วิกฤตเมียนมาใน BIMSTEC: ไทยเดินเส้นทางยุทธศาสตร์ระหว่างหลักการและผลประโยชน์

การประชุม BIMSTEC ที่ไทยเป็นเจ้าภาพกลายเป็นเวทีร้อนแรง เมื่อ “มิน อ่อง ไหล่” ผู้นำรัฐบาลทหารเมียนมาเดินทางมาร่วมงาน ท่ามกลางเสียงประท้วงจากกลุ่มสิทธิมนุษยชนที่ประณามการยึดอำนาจโดยใช้กำลัง

เหตุการณ์นี้สะท้อนความซับซ้อนของนโยบายต่างประเทศไทย ที่ต้องบาลานซ์ระหว่างหลักการประชาธิปไตยกับผลประโยชน์แห่งชาติ เนื่องจากไทยมีพรมแดนติดเมียนมายาวกว่า 2,400 กิโลเมตร

ประเด็นร้อนจากการปรากฏตัว

นักกิจกรรมกว่า 50 คนออกมาเคลื่อนไหวหน้าสถานที่จัดงาน ประณาม “การต้อนรับผู้นำรัฐประหาร” ขณะที่รัฐบาลไทยยืนยันว่าเป็นการประชุมพหุภาคีที่ต้องรับรองผู้แทนทุกประเทศ

3 มิติที่ไทยต้องพิจารณา

  1. ความมั่นคงชายแดน – สถานการณ์รุนแรงในเมียนมาทำให้มีผู้อพยพเข้าสู่ไทยแล้วกว่า 40,000 คน
  2. เศรษฐกิจและการค้าชายแดน – มูลค่าการค้าชายแดนไทย-เมียนมาหายไปกว่า 30% หลังรัฐประหาร
  3. ความสัมพันธ์กับมหาอำนาจ – เมียนมากลายเป็นสมรภูมิแข่งขันระหว่างจีน-ตะวันตก

ความเห็นผู้เชี่ยวชาญ

ดร.สมชาย วิทย์วิศทุล ผู้เชี่ยวชาญเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ศึกษาวิเคราะห์ว่า “ไทยต้องเล่นบทบาทผู้ไกล่เกลี่ยมากกว่าผู้ตัดสิน เนื่องจากเรามีผลประโยชน์เชิงยุทธศาสตร์ที่จับต้องได้มากกว่าประเทศตะวันตก”

ขณะที่กระทรวงการต่างประเทศย้ำเจตนารมย์ในการเป็น “สะพานสันติภาพ” แต่ก็ปฏิเสธไม่ลงรายละเอียดเกี่ยวกับการหารือสองฝ่ายกับผู้นำเมียนมา

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *