ภูเก็ต – เมื่อวันที่ 15 พฤษภาคม 2568 ชาวบ้านในพื้นที่ป่าตอง จังหวัดภูเก็ต ได้แจ้งเบาะแสมายังเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.ป่าตอง ว่ามีพระสงฆ์รูปหนึ่งมีพฤติกรรมน่าสงสัย ทั้งการสร้างกระท่อมและขับขี่รถยนต์กระบะด้วยตนเอง โดยบางครั้งมีลักษณะอาการมึนเมา

ภายหลังรับแจ้ง พ.ต.ท.สมประสงค์ ละใบสอาด รองผู้กำกับการ (สอบสวน) สภ.ป่าตอง ได้รายงานเรื่องดังกล่าวให้ พ.ต.อ.เฉลิมชัย เหิรสวัสดิ์ ผู้กำกับการ สภ.ป่าตอง ทราบ พร้อมรุดเข้าตรวจสอบพื้นที่บริเวณถนน 50 ปี ตำบลป่าตอง อำเภอกะทู้

เมื่อไปถึงจุดที่ได้รับแจ้ง เจ้าหน้าที่พบรถยนต์กระบะยี่ห้อโตโยต้า ไฮลักซ์ วีโก้ สีขาว โดยมีพระสงฆ์รูปหนึ่งเป็นผู้ขับขี่ จึงได้เรียกให้หยุดรถเพื่อตรวจสอบหนังสือสุทธิ ทราบชื่อต่อมาคือ พระบัณดิษ

ในระหว่างการสอบถามและพูดคุย เจ้าหน้าที่ตำรวจได้สังเกตเห็นว่ามีกลิ่นคล้ายแอลกอฮอล์ออกมาจากตัวพระบัณดิษอย่างชัดเจน ด้วยเหตุนี้ จึงได้เชิญตัวมายังสถานีตำรวจภูธรป่าตอง เพื่อทำการตรวจวัดปริมาณแอลกอฮอล์ในร่างกายด้วยเครื่องเป่า

ผลการตรวจวัดปริมาณแอลกอฮอล์เป็นไปตามที่เจ้าหน้าที่คาดการณ์ไว้ โดยพบว่ามีปริมาณแอลกอฮอล์สูงถึง 134 มิลลิกรัมเปอร์เซ็นต์ ซึ่งเกินกว่าที่กฎหมายกำหนดสำหรับการขับขี่ยานพาหนะเป็นอย่างมาก

จากการสอบสวน พระบัณดิษได้ยอมรับสารภาพว่า ตนได้ดื่มเหล้ายาดองมาก่อนที่จะขับขี่รถยนต์คันดังกล่าวจริง

หลังจากได้ข้อมูลและการยอมรับสารภาพ เจ้าหน้าที่ตำรวจได้นำตัวพระบัณดิษไปยังวัดแห่งหนึ่งในพื้นที่อำเภอกะทู้ จังหวัดภูเก็ต เพื่อดำเนินการตามขั้นตอนทางพระวินัย โดยให้เจ้าอาวาสของวัดเป็นผู้ดำเนินการให้ลาสิกขาจากการเป็นพระสงฆ์

ภายหลังจากการลาสิกขาแล้ว อดีตพระบัณดิษได้ถูกนำตัวกลับมายัง สภ.ป่าตอง อีกครั้ง เพื่อเข้าสู่กระบวนการทางกฎหมายต่อไป โดยถูกแจ้งข้อกล่าวหาในความผิดฐานเป็นผู้ขับขี่ยานพาหนะในขณะเมาสุรา ซึ่งเป็นความผิดที่ต้องรับโทษตามกฎหมาย

เหตุการณ์นี้สะท้อนให้เห็นถึงปัญหาการดื่มสุราและการขับขี่ที่ยังคงเกิดขึ้น แม้กระทั่งในหมู่ผู้ที่ควรเป็นแบบอย่างทางสังคม และเน้นย้ำถึงความสำคัญของการปฏิบัติตามกฎหมายอย่างเคร่งครัดเพื่อความปลอดภัยของทุกคนบนท้องถนน