แม่สวีเดนถูกปรับเกือบ 7 หมื่นบาท เหตุทำร้ายจิตใจลูก ตอกไข่บนหน้าผากทำคลิป TikTok

เฮลซิงบอร์ก, สวีเดน – ศาลสวีเดนมีคำตัดสินสั่งปรับเงินคุณแม่ชาวสวีเดนวัย 24 ปี เป็นจำนวนกว่า 68,000 บาท หลังจากพบว่ามีความผิดฐานคุกคามลูกสาววัยเล็ก จากการกระทำที่ใช้ไข่ตอกบนหน้าผากของเด็กเพื่อถ่ายทำคลิปวิดีโอตามกระแสไวรัลบนแพลตฟอร์ม TikTok

เหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อราวปีที่แล้ว ซึ่งเป็นช่วงที่กระแสการทำคลิปวิดีโอ “Egg Crack Challenge” หรือการตอกไข่บนหน้าผากของเด็กเล็กกำลังแพร่หลายอย่างมากในแอปพลิเคชัน TikTok โดยมีผู้ปกครองจำนวนไม่น้อยที่ถ่ายทำคลิปเหล่านี้ บางส่วนมองว่าเป็นเพียงการเล่นสนุกแบบไม่มีอันตราย แม้ว่าในหลายคลิป เด็กๆ จะแสดงอาการตกใจหรือไม่พอใจก็ตาม

อย่างไรก็ตาม กรณีของคุณแม่วัย 24 ปีจากเมืองเฮลซิงบอร์ก ประเทศสวีเดน ได้นำไปสู่การดำเนินคดีตามกฎหมาย เมื่อเธอได้ถ่ายคลิปขณะที่เธอบอกกับลูกสาวว่าพวกเขากำลังจะทำเค้กแอปเปิ้ลด้วยกันเพื่ออัปโหลดลง TikTok แต่แล้วเธอกลับนำไข่มาตอกเข้าที่หน้าผากของลูกสาวโดยไม่ทันตั้งตัว

ในวิดีโอดังกล่าว ซึ่งมียอดเข้าชมประมาณ 100,000 ครั้ง ปรากฏภาพไข่แดงที่ไหลลงมาบนใบหน้าของเด็ก ในขณะที่เด็กมีท่าทีตกใจอย่างเห็นได้ชัดและร้องบอกแม่ที่กำลังหัวเราะว่า “มันเจ็บ หยุดทำเถอะ”

แม้คุณแม่รายนี้จะอ้างว่าสิ่งที่เธอทำเป็นเพียงการแกล้งกันขำๆ ตามกระแสที่กำลังเป็นที่นิยมบนโลกออนไลน์ และไม่ได้มีเจตนาร้ายแต่อย่างใด แต่คำอธิบายดังกล่าวไม่สามารถโน้มน้าวผู้พิพากษาได้ หลังจากมีพลเมืองดีที่เห็นคลิปดังกล่าวได้เข้าแจ้งความกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ

อัยการ เซซิเลีย แอนเดอร์สสัน (Cecilia Andersson) ได้ให้ความเห็นเกี่ยวกับกรณีนี้ว่า “ตอนที่ฉันเห็นวิดีโอ ฉันคิดเลยว่า คุณไม่ควรทำแบบนั้นกับเด็ก… การถ่ายคลิป และทำให้เด็กอับอาย แล้วนำไปเผยแพร่ต่อผู้ชมเป็นพันๆ คน สำหรับฉัน ฉันมองว่านั่นเป็นสิ่งที่น่าอดสูอย่างยิ่ง”

อัยการยังกล่าวเสริมอีกว่า “นี่คือเด็กหญิงตัวเล็กๆ ที่คิดว่าเธอกำลังจะได้อบเค้กแอปเปิ้ลกับคุณแม่ของเธอ และเธอรู้สึกดีใจและตื่นเต้นไปกับมัน แต่จู่ๆ ก็ถูกตอกไข่ใส่หน้าผาก นี่เป็นการกระทำที่ประมาทเลินเล่ออย่างชัดเจน”

เมื่อเดือนที่ผ่านมา ศาลแขวงเฮลซิงบอร์กได้มีคำตัดสินว่า คุณแม่วัย 24 ปีรายนี้มีความผิดฐานคุกคามลูกสาวของตนเอง และมีคำสั่งให้เธอชำระค่าปรับเป็นจำนวน 20,000 โครนสวีเดน หรือประมาณ 68,000 บาท โดยให้จ่ายตรงให้กับลูกสาวของเธอ

กรณีนี้สะท้อนให้เห็นถึงความท้าทายทางจริยธรรมของผู้ปกครองในการสร้างคอนเทนต์บนโลกออนไลน์ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อมีการนำเด็กมาเป็นส่วนหนึ่งของคอนเทนต์ ซึ่งอาจส่งผลกระทบต่อสภาพจิตใจของเด็กได้

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *