ย่างกุ้ง, เมียนมา – สำนักข่าวต่างประเทศรายงานเมื่อวันที่ 25 เมษายนว่า เจ้าหน้าที่เมียนมาได้เข้าจับกุม นายจอห์น โม เท หมอดูชื่อดังวัย 21 ปี ซึ่งเป็นที่รู้จักบนแพลตฟอร์ม TikTok ด้วยผู้ติดตามกว่า 300,000 คน หลังถูกกล่าวหาว่าได้สร้างความหวาดวิตกให้กับประชาชนด้วยการเผยแพร่คำทำนายเกี่ยวกับการเกิดแผ่นดินไหวรุนแรงครั้งใหม่

การจับกุมครั้งนี้เกิดขึ้นท่ามกลางบรรยากาศที่ประชาชนยังคงเปราะบางและหวาดหวั่น หลังจากที่เมียนมาเพิ่งประสบเหตุแผ่นดินไหวครั้งใหญ่เมื่อปลายเดือนมีนาคมที่ผ่านมา ซึ่งเป็นเหตุให้มีผู้เสียชีวิตสูงถึงราว 3,700 ราย และมีผู้ไร้ที่อยู่อาศัยอีกกว่า 60,000 ราย

สื่อทางการเมียนมาระบุว่า นายจอห์น โม เท ได้ทำนายผ่านคลิปวิดีโอซึ่งมียอดเข้าชมสูงถึงกว่า 3.3 ล้านครั้ง ว่าจะเกิดแผ่นดินไหวที่รุนแรงอย่างมากในวันที่ 9 เมษายน และจะส่งผลกระทบสั่นสะเทือนไปทั่วทุกเมืองในเมียนมา พร้อมทั้งได้แนบข้อความเตือนภัยใต้คลิปดังกล่าวว่า “ผู้คนไม่ควรอยู่บนอาคารสูงในระหว่างวัน พกสิ่งของสำคัญติดตัวไปด้วยและวิ่งออกจากอาคารเมื่อเกิดแผ่นดินไหว” คำทำนายนี้แม้จะผ่านมาแล้วและไม่เกิดขึ้นจริง แต่ก็สร้างความตื่นตระหนกอย่างกว้างขวาง

รัฐบาลทหารเมียนมาได้ออกแถลงการณ์เกี่ยวกับเหตุการณ์นี้ โดยระบุว่า “เราได้รับแจ้งว่ามีการเผยแพร่ข่าวปลอมผ่านบัญชีติ๊กต็อกว่าจะเกิดแผ่นดินไหวรุนแรง เราจะดำเนินการกับบุคคลนี้ตามกฎหมาย เราจะดำเนินการอย่างเด็ดขาดกับผู้ที่เขียน เผยแพร่ หรือแชร์ข่าวปลอมด้วย” แถลงการณ์ดังกล่าวย้ำถึงความมุ่งมั่นของทางการที่จะจัดการกับข้อมูลที่บิดเบือน โดยเฉพาะอย่างยิ่งในสถานการณ์ที่ประชาชนกำลังเผชิญกับความยากลำบากจากภัยพิบัติ

เจ้าหน้าที่ระบุว่า พวกเขาได้เข้าจับกุมนายจอห์น โม เท ระหว่างปฏิบัติการบุกค้นบ้านพักของเขาในเมืองโมนยวา ซึ่งเป็นเมืองหลักของภาคซะไกง์ (Sagaing Region) เมื่อช่วงเช้าตรู่ของวันที่ 22 เมษายนที่ผ่านมา

สำหรับบัญชี TikTok ของนายจอห์น โม เท ใช้ชื่อว่า “จอห์น (ศาสตร์แห่งลายมือ)” โดยมีเนื้อหาเกี่ยวกับคำทำนายเหตุการณ์ต่างๆ รวมถึงภัยพิบัติทางธรรมชาติ และเคยโพสต์คลิปทำนายเกี่ยวกับการปล่อยตัวนางออง ซาน ซู จี อดีตผู้นำรัฐบาลพลเรือนของเมียนมา ซึ่งถูกควบคุมตัวภายหลังการรัฐประหารของกองทัพในปี พ.ศ. 2564

การจับกุมหมอดู TikTok รายนี้สะท้อนให้เห็นถึงความกังวลของทางการเมียนมาเกี่ยวกับการแพร่กระจายของข้อมูลที่ไม่ถูกต้องและสร้างความปั่นป่วนในสังคม โดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วงเวลาที่ประเทศกำลังฟื้นตัวจากความเสียหายของภัยพิบัติทางธรรมชาติครั้งใหญ่