กองทัพเมียนมาละเมิดหยุดยิง! ทิ้งระเบิด ‘สารพิษ’ ใส่พลเรือนคาเรนนี บ้านเรือนพัง ชาวบ้านสูดควันป่วยกว่า 50 ราย
แม่ฮ่องสอน – กองทัพเมียนมาละเมิดข้อตกลงหยุดยิงอย่างร้ายแรง โดยส่งเครื่องบินรบเข้าโจมตีทางอากาศในพื้นที่เมืองดีมอโซว์ รัฐคาเรนนี เมื่อวันที่ 6 พฤษภาคม ที่ผ่านมา การโจมตีดังกล่าวไม่เพียงสร้างความเสียหายแก่บ้านเรือนพลเรือนหลายหลัง แต่ยังพบว่ามีการใช้ระเบิดที่มีสารพิษเจือปน ทำให้ประชาชนกว่า 50 รายที่สูดดมควันพิษเข้าไป มีอาการวิงเวียนศีรษะ หายใจติดขัด และแน่นหน้าอก เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นท่ามกลางคำประกาศหยุดยิงของรัฐบาลทหารเมียนมาเอง
ผู้สื่อข่าวรายงานจากพื้นที่ชายแดนแม่ฮ่องสอน เมื่อวันที่ 7 พฤษภาคม 2568 ว่า แหล่งข่าวผู้นำระดับสูงของกองทัพคาเรนนี (Karenni Army / KA) ได้เปิดเผยรายละเอียดเกี่ยวกับการโจมตีทางอากาศที่เกิดขึ้นในรัฐคาเรนนีเมื่อคืนวานนี้ (6 พฤษภาคม 2568)
ตามรายงานของแหล่งข่าว เมื่อเวลาประมาณ 22.50 น. ของวันที่ 6 พฤษภาคม 2568 เครื่องบินรบของกองทัพอากาศเมียนมาได้บินเข้ามาทิ้งระเบิดจำนวน 5 ลูก ใส่บริเวณสถานีอนามัยเก่าในเมืองดีมอโซว์ ไม่นานหลังจากนั้น ในเวลาประมาณ 23.00 น. เครื่องบินรบลำเดิมหรือลำอื่นได้กลับมาทิ้งระเบิดอีก 5 ลูกในบริเวณหมู่บ้านใกล้เคียง แรงระเบิดส่งผลให้อาคารบ้านเรือนของประชาชนได้รับความเสียหายหลายหลัง
สิ่งที่น่ากังวลอย่างยิ่งคือ ลักษณะของระเบิดที่ใช้ในการโจมตีครั้งนี้ แหล่งข่าวระบุว่าในควันของระเบิดพบสารพิษเจือปน ส่งผลกระทบโดยตรงต่อสุขภาพของประชาชนในพื้นที่ที่สูดดมควันเข้าไป มีรายงานว่ามีประชาชนมากกว่า 50 คน แสดงอาการป่วยหลังสัมผัสควันพิษดังกล่าว โดยมีอาการวิงเวียนศีรษะ หายใจไม่สะดวก และรู้สึกแน่นหน้าอก ซึ่งเป็นสัญญาณบ่งชี้ถึงการได้รับสารเคมีอันตราย
การกระทำของกองทัพอากาศเมียนมาในครั้งนี้ ถือเป็นการละเมิดข้อตกลงและคำสั่งของรัฐบาลทหารเมียนมาเองอย่างชัดเจน เนื่องจากก่อนหน้านี้ ทางรัฐบาลทหารได้มีประกาศขยายระยะเวลาการหยุดยิงออกไปจนถึงสิ้นเดือนพฤษภาคม 2568 การโจมตีทางอากาศใส่พื้นที่พลเรือนจึงเป็นการขัดต่อประกาศดังกล่าวอย่างสิ้นเชิง
แหล่งข่าวยังได้กล่าวถึงเหตุการณ์โจมตีที่คล้ายคลึงกันที่เคยเกิดขึ้นก่อนหน้านี้ เช่น การทิ้งระเบิดโจมตีเหมือนแร่ในเมืองมอชีว์ ซึ่งเหตุการณ์นั้นส่งผลให้มีผู้เสียชีวิต ซึ่งรวมถึงเด็กและหญิงสูงวัย และมีผู้ได้รับบาดเจ็บอีกจำนวนหนึ่ง การโจมตีล่าสุดในเมืองดีมอโซว์ ยิ่งตอกย้ำถึงความรุนแรงที่ยังคงเกิดขึ้นและผลกระทบต่อชีวิตของประชาชนผู้บริสุทธิ์ในรัฐคาเรนนี.