างชัดเจน และทำให้ภาพลักษณ์ของวุฒิสภาตกต่ำลงอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน ดังนั้น ตนจึงได้มายื่นหนังสือขอให้ น.ส.นันทนา ใช้กลไกตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 82 ในการรวบรวมรายชื่อ สว. จำนวนไม่น้อยกว่า 1 ใน 10 ของจำนวนสมาชิกทั้งหมด หรือไม่น้อยกว่า 20 คน เพื่อให้ประธานวุฒิสภาส่งเรื่องให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยว่า พฤติการณ์ของ สว. ที่มีพรรคการเมืองอยู่เบื้องหลังนั้น ต้องห้ามตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 113 และทำให้สมาชิกภาพของ สว. ผู้นั้นสิ้นสุดลงหรือไม่ ตนต้องการทราบว่าจะมี สว. ท่านใดพร้อมลงชื่อในเรื่องนี้บ้าง และหวังว่าศาลรัฐธรรมนูญอาจมีคำสั่งให้ สว. กลุ่มดังกล่าวหยุดปฏิบัติหน้าที่เป็นการชั่วคราวก่อน ซึ่งตนได้รับแจ้งจากแหล่งข่าวว่าน่าจะมี สว. ที่พร้อมลงชื่อสนับสนุนเกินกว่า 20 คน
ด้าน น.ส.นันทนา กล่าวตอบรับทันทีว่า กติกาการได้มาซึ่ง สว. ที่ผ่านมานั้น ถือเป็นกติกาที่วิปริต ซึ่งส่งผลให้เกิดการฮั้วกันเข้ามา และสังคมโดยรวมก็รับรู้แล้วว่าการได้มาของ สว. ชุดนี้ ไม่ได้เกิดขึ้นด้วยความสุจริตและเที่ยงธรรม ซึ่งเป็นข้อกังขาที่สังคมสงสัยมาโดยตลอด
น.ส.นันทนา กล่าวต่อไปว่า ขณะนี้ กกต. และ ดีเอสไอ ได้ดำเนินการคลี่คลายปัญหานี้แล้ว โดยมีการแจ้งข้อกล่าวหากับ สว. ไปแล้ว 55 คน และมีแนวโน้มที่จะมีการแจ้งข้อกล่าวหาไปถึงกลุ่มผู้บงการ รวมถึง สว. คนอื่นๆ อีก ส่งผลให้ภาพลักษณ์ของวุฒิสภาในขณะนี้ตกต่ำที่สุดในประวัติศาสตร์ ประชาชนขาดความเชื่อถือและไม่ศรัทธาในการทำหน้าที่ เนื่องจากที่มาของ สว. ส่วนใหญ่ไม่ชัดเจน เป็นที่กังขาและสงสัย
ในฐานะ สว. ที่ตระหนักถึงปัญหานี้ น.ส.นันทนา กล่าวว่า ตนได้เคยประกาศในที่ประชุมวุฒิสภาแล้วว่า พร้อมที่จะเข้าสู่กระบวนการตรวจสอบ และได้ขอหยุดปฏิบัติหน้าที่ในการลงมติให้ความเห็นชอบการแต่งตั้งบุคคลให้ดำรงตำแหน่งในองค์กรอิสระต่างๆ เนื่องจากประชาชนตั้งข้อสงสัยว่า หาก สว. มีที่มาที่ไม่ถูกต้องหรือไม่โปร่งใส แต่กลับไปทำหน้าที่ลงมติให้ความเห็นชอบผู้ที่จะมาดำรงตำแหน่งในองค์กรอิสระต่างๆ ย่อมเป็นสิ่งที่ขัดแย้งในตัวเอง เพราะมีผลประโยชน์ทับซ้อนอย่างชัดเจน
