ปริศนาซากเสือโคร่งไซบีเรียลอยกลางทะเลรัสเซีย สัตว์ใกล้สูญพันธุ์ตายห่างถิ่นที่อยู่
วลาดีวอสตอค, รัสเซีย – สร้างความตกตะลึงและเป็นปริศนาอย่างยิ่ง เมื่อชาวประมงบริเวณชายฝั่งตะวันออกของรัสเซียได้พบกับซากของ ‘เสือโคร่งไซบีเรีย’ หรือ ‘เสือโคร่งอามูร์’ สัตว์ป่าใกล้สูญพันธุ์ระดับโลก ลอยอยู่กลางทะเลอย่างไม่คาดฝันและห่างไกลจากถิ่นที่อยู่อาศัยตามธรรมชาติของมันหลายกิโลเมตร
เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นเมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมาในทะเลญี่ปุ่น ใกล้กับชายฝั่งเมืองวลาดีวอสตอค ภาพที่ถ่ายจากบนเรือแสดงให้เห็นซากเสือโคร่งตัวเต็มวัยในสภาพค่อนข้างสมบูรณ์ลอยนิ่งอยู่เหนือน้ำ ขณะที่เรือแล่นผ่าน สร้างความประหลาดใจและสะเทือนใจแก่ผู้ที่พบเห็นอย่างมาก
เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ออกมายืนยันในเวลาต่อมาว่า ซากสัตว์ที่พบลอยอยู่ในทะเลนั้นคือเสือโคร่งไซบีเรีย ซึ่งเป็นเสือโคร่งสายพันธุ์หายากที่สุดในโลก และกำลังอยู่ในภาวะใกล้สูญพันธุ์อย่างยิ่งยวด เสือโคร่งสายพันธุ์นี้ปกติจะอาศัยอยู่ในป่าลึกบริเวณตะวันออกไกลของรัสเซียและบางส่วนของจีน การพบซากของมันกลางทะเลจึงเป็นเรื่องที่ผิดปกติและน่าสงสัยอย่างมาก
แม้ในเบื้องต้นจะไม่พบร่องรอยการบาดเจ็บภายนอกที่ชัดเจนบนซากเสือ แต่การเสียชีวิตและการที่ซากลอยมาอยู่กลางทะเลลึกได้นั้นยังคงเป็นปริศนา ซึ่งเหตุการณ์นี้ได้กระตุ้นให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องในรัสเซียต้องเร่งดำเนินการสอบสวน
สำนักงานอัยการประจำเมืองวลาดีวอสตอคได้เปิดการสอบสวนอย่างเป็นทางการ เพื่อตรวจสอบทุกแง่มุมที่เกี่ยวข้องกับเหตุการณ์นี้ ทั้งสาเหตุการเสียชีวิตของเสือโคร่งตัวดังกล่าว และกระบวนการที่ทำให้ซากของมันมาปรากฏอยู่กลางทะเล ห่างไกลจากถิ่นที่อยู่บนบก
ในขณะเดียวกัน หน่วยงานควบคุมการล่าสัตว์ประจำภูมิภาคก็ได้เริ่มกระบวนการตรวจสอบเช่นกัน โดยกำลังพยายามยืนยันว่าเป็นซากเสือตัวเดียวกับที่ปรากฏในคลิปวิดีโอหลักฐานที่เผยแพร่ในโซเชียลมีเดียหรือไม่ และกำลังเร่งค้นหาและกู้ร่างของเสือโคร่งขึ้นจากน้ำให้ได้โดยเร็วที่สุด เพื่อนำไปตรวจสอบทางนิติวิทยาศาสตร์หาสาเหตุการตายที่แท้จริง
คลิปวิดีโอภาพซากเสือโคร่งลอยน้ำที่ถ่ายโดยชาวประมงได้ถูกเผยแพร่และกลายเป็นกระแสไวรัลอย่างรวดเร็วบนแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดีย ทำให้เกิดการพูดถึงและแสดงความกังวลเกี่ยวกับชะตากรรมของสัตว์ป่าหายากตัวนี้ไปทั่วโลก
เสือโคร่งไซบีเรีย (Panthera tigris altaica) จัดเป็นหนึ่งในเสือโคร่งสายพันธุ์ย่อยที่มีขนาดใหญ่ที่สุด ปัจจุบันเหลือจำนวนประชากรอยู่ในธรรมชาติเพียงประมาณ 500 ตัว และได้รับการจัดสถานะเป็นสัตว์ใกล้สูญพันธุ์ (Endangered) ตามการประเมินของ IUCN (International Union for Conservation of Nature) ความพยายามในการอนุรักษ์และเพิ่มจำนวนประชากรเสือโคร่งไซบีเรียยังคงเป็นความท้าทายที่สำคัญในระดับโลก
การค้นพบอันน่าเศร้าและเต็มไปด้วยปริศนาครั้งนี้ ตอกย้ำถึงความเปราะบางของสัตว์ป่าหายาก และเรียกร้องให้มีการสอบสวนอย่างละเอียดเพื่อคลี่คลายข้อสงสัยทั้งหมดที่เกิดขึ้น.