กล้าธรรมคว้าชัยขาดลอย! เลือกตั้งซ่อม สส.นครศรีธรรมราช เขต 8 ทิ้งห่างคู่แข่ง สะเทือนสนามการเมืองใต้

นครศรีธรรมราช – ผลการเลือกตั้งซ่อมสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (สส.) จังหวัดนครศรีธรรมราช เขตเลือกตั้งที่ 8 อย่างไม่เป็นทางการ ปรากฏว่า นายก้องเกียรติ เกตุสมบัติ ผู้สมัครหมายเลข 5 จากพรรคกล้าธรรม สามารถคว้าชัยชนะได้อย่างถล่มทลาย ทิ้งห่างคู่แข่งคนสำคัญอย่าง นายไสว เลื่องสีนิล ผู้สมัครหมายเลข 2 จากพรรคภูมิใจไทย และนายชินวรณ์ บุณยเกียรติ ผู้สมัครหมายเลข 4 จากพรรคประชาธิปัตย์ หลายหมื่นคะแนน

การเลือกตั้งซ่อมครั้งนี้ถูกจับตาในฐานะสนามวัดพลังของ 3 พรรคร่วมรัฐบาล โดยภายหลังปิดหีบลงคะแนนเมื่อเย็นวันที่ 27 เมษายนที่ผ่านมา และนับคะแนนเสร็จสิ้นอย่างรวดเร็ว ผลการนับคะแนนสูงสุด 5 อันดับ มีดังนี้

  • อันดับ 1: นายก้องเกียรติ เกตุสมบัติ (พรรคกล้าธรรม) หมายเลข 5 ได้ 38,680 คะแนน
  • อันดับ 2: นายไสว เลื่องสีนิล (พรรคภูมิใจไทย) หมายเลข 2 ได้ 28,417 คะแนน
  • อันดับ 3: นายณัฐกิตต์ อยู่ด้วง (พรรคประชาชน) หมายเลข 3 ได้ 6,811 คะแนน
  • อันดับ 4: นายชินวรณ์ บุณยเกียรติ (พรรคประชาธิปัตย์) หมายเลข 4 ได้ 4,190 คะแนน
  • อันดับ 5: ว่าที่ พ.ต.กวี ไกรทอง (พรรคพร้อม) หมายเลข 1 ได้ 238 คะแนน

ทั้งนี้ มีผู้มาใช้สิทธิ์เลือกตั้งทั้งหมด 81,750 คน คิดเป็นร้อยละ 69.45 ของผู้มีสิทธิ์เลือกตั้งทั้งหมดในเขตนี้จำนวน 117,717 คน

ชัยชนะของนายก้องเกียรติ เกตุสมบัติ จากพรรคกล้าธรรม ถือเป็นชัยชนะที่เหนือความคาดหมายในด้านของส่วนต่างคะแนน แม้ก่อนหน้านี้จะถูกจัดให้เป็นหนึ่งในตัวเต็งร่วมกับนายไสว เลื่องสีนิล จากพรรคภูมิใจไทย แต่คะแนนที่ออกมานั้นทิ้งห่างคู่แข่งอันดับ 2 มากกว่า 10,000 คะแนน สะท้อนถึงกระแสความนิยมที่ชัดเจนในพื้นที่

การเลือกตั้งซ่อมครั้งนี้เกิดขึ้นภายหลังจากที่ คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) มีมติให้ใบแดง นางมุกดาวรรณ เลื่องสีนิล อดีต สส.พรรคภูมิใจไทย ผู้ชนะการเลือกตั้งเมื่อปี 2566 และต่อมาศาลฎีกามีคำพิพากษาเพิกถอนสิทธิ์ทางการเมืองของนางมุกดาวรรณฯ ฐานความผิดตามกฎหมายเลือกตั้ง เนื่องจากมีหลักฐานอันควรเชื่อได้ว่ามีส่วนสนับสนุนหรือรู้เห็นเป็นใจให้เงินแก่ผู้มีสิทธิ์เลือกตั้งเพื่อจูงใจให้ลงคะแนนให้ตนเอง

พรรคภูมิใจไทยจึงส่ง นายไสว เลื่องสีนิล สามีของอดีต สส. ลงสมัครเพื่อรักษาฐานที่มั่นเดิม โดยถูกมองว่าเป็นตัวเต็งอันดับสอง ขณะที่นายก้องเกียรติ เกตุสมบัติ จากพรรคกล้าธรรม ซึ่งมีผลงานในพื้นที่ก่อนหน้านี้ ถูกจัดให้เป็นตัวเต็งอันดับหนึ่ง ส่วนนายชินวรณ์ บุณยเกียรติ อดีต สส. 9 สมัยของพรรคประชาธิปัตย์ ถูกมองเป็นตัวเต็งอันดับสามหรือสี่

ผลลัพธ์ที่น่าจับตาเป็นพิเศษคือ คะแนนของพรรคประชาธิปัตย์ ซึ่งครั้งหนึ่งเคยเป็นพรรคที่มีฐานเสียงแข็งแกร่งในภาคใต้ การที่นายชินวรณ์ฯ ได้คะแนนเพียง 4,190 คะแนน และอยู่ในอันดับ 4 ห่างจากอันดับ 1 เกือบ 34,500 คะแนน ถือเป็นการสวนทางอย่างสิ้นเชิงกับผลงานของพรรคกล้าธรรม ทำให้เกิดคำถามถึงอนาคตของพรรคเก่าแก่ในพื้นที่ภาคใต้

ขณะเดียวกัน ข้อกล่าวหาเรื่องการใช้ ‘กระสุน’ หรือการทุจริตซื้อสิทธิ์ขายเสียงที่ถูกวิพากษ์วิจารณ์ว่าอาจมากที่สุดเป็นประวัติการณ์ของการเลือกตั้งในจังหวัด เป็นหน้าที่ของ กกต. ที่จะต้องเร่งตรวจสอบและพิสูจน์ความจริงอย่างโปร่งใส ไม่เพียงเพื่อให้ความเป็นธรรมต่อผู้สมัครทุกคน แต่ยังเพื่อให้ความเป็นธรรมกับชาวนครศรีธรรมราช ผู้มีสิทธิ์เลือกตั้ง ซึ่งคาดหวังเห็นการเลือกตั้งที่บริสุทธิ์ยุติธรรมอย่างแท้จริง

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *