สลด! จยย.ซ้อน 3 ย้อนศร พุ่งชนกระบะเต็มแรง ดับ 2 ศพ กาญจนบุรี
กาญจนบุรี – เกิดเหตุสุดสลดที่จังหวัดกาญจนบุรี รถจักรยานยนต์บรรทุก 3 คน ขับข้ามเลนและย้อนศร พุ่งเข้าชนประสานงากับรถกระบะที่ขับมาทางตรงอย่างจัง เป็นเหตุให้หญิงชาวเมียนมาเสียชีวิตคาที่ 2 ราย และบาดเจ็บสาหัสอีก 1 ราย ขณะที่คนขับกระบะเผย มองไม่เห็นรถจักรยานยนต์เนื่องจากมีรถอีกคันจอดรอเลี้ยวบังอยู่
เหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อเวลาประมาณ 16.30 น. ของวันที่ 11 พฤษภาคม 2568 เจ้าหน้าที่ตำรวจสถานีตำรวจภูธรท่าเรือ จังหวัดกาญจนบุรี ได้รับแจ้งเหตุอุบัติเหตุรถชนกันและมีผู้เสียชีวิต บริเวณทางเข้าโรงงานไก่ไทยฟู๊ด หมู่ที่ 4 ตำบลอุโลกสี่หมื่น อำเภอท่ามะกา จังหวัดกาญจนบุรี
หลังรับแจ้งเหตุ เจ้าหน้าที่ตำรวจ พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่มูลนิธิขุนรัตนวุธ ได้รีบรุดเข้าตรวจสอบที่เกิดเหตุ บริเวณริมถนน พบร่างผู้เสียชีวิตเป็นหญิงสาวชาวเมียนมา จำนวน 2 ราย อายุประมาณ 20-30 ปี ในสภาพร่างกายบิดเบี้ยว แขนขาหัก จากแรงปะทะ ใกล้กันพบผู้ได้รับบาดเจ็บสาหัสอีก 1 ราย เป็นหญิงชาวเมียนมาวัยใกล้เคียงกัน เจ้าหน้าที่มูลนิธิฯ ได้ให้การปฐมพยาบาลเบื้องต้นอย่างเร่งด่วน ก่อนนำตัวส่งโรงพยาบาลใกล้เคียงเพื่อให้แพทย์ทำการรักษาเป็นการด่วน
จากการตรวจสอบบริเวณโดยรอบจุดเกิดเหตุ พบรถจักรยานยนต์ยี่ห้อยามาฮ่า สีดำ ล้มตะแคงอยู่ริมถนนในสภาพพังเสียหายยับเยินทั้งคัน บ่งบอกถึงความรุนแรงของการชน ห่างออกไปเล็กน้อย พบรถยนต์กระบะยี่ห้อฟอร์ด สีดำ ซึ่งเป็นรถคู่กรณี จอดอยู่ริมถนน สภาพด้านหน้ารถได้รับความเสียหายอย่างหนัก
เจ้าหน้าที่ตำรวจได้สอบถามข้อมูลเบื้องต้นจากคนขับรถกระบะ ซึ่งเป็นชายหนุ่ม โดยเขาให้การว่า ขณะที่ตนเองกำลังขับรถมุ่งหน้าไปยังไร่อ้อย จู่ๆ ก็มีรถจักรยานยนต์คันดังกล่าว ซึ่งมีผู้หญิงนั่งซ้อนท้ายกันมา 3 คน ขับข้ามมาจากถนนอีกฝั่งหนึ่งและวิ่งย้อนศรเข้ามาในเส้นทางของตน ในจังหวะนั้น ตนเองมองไม่เห็นรถจักรยานยนต์คันดังกล่าว เนื่องจากมีรถยนต์อีกคันหนึ่งจอดรอเพื่อที่จะกลับรถอยู่ในบริเวณนั้น และได้บดบังทัศนวิสัย ทำให้ตนเองไม่ทันสังเกตเห็น และพุ่งชนเข้ากับรถจักรยานยนต์คันดังกล่าวอย่างรุนแรง
เบื้องต้น พนักงานสอบสวนได้ดำเนินการบันทึกภาพและรายละเอียดในที่เกิดเหตุทั้งหมดไว้เป็นหลักฐาน พร้อมทั้งเชิญตัวคนขับรถกระบะไปยังสถานีตำรวจภูธรท่าเรือ เพื่อทำการสอบปากคำเพิ่มเติมอย่างละเอียดอีกครั้ง เพื่อรวบรวมข้อมูลและพยานหลักฐานทั้งหมด เพื่อหาสาเหตุที่แท้จริงของการเกิดอุบัติเหตุครั้งนี้ และดำเนินการตามขั้นตอนของกฎหมายต่อไป