น.ส.นันทนา ย้ำว่า เมื่อ สว. ลงมติเห็นชอบผู้ดำรงตำแหน่งแล้ว คนเหล่านั้นกลับต้องมาตรวจสอบ สว. เอง กระบวนการนี้จะมีความชอบธรรม ถูกต้อง และโปร่งใสได้อย่างไร ถือเป็นการตอบแทนบุญคุณระหว่างผู้ลงมติกับผู้ดำรงตำแหน่ง ซึ่งเป็นสิ่งที่ไม่สง่างามและไม่ควรเกิดขึ้นในระบบรัฐสภา
น.ส.นันทนา กล่าวด้วยว่า ตนได้เรียกร้องมาตั้งแต่ต้นแล้วให้ สว. ทั้งหมดหยุดให้ความเห็นชอบในการแต่งตั้งบุคคลในองค์กรอิสระใดๆ ทั้งสิ้น แต่จนถึงขณะนี้ก็ยังไม่มี สว. ท่านใดปฏิบัติตาม เพราะยังห่วงอำนาจและคิดว่าเป็นอำนาจสำคัญที่ตนเองจะได้รับประโยชน์ในลักษณะต่างตอบแทน ตนเชื่อว่าประชาชนคงเห็นแล้วว่า หากปล่อยให้ สว. ทั้งคณะนี้ยังคงทำหน้าที่ต่อไป ประเทศชาติอาจต้องเผชิญกับความป่นปี้เสียหายอย่างแน่นอน
ดังนั้น น.ส.นันทนา ยืนยันว่า ตนจะนำเรื่องนี้ไปขอความร่วมมือจาก สว. ที่เป็นเสียงข้างน้อย และมีความเป็นอิสระ ไม่ได้เกี่ยวข้องกับกระบวนการฮั้วเข้ามา รวมถึง สว. อิสระที่มีจิตใจรักความถูกต้อง ให้มาร่วมลงชื่อตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 82 ให้ครบจำนวน 20 คน เพื่อแสดงความบริสุทธิ์ใจและรักษาภาพลักษณ์ รวมถึงเกียรติภูมิของวุฒิสภาว่า พวกเราไม่ยินดีที่จะทำหน้าที่ต่อไป ในขณะที่ที่มาของ สว. ส่วนใหญ่นั้นยังมัวหมอง เทา และไม่โปร่งใส และจะชักชวน สว. ที่มีจิตใจเป็นประชาธิปไตยและเชื่อมั่นในอำนาจของประชาชน ให้ร่วมกันหยุดปฏิบัติหน้าที่ เพื่อให้ประชาชนได้ตรวจสอบจนกว่าความสงสัยจะหมดสิ้นไป
นอกจากนี้ น.ส.นันทนา กล่าวเสริมว่า ในสัปดาห์หน้า ตนจะนำเรื่องนี้ส่งไปถึง นายมงคล สุระสัจจะ ประธานวุฒิสภา ซึ่งเป็นหนึ่งในจำนวน สว. 55 คน ที่ถูก กกต. กล่าวหา เพื่อขอให้นำเรื่องดังกล่าวส่งต่อไปยังตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ ซึ่งจะได้เห็นกันว่าท่านประธานวุฒิสภาจะดำเนินการหรือไม่ และจะได้เห็นถึงจิตวิญญาณของคนที่อาสาเข้ามาทำงานตรงนี้ว่า ท่านเห็นแก่ประโยชน์ส่วนตนหรือประโยชน์ของประเทศชาติ
น.ส.นันทนา ยังระบุว่า ในวันนี้คณะวิปวุฒิสภากำลังมีการประชุม เพื่อพิจารณาบรรจุวาระให้มีการตั้งคณะกรรมาธิการ (กมธ.) วิสามัญพิจารณาผู้ดำรงตำแหน่งในศาลรัฐธรรมนูญ 2 ตำแหน่ง และ กกต. 1 ตำแหน่ง ซึ่งหากวาระนี้ถูกบรรจุเข้าไป แสดงว่ากระบวนการดังกล่าวยังคงเดินหน้าต่อไป และเมื่อเปิดประชุมสภา ก็จะมีการลงมติในเรื่องเหล่านี้ ซึ่ง น.ส.นันทนา ตั้งคำถามว่า การดำเนินการเช่นนี้ยังมีความสง่างามหรือชอบธรรมอยู่หรือไม่ ในสถานการณ์ที่ที่มาของ สว. ส่วนใหญ่ยังเป็นที่กังขาของสังคม