สุดสลด! เจ้าของร้านหมูกระทะ ดับปริศนาในรถ ทิ้งจม.แฉ ถูกโกงหนี้กว่า 7 ล้านบาท
นนทบุรี – พบศพเจ้าของร้านหมูกระทะชื่อดัง วัย 52 ปี เสียชีวิตภายในรถยนต์เก๋งที่จอดอยู่หน้าร้านย่านบางกรวย จังหวัดนนทบุรี เบื้องต้นคาดรมควันเสียชีวิต หลังพบหลักฐานในรถทั้งเตาถ่านและจดหมายระบายความคับแค้นใจจากปัญหาหนี้สินที่ถูกโกงไปกว่า 7 ล้านบาท คนใกล้ชิดเผยผู้ตายเป็นคนใจดี แต่กลับถูกลูกหนี้บางรายข่มขู่ฟ้องกลับ สร้างความเครียดสะสม
เมื่อเวลา 14.30 น. วันที่ 24 เมษายน 2568 เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.บางกรวย จังหวัดนนทบุรี ได้รับแจ้งเหตุพบผู้เสียชีวิตอยู่ภายในรถยนต์เก๋งที่จอดอยู่บริเวณหน้าร้านหมูกระทะ ริมถนนบางกรวย-ไทรน้อย ตำบลวัดชลอ อำเภอบางกรวย หลังรับแจ้งจึงรีบประสานแพทย์จากสถาบันนิติวิทยาศาสตร์ และเจ้าหน้าที่มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง เข้าตรวจสอบยังที่เกิดเหตุ
ในที่เกิดเหตุ พบรถยนต์เก๋งสีขาวจอดอยู่ เมื่อตรวจสอบภายในรถ เจ้าหน้าที่พบร่างผู้เสียชีวิตเป็นชาย อายุ 52 ปี ซึ่งเป็นเจ้าของร้านหมูกระทะดังกล่าว อยู่ในสภาพเสียชีวิตอยู่บริเวณที่นั่งคนขับ
จากการตรวจสอบภายในรถอย่างละเอียด พบสิ่งของหลายอย่างที่น่าสงสัยวางอยู่ใกล้ตัวผู้เสียชีวิต ประกอบด้วย ยาคลายเครียด 1 แผง ซึ่งถูกฉีกกินไปแล้วบางส่วน, เตาถ่านที่วางอยู่บริเวณที่วางเท้าเบาะหลังรถ และที่สำคัญคือ ซองเอกสารสีน้ำตาล ภายในมีกระดาษเขียนข้อความระบายความคับแค้นใจอย่างหนัก เกี่ยวกับการถูกโกงเงิน ซึ่งมียอดเงินรวมสูงถึง 7 ล้านบาท และยังมีการระบุรายชื่อของบุคคลที่ติดหนี้ผู้เสียชีวิตไว้อีกด้วย
จากการสอบถามพนักงานร้านสะดวกซื้อรายหนึ่ง ซึ่งมีความสนิทสนมกับผู้เสียชีวิต ให้ข้อมูลว่า เมื่อช่วงเที่ยงคืนกว่าของคืนก่อนเกิดเหตุ ผู้เสียชีวิตได้แวะมาพูดคุยที่ร้านสะดวกซื้อตามปกติ แต่ในครั้งนี้ สังเกตเห็นว่าผู้ตายมีท่าทางซึมเศร้า ไม่ร่าเริงเหมือนทุกครั้ง เมื่อสอบถามว่าจะไปไหน ผู้ตายตอบเพียงว่าจะไปให้อาหารแมวที่เลี้ยงไว้ในร้าน กระทั่งช่วงบ่ายจึงมารู้ข่าวว่าได้เสียชีวิตลง
ด้านลูกน้องคนสนิทของผู้เสียชีวิต เปิดเผยข้อมูลที่น่าตกใจว่า ผู้ตายเคยเป็นอดีตพนักงานธนาคารมาก่อน และเป็นคนที่มีอุปนิสัยใจดี มักให้ลูกน้องในร้าน หรือคนรู้จักหยิบยืมเงินไปใช้ ซึ่งมีจำนวนลูกน้องที่ยืมเงินไปประมาณ 10 คน แต่ที่สร้างปัญหาและทำให้ผู้ตายเกิดความเครียดสะสมอย่างหนัก คือลูกหนี้ 3 รายหลักๆ
ลูกหนี้รายแรก มียอดหนี้เกือบ 1 ล้านบาท มีพฤติกรรมโกงเงินผู้ตายไป แทนที่จะแสดงความสำนึกผิด หรือติดต่อเข้ามาขอพูดคุย แต่กลับแสดงท่าทีไม่ยอมรับ และยังขู่ว่าจะจ้างทนายมาต่อสู้คดี หากถูกผู้ตายฟ้องร้อง
ลูกหนี้รายที่สอง เป็นยอดหนี้จากการชักชวนไปลงทุน ประมาณ 1 ล้านบาท เมื่อผู้ตายพยายามทวงเงินคืน กลับถูกพูดจาไม่ดีใส่
ส่วนลูกหนี้รายที่สาม เป็นยอดหนี้รวมจากเงินยืมสดและเงินเล่นแชร์ เป็นจำนวนครึ่งล้านบาท หรือประมาณ 500,000 บาท
ลูกน้องคนสนิท กล่าวเพิ่มเติมว่า ทั้ง 3 รายนี้ แทนที่จะเข้ามาพูดคุย หรือแสดงความรับผิดชอบกับผู้ตายดีๆ แต่กลับเลือกที่จะใช้คำพูดที่ไม่เหมาะสม และยังจะเล่นแง่ทางกฎหมายถึงขั้นจ้างทนายมาฟ้องกลับ ซึ่งเรื่องนี้ ผู้เสียชีวิตมีหลักฐานการกู้ยืมทั้งหมด และได้มอบอำนาจให้ดำเนินการทางกฎหมายกับลูกหนี้ทั้งหมดไว้แล้ว
สิ่งที่ทำให้ผู้ตายเครียดหนักยิ่งกว่าเดิม คือเงินที่ให้ลูกหนี้ยืมไปนั้น ไม่ใช่เงินของผู้ตายทั้งหมด แต่ผู้ตายต้องไปหยิบยืมเงินจากคนอื่นมาเพื่อนำมาให้ลูกหนี้บางรายยืมต่อ ทำให้แบกรับภาระและความกดดันอย่างหนัก
เบื้องต้น เจ้าหน้าที่ตำรวจได้นำศพผู้เสียชีวิตส่งชันสูตรเพื่อหาสาเหตุการเสียชีวิตที่แท้จริงอย่างละเอียด พร้อมทั้งจะเร่งสอบสวนบุคคลที่เกี่ยวข้องทั้งหมด รวมถึงตรวจสอบข้อมูลจากจดหมายและหลักฐานที่ผู้ตายทิ้งไว้ เพื่อดำเนินการตามกระบวนการของกฎหมายต่อไป ก่อนจะให้ทางญาติรับศพกลับไปประกอบพิธีทางศาสนา