โซล, เกาหลีใต้ – วันที่ 24 เมษายน สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า อัยการเกาหลีใต้ได้ยื่นฟ้อง นายมุน แจอิน อดีตประธานาธิบดีเกาหลีใต้ อย่างเป็นทางการ ในข้อหาทุจริต ซึ่งเกี่ยวข้องกับการใช้อำนาจหน้าที่โดยมิชอบเพื่ออำนวยความสะดวกในการจ้างงานลูกเขยของตนเอง

สำนักงานอัยการเขตช็อนจู (Jeonju District Prosecutors’ Office) ได้ออกแถลงการณ์ระบุรายละเอียดว่า นายมุนถูกฟ้องร้องในข้อหาทุจริต จากการที่เขาถูกกล่าวหาว่าได้รับเงินจำนวน 217 ล้านวอน (หรือประมาณ 5 ล้านบาท ตามอัตราแลกเปลี่ยนปัจจุบัน) เป็นการตอบแทน เพื่ออำนวยความสะดวกให้ลูกเขยของตนได้รับการแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งเป็นกรรมการผู้จัดการของสายการบินไทยอีสตาร์เจ็ท (Thai Eastar Jet) ซึ่งเป็นสายการบินต้นทุนต่ำที่ดำเนินงานร่วมกันระหว่างเกาหลีใต้และไทย

อัยการชี้ว่า การแต่งตั้งดังกล่าวเกิดขึ้นทั้งที่ลูกเขยของนายมุนขาดประสบการณ์หรือคุณสมบัติที่จำเป็นอย่างยิ่งสำหรับอุตสาหกรรมการบิน โดยมีข้อมูลว่าสายการบินไทยอีสตาร์เจ็ทในขณะนั้นถูกควบคุมและบริหารโดยบุคคลที่เกี่ยวข้องกับอดีตสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจากพรรคประชาธิปไตยแห่งเกาหลี (Democratic Party of Korea) ซึ่งเป็นพรรคต้นสังกัดและพรรคที่สนับสนุนนายมุน

อัยการเชื่อว่า การให้ตำแหน่งงานสำคัญแก่ลูกเขยของอดีตประธานาธิบดีมุน แจอิน เป็นไปเพื่อเอาใจและสร้างความพึงพอใจแก่นายมุน ซึ่งดำรงตำแหน่งประธานาธิบดีอยู่ในช่วงเวลานั้น

แถลงการณ์ของอัยการยังระบุเพิ่มเติมว่า จากการตรวจสอบพบว่า เงินเดือนและผลประโยชน์ทางการเงินอื่นๆ ที่สายการบินจ่ายให้กับลูกเขยของนายมุนในช่วงระหว่างปี พ.ศ. 2561 ถึง พ.ศ. 2563 นั้น ไม่ได้ถูกพิจารณาว่าเป็นการจ่ายค่าจ้างที่ถูกต้องตามกฎหมาย แต่เป็นการจ่ายในลักษณะของสินบนที่มุ่งหวังมอบให้กับอดีตประธานาธิบดี

นอกจากนี้ มีรายงานในภายหลังว่า ลูกเขยของนายมุนได้หย่าร้างกับลูกสาวของเขา

สำหรับประวัติของนายมุน แจอิน เขาเคยดำรงตำแหน่งประธานาธิบดีของสาธารณรัฐเกาหลีใต้ตั้งแต่เดือนพฤษภาคม พ.ศ. 2560 จนถึงเดือนพฤษภาคม พ.ศ. 2565 ในช่วงที่ดำรงตำแหน่ง เขามีบทบาทสำคัญในการผลักดันความสัมพันธ์และความร่วมมือกับเกาหลีเหนืออย่างแข็งขัน รวมถึงการเป็นตัวกลางในการจัดการเจรจาครั้งประวัติศาสตร์ระหว่าง นายคิม จองอึน ผู้นำสูงสุดแห่งเกาหลีเหนือ และอดีตประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ แห่งสหรัฐอเมริกา ในวาระแรกของการดำรงตำแหน่ง

คดีฟ้องร้องอดีตประธานาธิบดีครั้งนี้เกิดขึ้นในช่วงเวลาที่บรรยากาศทางการเมืองของเกาหลีใต้มีความตึงเครียดและผันผวนอย่างยิ่ง ท่ามกลางการจับตาดูการเลือกตั้งที่จะมีขึ้นในวันที่ 3 มิถุนายนนี้ ซึ่งสถานการณ์นี้ยิ่งเพิ่มความร้อนแรงให้กับเวทีการเมืองแดนโสม หลังจากการเปลี่ยนแปลงทางการเมืองที่สำคัญหลายครั้งในช่วงที่ผ่านมา เช่น กรณีที่ นายยุน ซอกยอล ซึ่งในข่าวระบุว่าเป็นอดีตประธานาธิบดี (ข้อมูลตามแหล่งข่าว) ถูกปลดออกจากตำแหน่งหลังประกาศใช้กฎอัยการศึกเมื่อเดือนธันวาคม พ.ศ. 2567 (ข้อมูลตามแหล่งข่าว) และความเคลื่อนไหวของฝ่ายค้านที่พยายามยื่นถอดถอนรักษาการประธานาธิบดี (ตามข่าวที่เกี่ยวข้อง)

คดีทุจริตของอดีตประธานาธิบดีมุน แจอิน จึงเป็นอีกหนึ่งประเด็นใหญ่ที่สร้างแรงสั่นสะเทือนและถูกจับตาอย่างใกล้ชิดในเกาหลีใต้.