สะเทือนใจ! ตำรวจหัวหินรวบแม่บังคับลูกสาววัย 12 ค้ากามนาน 2 ปี อ้างหาเงินใช้หนี้-เสพยา

ประจวบคีรีขันธ์ – วันที่ 19 พฤษภาคม 2568 พันตำรวจเอก กัมปนาท ณ วิชัย ผู้กำกับการสถานีตำรวจภูธรหัวหิน จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ เปิดเผยถึงความคืบหน้าคดีสะเทือนใจที่เกิดขึ้นในพื้นที่ กรณีเด็กหญิงอายุเพียง 12 ปี ถูกมารดาแท้ๆ บังคับให้ค้าประเวณี โดยอ้างเหตุผลด้านปัญหาทางการเงินและการเสพยาเสพติด

เหตุการณ์สุดรันทดนี้ถูกปกปิดเงียบมานานกว่า 2 ปี โดยเด็กหญิงผู้เคราะห์ร้ายซึ่งขณะเกิดเหตุมีอายุเพียง 12 ปี ต้องทนกับการถูกแม่บังคับ เพื่อนำเงินที่ได้ไปใช้จ่ายส่วนตัวของแม่ หากไม่ทำตามจะถูกทำร้ายร่างกาย เด็กพยายามขอไปอยู่กับพ่อซึ่งอยู่ที่จังหวัดภูเก็ต แต่แม่ไม่ยอม กระทั่งเด็กหญิงขู่ว่าจะเปิดเผยความจริง ทำให้แม่ยอมให้ลูกไปอยู่กับพ่อ

เมื่อผู้เป็นพ่อได้ทราบเรื่องราวอันน่าตกใจและสะเทือนใจที่เกิดขึ้นกับบุตรสาว จึงได้พาลูกเข้าขอความช่วยเหลือจาก “มูลนิธิปวีณา หงสกุล เพื่อเด็กและสตรี” ทางมูลนิธิปวีณาฯ จึงได้ประสานงานกับเจ้าหน้าที่ตำรวจสถานีตำรวจภูธรหัวหิน เพื่อให้เข้าตรวจสอบข้อเท็จจริงและดำเนินคดีตามกฎหมาย

จากการสืบสวนของเจ้าหน้าที่ตำรวจ พบว่า ผู้เป็นแม่ อายุ 32 ปี มีอาชีพรับจ้าง แต่ประสบปัญหาทางการเงิน จึงได้รู้จักกับหญิงอีกคนหนึ่ง อายุ 39 ปี ซึ่งเด็กเรียกว่า “ป้า” หญิงรายนี้เป็นผู้ชักชวนและทำหน้าที่จัดหาลูกค้าให้ โดยแม่เป็นผู้พาลูกสาวไปส่งยังสถานที่นัดหมาย การกระทำดังกล่าวเกิดขึ้นหลายครั้งรวม 3 ครั้ง โดยครั้งแรกเป็นการดูตัวและได้รับเงิน ครั้งที่สองมีการพูดคุยตกลงกัน แต่ยังไม่มีการล่วงละเมิดเกิดขึ้น จนกระทั่งครั้งที่ 3 ได้มีการล่วงละเมิดทางเพศเกิดขึ้นจริงกับเด็กหญิงวัยเพียง 12 ปี ซึ่งเด็กได้เก็บเรื่องนี้เป็นความลับด้วยความหวาดกลัวมานานถึง 2 ปี จนกระทั่งเธออายุ 14 ปี จึงมีโอกาสได้บอกความจริงกับพ่อ

หลังจากที่ทางผู้เป็นพ่อได้ร้องเรียน และเจ้าหน้าที่ตำรวจได้รวบรวมพยานหลักฐาน ซึ่งใช้เวลาประมาณหนึ่งสัปดาห์ จึงสามารถขอศาลออกหมายจับผู้เป็นแม่ได้ และได้เข้าทำการจับกุมตัวได้ในช่วงเช้าที่ผ่านมา ขณะที่ผู้ร่วมขบวนการซึ่งเป็นหญิงที่ช่วยจัดหาลูกค้า ได้หลบหนีไปและขณะนี้ยังอยู่ระหว่างการติดตามตัวมาดำเนินคดี

จากการสอบปากคำเบื้องต้น ผู้เป็นแม่ของเด็กหญิงให้การรับสารภาพว่า เป็นผู้พาลูกสาวไปขายบริการจริง โดยอ้างเหตุผลว่า ไม่มีเงินใช้จ่าย และยืนยันว่าเหตุการณ์ล่วงละเมิดเกิดขึ้นเพียงครั้งเดียว

อย่างไรก็ตาม เจ้าหน้าที่ตำรวจได้แจ้งข้อกล่าวหาต่อผู้เป็นแม่ใน 2 ฐานความผิดหลักที่มีอัตราโทษสูงและถือเป็นอาชญากรรมร้ายแรง ได้แก่ ฐานความผิดเป็นธุระจัดหา เพื่อการอนาจารซึ่งเด็กอายุยังไม่เกินสิบห้าปี แม้เด็กจะยินยอมหรือไม่ก็ตาม และฐานความผิดค้ามนุษย์ โดยการแสวงหาประโยชน์โดยมิชอบจากเด็กอายุต่ำกว่าสิบห้าปี เพื่อการค้าประเวณี ซึ่งถือเป็นความผิดฐานค้ามนุษย์ แม้เด็กจะยินยอมหรือไม่ก็ตาม ทั้งนี้ ในขณะเกิดเหตุ เด็กหญิงผู้เสียหายมีอายุเพียง 12 ปีเท่านั้น ซึ่งถือเป็นเด็กที่ได้รับความคุ้มครองสูงสุดตามกฎหมาย

ในส่วนของการดูแลเด็ก ปัจจุบันเด็กหญิงคนโตซึ่งเป็นผู้เสียหายได้อยู่ในความดูแลของผู้เป็นพ่ออย่างปลอดภัยแล้ว ส่วนลูกสาวคนเล็ก ซึ่งมีอายุประมาณ 4-5 ขวบ ทางมูลนิธิปวีณาฯ ได้ประสานงานกับกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.) เพื่อให้เข้ามาดูแลในเบื้องต้น โดยทางผู้เป็นพ่อมีความประสงค์ที่จะรับดูแลบุตรสาวทั้งสองคนกลับไปดูแลที่จังหวัดภูเก็ตด้วยตัวเอง

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *