สองผู้ต้องหาคนสำคัญคดีอาคาร สตง. ถล่ม เข้ามอบตัว ยันทำแค่ “ระบบ” ไม่เกี่ยวโครงสร้าง พร้อมสู้คดี เตรียมเงินประกัน
เมื่อวันที่ 19 พฤษภาคม ที่สถานีตำรวจนครบาลบางซื่อ (สน.บางซื่อ) นายพลเดช (สงวนนามสกุล) กรรมการบริษัท ว. และสหาย คอนซัลแตนส์ จำกัด และนางประณีต ในฐานะนิติบุคคลของบริษัทดังกล่าว ซึ่งเป็น 2 ผู้ต้องหาที่เหลือจากทั้งหมด 17 คน ในคดีที่เกี่ยวข้องกับการทำให้อาคารสำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) แห่งใหม่ ถล่มลงมา ได้เดินทางเข้ามอบตัวต่อพนักงานสอบสวนแล้ว หลังจากถูกออกหมายจับทั้งในฐานะส่วนตัวและนิติบุคคล
ผู้ต้องหาทั้งสองรายถูกแจ้งข้อหาตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 227 ต่อเนื่องด้วยมาตรา 238 ในฐานความผิด “เป็นผู้มีวิชาชีพในการออกแบบ ควบคุม หรือทำการก่อสร้าง ซ่อมแซม หรือรื้อถอนอาคาร หรือสิ่งปลูกสร้างใดๆ ไม่ปฏิบัติตามหลักเกณฑ์ หรือวิธีการอันพึงกระทำการนั้นๆ โดยประการที่น่าจะเป็นเหตุให้เกิดอันตรายแก่บุคคลอื่น เป็นเหตุให้บุคคลอื่นถึงแก่ความตาย”
ระหว่างที่นายพลเดชกำลังเข้าสู่กระบวนการสอบสวน ผู้สื่อข่าวได้สอบถามถึงประเด็นต่างๆ ทั้งเรื่องเอกสารหลักฐานที่จะนำมาแสดง และความมั่นใจในการต่อสู้คดี ซึ่งนายพลเดชกล่าวสั้นๆ ว่า “ต้องรอดูผลทางคดีก่อนว่าจะเป็นอย่างไร” เมื่อถามย้ำถึงความกังวลว่าจะถูกส่งตัวเข้าเรือนจำ เนื่องจากผู้ต้องหาก่อนหน้านี้ไม่ได้รับอนุญาตให้ประกันตัว นายพลเดชตอบว่า “ก็ให้เป็นไปตามกระบวนการของทางราชการ แต่ยืนยันไม่ได้กังวลใจ” สำหรับประเด็นเกี่ยวกับมาตรฐานการก่อสร้างและรายละเอียดทางคดี นายพลเดชขอไม่ตอบคำถาม โดยระบุว่าจะให้ทนายความเป็นผู้ชี้แจงแทน พร้อมยืนยันว่า การเดินทางมาในวันนี้ เป็นการแสดงความบริสุทธิ์ใจและพร้อมเข้าสู่กระบวนการยุติธรรม
ด้านนายพฤหัส มหาวรรณ ทนายความของบริษัทฯ ยืนยันว่าลูกความไม่ได้มีเจตนาหลบหนี และการเข้ามอบตัวในวันนี้เป็นไปตามนัด โดยได้เตรียมเอกสารคำร้องขอปล่อยตัวชั่วคราว เพื่อนำเสนอต่อศาลประกอบการพิจารณา
นายพฤหัสได้ชี้แจงต่อสื่อมวลชนถึงเหตุผลและข้อเท็จจริงที่เกี่ยวข้องทางคดี โดยระบุว่า บริษัท ว. และสหาย คอนซัลแตนส์ จำกัด รับผิดชอบเฉพาะงานระบบไฟฟ้าและระบบประปาภายในอาคารเท่านั้น ซึ่งเป็นงานที่ไม่เกี่ยวข้องกับโครงสร้างอาคารแต่อย่างใด และไม่น่าจะเป็นสาเหตุที่ทำให้อาคารถล่มลงมาได้ ส่วนนางประณีตนั้น มีตำแหน่งงานด้านบัญชีภายในบริษัท ไม่ได้เกี่ยวข้องกับการดำเนินงานด้านการก่อสร้างโดยตรงเช่นกัน
เมื่อถูกถามว่าการแจ้งข้อกล่าวหาเกี่ยวกับการก่อสร้างไม่ได้มาตรฐานนั้น อาจเป็นการเหมารวมหรือถูกกลั่นแกล้งหรือไม่ นายพฤหัสกล่าวว่า ถือเป็นอำนาจของพนักงานสอบสวนที่จะทำสำนวนไปในลักษณะนั้นได้ แต่ในฐานะทนายความและผู้ต้องหา ก็ต้องเข้าสู่กระบวนการต่อสู้คดี และนำพยานหลักฐานต่างๆ เสนอต่อศาลเพื่อประกอบการพิจารณาในการขอประกันตัวชั่วคราว เพราะในชั้นนี้ ศาลยังไม่ได้มีคำวินิจฉัยว่าใครกระทำผิด
ส่วนประเด็นเรื่องการเข้าร่วมประชุมคณะกรรมการตรวจการจ้าง ในฐานะบริษัทที่รับผิดชอบงานระบบ นายพฤหัสระบุว่า ยังไม่มีข้อมูลส่วนนี้ แต่ยืนยันได้ว่าบริษัทรับผิดชอบเฉพาะงานระบบไฟฟ้าและประปาจริง โดยมีเอกสารยืนยันชัดเจน และสำหรับกรณีที่มีกระแสข่าวว่ามีพนักงานบริษัทเคยถูกขอให้ไปถ่ายรูปเพื่อยืนยันการควบคุมงานก่อสร้างนั้น นายพฤหัสกล่าวว่า ยังไม่ได้รับข้อมูลในส่วนนี้เช่นกัน
ทนายความระบุว่า ได้เตรียมหลักทรัพย์ในการยื่นขอประกันตัวไว้เป็นวงเงินไม่ต่ำกว่า 1 ล้านบาท โดยเชื่อว่าขึ้นอยู่กับดุลยพินิจของศาล แม้ว่าวงเงินจริงตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 227 ต่อเนื่อง 238 อาจจะไม่ถึง 3 แสนบาท แต่ก็เตรียมไว้พร้อม และย้ำว่าไม่ได้มีความกังวลใจแต่อย่างใด เพราะได้เตรียมพยานหลักฐานเพื่อต่อสู้คดีไว้แล้ว
ขณะที่นางประณีต หนึ่งในผู้ต้องหาที่เดินทางมามอบตัว กล่าวเพียงสั้นๆ กับผู้สื่อข่าวว่า “กังวลใจเล็กน้อย”