ปศุสัตว์มุกดาหาร เปิด 4 วิธีทำลายเชื้อ ‘แอนแทรกซ์’ ย้ำ ‘ห้ามใช้น้ำฉีด’ พร้อม 10 มาตรการคุมเข้มโรค
มุกดาหาร – ปศุสัตว์จังหวัดมุกดาหาร ร่วมกับสาธารณสุขจังหวัด ออกโรงให้คำแนะนำประชาชนถึงวิธีที่ถูกต้องในการทำลายเชื้อและสปอร์ของโรค ‘แอนแทรกซ์’ พร้อมย้ำข้อควรระวังที่สำคัญคือ ‘ห้ามใช้น้ำฉีดล้าง’ ชี้อาจทำให้เชื้อแพร่กระจายไปในวงกว้าง ขณะเดียวกันได้ประกาศใช้มาตรการควบคุมโรคในพื้นที่อย่างเข้มงวดถึง 10 ข้อ เพื่อยับยั้งการแพร่ระบาดในสัตว์และป้องกันการติดเชื้อสู่คน หลังพบผู้ติดเชื้อเพิ่มและมีผู้สัมผัสเสี่ยงสูงจำนวนมาก
วันที่ 7 พฤษภาคม 2568 น.สพ.ต่อพงศ์ ประเสริฐสังข์ ปศุสัตว์จังหวัดมุกดาหาร เปิดเผยถึงสถานการณ์และการดำเนินงานควบคุมโรคแอนแทรกซ์ในพื้นที่ว่า ทางจังหวัดได้ร่วมกับสำนักงานสาธารณสุขจังหวัดมุกดาหาร โดย นพ.ณรงค์ จันทร์แก้ว นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดมุกดาหาร ได้แนะนำ 4 วิธีการที่ถูกต้องในการทำลายเชื้อแอนแทรกซ์ ซึ่งเป็นสิ่งสำคัญอย่างยิ่งในการป้องกันการแพร่ระบาดของเชื้อ
4 วิธีทำลายเชื้อแอนแทรกซ์ ตามคำแนะนำของนายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดมุกดาหาร:
- การทำความสะอาดทั่วไป: ให้ใช้น้ำยา 0.5% โซเดียมไฮโปคลอไรท์ ซึ่งสามารถทำได้ง่ายๆ โดยใช้ไฮเตอร์ 1 ส่วน ผสมกับน้ำ 10 ส่วน (เช่น ไฮเตอร์ 1 ลิตร ต่อน้ำ 10 ลิตร) นำมาฟอก เช็ด ถู บริเวณพื้นผิวหรือวัตถุที่สงสัยว่าปนเปื้อนเชื้อ ทิ้งไว้อย่างน้อย 15 นาที จากนั้นให้ล้างและขัดด้วยน้ำร้อนตาม และปิดท้ายด้วยการล้างด้วยน้ำสะอาดและเช็ดให้แห้งสนิท
- การใช้สารเคมีเข้มข้น: ใช้โซดาไฟ (5% โซเดียมไฮดรอกไซด์) หรือน้ำยาฟอร์มาลิน (Formalin) ในการราดพื้นที่ เพื่อฆ่าสปอร์ของเชื้อซึ่งมีความทนทานต่อสภาวะแวดล้อมสูง
- การรมควัน: ใช้วิธีการรมควันด้วยฟอร์มาลดีไฮด์ (Formaldehyde) สำหรับฆ่าเชื้อในพื้นที่ปิดหรือบริเวณที่มีความเสี่ยงสูง
- การใช้ความร้อน: นำวัตถุที่ต้องการทำลายเชื้อมาต้มในน้ำเดือดอย่างน้อย 30 นาที หรือใช้วิธี Sterilization/Autoclave ที่อุณหภูมิ 121 องศาเซลเซียส เป็นเวลา 30 นาที
นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดมุกดาหาร ได้เน้นย้ำถึงข้อควรระวังที่สำคัญที่สุดคือ ไม่แนะนำให้ใช้น้ำฉีดล้างบริเวณที่พบเชื้อหรือซากสัตว์ป่วยตายเด็ดขาด เนื่องจากแรงดันน้ำอาจทำให้สปอร์ของเชื้อฟุ้งกระจายและแพร่ไปในอากาศหรือสิ่งแวดล้อมอื่นๆ ทำให้ควบคุมโรคได้ยากยิ่งขึ้น และหากประชาชนพบเหตุการณ์ที่สงสัยหรือมีความรุนแรงเกี่ยวกับโรคแอนแทรกซ์ สามารถแจ้งหน่วยงานทางราชการที่เกี่ยวข้องได้โดยด่วน
ด้าน น.สพ.ต่อพงศ์ ประเสริฐสังข์ ปศุสัตว์จังหวัดมุกดาหาร กล่าวเพิ่มเติมถึงมาตรการควบคุมโรคแอนแทรกซ์ที่ทางจังหวัดได้ดำเนินการอย่างเร่งด่วนจำนวน 10 มาตรการ ดังนี้
10 มาตรการควบคุมโรคแอนแทรกซ์จังหวัดมุกดาหาร:
- ตั้งคณะทำงานร่วม ประสานงานและเฝ้าระวังโรคแอนแทรกซ์กับทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องอย่างใกล้ชิด
- ประกาศเขตโรคระบาดแอนแทรกซ์สำหรับสัตว์ประเภท โค กระบือ แพะ แกะ ในพื้นที่เฝ้าระวังและพื้นที่โดยรอบ
- ดำเนินการกักสัตว์ ฉีดยา และเฝ้าระวังโรคในฝูงสัตว์ที่อยู่ในพื้นที่ใกล้เคียงจุดเกิดโรค
- ตรวจสอบและสอบสวนโรคเพื่อหาข้อเท็จจริงเกี่ยวกับสาเหตุและเส้นทางการแพร่ระบาด เพื่อวางแผนควบคุมและป้องกันได้อย่างมีประสิทธิภาพ
- ดำเนินการฆ่าเชื้อในพื้นที่จุดเสี่ยงและบริเวณที่พบสัตว์ป่วยตาย
- ประสานเครือข่ายในชุมชนร่วมกับเจ้าหน้าที่สาธารณสุขในการค้นหาโรค หากพบสัตว์ป่วยตายให้รีบแจ้งเจ้าหน้าที่สาธารณสุขหรือปศุสัตว์ในพื้นที่ทันที
- เร่งดำเนินการฉีดวัคซีนป้องกันโรคแอนแทรกซ์เพิ่มเติมในสัตว์ประเภท โค กระบือ ในรัศมี 5, 10 และ 15 กิโลเมตร จากพื้นที่เสี่ยง เพื่อสร้างภูมิคุ้มกันหมู่
- ตั้งจุดตรวจสัตว์และซากสัตว์ ควบคุมการเคลื่อนย้ายสัตว์และซากสัตว์เข้า-ออกพื้นที่เสี่ยงโดยเด็ดขาด
- ขอความร่วมมือตลาดนัดค้าสัตว์ในจังหวัดให้ปิดดำเนินการชั่วคราวเป็นเวลา 30 วัน เพื่อลดความเสี่ยงในการรวมกลุ่มและเคลื่อนย้ายสัตว์
- แจ้งเตือนและขอความร่วมมือประชาชน หากพบสัตว์ป่วยตาย ให้แจ้งเจ้าหน้าที่ปศุสัตว์ในพื้นที่ทุกแห่งทันที ห้ามทำการผ่าซาก ชำแหละ หรือนำซากสัตว์ที่ป่วยตายไปบริโภคอย่างเด็ดขาด รวมถึงขอให้ประชาชนงดบริโภคเนื้อดิบในช่วงเวลานี้
ปศุสัตว์จังหวัดมุกดาหาร ยืนยันว่า ขณะนี้ทางจังหวัดมุกดาหารได้ดำเนินการควบคุมสถานการณ์ตามขั้นตอนและมาตรการที่วางไว้อย่างเต็มที่ เพื่อยับยั้งการแพร่ระบาดของโรคแอนแทรกซ์ให้ได้โดยเร็วที่สุด