ตำรวจนครศรีธรรมราชเปรียบเทียบปรับ 1,000 บาท พร้อมเยียวยา 5,000 บาท กรณีรถจักรยานยนต์ชนเด็กนักเรียนบนทางม้าลาย
เมื่อวันที่ 11 เมษายน 2568 กรณีโลกโซเชียลมีการเผยแพร่คลิปวิดีโอกล้องหน้ารถ จับภาพนาทีรถจักรยานยนต์ชนเด็กนักเรียนชาย ขณะกำลังข้ามถนนทางม้าลาย บริเวณถนนสาย 408 ใกล้สี่แยกหัวถนน ฝั่งเข้าเมือง ในพื้นที่รับผิดชอบของ สภ.ชะเมา อ.เมือง จ.นครศรีธรรมราช
จากคลิปดังกล่าวเห็นได้ชัดว่ารถจักรยานยนต์คันก่อเหตุขับขี่ด้วยความประมาท ไม่หยุดให้ทางแม้จะเป็นทางม้าลาย ทำให้เด็กนักเรียนชายได้รับบาดเจ็บ หลังคลิปถูกเผยแพร่เกิดกระแสวิพากษ์วิจารณ์อย่างกว้างขวางบนโซเชียลมีเดีย
ผู้สื่อข่าวลงพื้นที่สอบถามผู้เห็นเหตุการณ์ เจ้าของร้านค้าใกล้จุดเกิดเหตุเปิดเผยว่า เหตุการณ์เกิดขึ้นในช่วงเย็นวันที่ 9 เมษายนที่ผ่านมา โดยเด็กที่ถูกรถชนคาดว่าเป็นนักเรียนโรงเรียนเทศบาลในพื้นที่ นอกจากนี้ยังระบุว่าตนเองเคยเกือบถูกรถจักรยานยนต์ชนขณะข้ามทางม้าลายบริเวณนี้มาก่อน
“ทางม้าลายจุดนี้แม้จะมีการทาสีชัดเจน แต่ผู้ขับขี่รถโดยเฉพาะรถจักรยานยนต์มักขับด้วยความเร็วและไม่ให้ความสำคัญกับทางม้าลาย อยากให้ผู้ขับขี่มีวินัยมากขึ้น และอยากให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องพิจารณาติดตั้งสัญญาณไฟสำหรับคนข้ามถนนให้ชัดเจน” เจ้าของร้านกล่าว
พ.ต.อ.ยรรยง หิรัญบูรณะ ผกก.สภ.ชะเมา เปิดเผยว่า จากการตรวจสอบพบว่ารถจักรยานยนต์ยี่ห้อฮอนด้า สีดำ-เทา ทะเบียน 2 กม 1682 นครศรีธรรมราช โดยมีนายภาณุวัฒน์ เป็นผู้ขับขี่ ได้เฉี่ยวชนเด็กชายธนดลจนได้รับบาดเจ็บ หลังเกิดเหตุผู้ปกครองได้นำเด็กส่งโรงพยาบาลพระพรหมเพื่อรักษาพยาบาล โดยนายภาณุวัฒน์ได้ติดตามไปและชำระค่ารักษาเบื้องต้นจำนวน 1,554 บาท
ต่อมาทางตำรวจได้เรียกตัวคู่กรณีทั้งสองฝ่ายมาสอบปากคำ และได้แจ้งข้อกล่าวหาแก่นายภาณุวัฒน์ในสองข้อหา คือ 1. ขับขี่รถโดยประมาทเป็นเหตุให้ผู้อื่นได้รับอันตราย และ 2. ไม่หยุดรถให้คนข้ามทางม้าลาย โดยนายภาณุวัฒน์ให้การรับสารภาพและขอให้เปรียบเทียบปรับ
ผลการดำเนินคดี ตำรวจได้เปรียบเทียบปรับนายภาณุวัฒน์เป็นเงิน 1,000 บาท ส่วนค่าเสียหายและค่าสินไหมทดแทนนั้น ทั้งสองฝ่ายตกลงกันให้นายภาณุวัฒน์จ่ายเป็นจำนวนเงิน 5,000 บาท ภายในวันที่ 17 เมษายนนี้
ทางตำรวจยังได้ให้คำแนะนำแก่ผู้ปกครองทั้งสองฝ่ายเกี่ยวกับความปลอดภัยในการใช้ทางม้าลาย และชื่นชมผู้ที่โพสต์คลิปวิดีโอซึ่งเป็นพยานหลักสำคัญในการพิสูจน์ข้อเท็จจริง พร้อมทั้งแจ้งว่าจะมีการลงพื้นที่เพื่ออำนวยความปลอดภัยบริเวณทางม้าลายร่วมกับชุมชน เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดเหตุการณ์ลักษณะนี้ซ้ำอีก