กระทรวงการคลังเตรียมขยายเงื่อนไขมาตรการช่วยเหลือลูกหนี้รายย่อย “คุณสู้ เราช่วย” เพื่อเปิดโอกาสให้ประชาชนที่ประสบปัญหาหนี้สินสามารถเข้าถึงโครงการได้มากขึ้น โดยคาดว่าจะเสนอคณะรัฐมนตรี (ครม.) พิจารณาเห็นชอบภายในเดือนมิถุนายน 2568 นี้

นายเผ่าภูมิ โรจนสกุล รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง เปิดเผยว่า ขณะนี้กระทรวงการคลังกำลังหารืออย่างใกล้ชิดกับธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) เพื่อปรับปรุงและขยายขอบเขตของมาตรการแก้หนี้ “คุณสู้ เราช่วย” ซึ่งได้รับความสนใจจากประชาชนเป็นจำนวนมาก และรัฐบาลมีเป้าหมายที่จะช่วยเหลือพี่น้องประชาชนให้ครอบคลุมมากยิ่งขึ้น โดยมีแนวทางในการปรับปรุงเงื่อนไขหลักๆ ดังนี้

1. การขยายคุณสมบัติลูกหนี้ในมาตรการ “จ่ายตรง คงทรัพย์”

จากเดิมที่กำหนดให้ลูกหนี้ต้องมีสถานะค้างชำระหนี้เกิน 30 วันขึ้นไป ณ วันที่ 30 ตุลาคม 2567 จึงจะเข้าข่ายการพิจารณาปรับโครงสร้างหนี้ มาตรการใหม่จะปรับเกณฑ์ให้มีความยืดหยุ่นมากขึ้น โดยให้ลูกหนี้ที่เคยมีประวัติค้างชำระเพียง 1 วันขึ้นไป และเคยมีการปรับโครงสร้างหนี้มาก่อน สามารถเข้าร่วมมาตรการนี้ได้

มาตรการ “จ่ายตรง คงทรัพย์” นี้ มุ่งช่วยเหลือลูกหนี้ในกลุ่มสินเชื่อบ้าน หรือ Home for Cash ที่มียอดหนี้ไม่เกิน 5 ล้านบาท, สินเชื่อรถยนต์ไม่เกิน 8 แสนบาท, สินเชื่อรถจักรยานยนต์ไม่เกิน 50,000 บาท และสินเชื่อ SMEs ที่มียอดหนี้ไม่เกิน 5 ล้านบาท

สิทธิประโยชน์สำหรับลูกหนี้ที่เข้าร่วมมาตรการ “จ่ายตรง คงทรัพย์” จะได้รับการปรับโครงสร้างหนี้และลดภาระค่างวดอย่างเป็นขั้นบันได ดังนี้

• ปีที่ 1: ลดค่างวดเหลือเพียง 50% ของค่างวดปกติ
• ปีที่ 2: ลดค่างวดเหลือ 70% ของค่างวดปกติ
• ปีที่ 3: ลดค่างวดเหลือ 90% ของค่างวดปกติ

ที่สำคัญคือ ในระยะเวลา 3 ปีแรกนี้ จะมีการ “พักภาระดอกเบี้ย” โดยเงินค่างวดที่ลูกหนี้ชำระเข้ามาจะถูกนำไปตัดชำระเงินต้นทั้งหมด ขณะที่ดอกเบี้ยที่เกิดขึ้นในช่วง 3 ปีดังกล่าว จะได้รับการ “ยกเว้น” ตามเงื่อนไขที่กำหนด ซึ่งจะช่วยให้ลูกหนี้สามารถลดภาระเงินต้นได้อย่างรวดเร็วและมีโอกาสหลุดพ้นจากวงจรหนี้ได้ง่ายขึ้น

2. การขยายภาระหนี้เสียในมาตรการ “จ่าย ปิด จบ”

สำหรับลูกหนี้ที่เป็นหนี้เสีย (NPL) และต้องการปิดหนี้ มาตรการ “จ่าย ปิด จบ” เดิมกำหนดให้มีภาระหนี้เสียไม่เกิน 5,000 บาท มาตรการใหม่จะขยายวงเงินให้กว้างขึ้น

• หนี้เสียประเภทไม่มีหลักประกัน (เช่น บัตรเครดิต สินเชื่อส่วนบุคคล) จะขยายวงเงินจากไม่เกิน 5,000 บาท เป็นไม่เกิน 10,000 บาท ต่อบัญชี
• หนี้เสียประเภทมีหลักประกัน (เช่น จำนำทะเบียนรถ) จะขยายวงเงินจากไม่เกิน 5,000 บาท เป็นไม่เกิน 30,000 บาท ต่อบัญชี

มาตรการนี้เปิดโอกาสให้ลูกหนี้ที่เข้าเกณฑ์ สามารถชำระหนี้ขั้นต่ำเพียง 10% ของยอดหนี้คงค้างเพื่อทำการปิดหนี้ได้ทันที ซึ่งจะเป็นทางออกสำหรับลูกหนี้รายย่อยที่มีหนี้เสียจำนวนไม่สูงนัก ให้สามารถปลดภาระหนี้เหล่านี้ได้อย่างรวดเร็ว

3. การขยายระยะเวลาโครงการ

เนื่องจากมาตรการ “คุณสู้ เราช่วย” ได้รับการตอบรับที่ดีเยี่ยมจากประชาชน และรัฐบาลยังคงมุ่งมั่นที่จะแก้ไขปัญหาหนี้ครัวเรือนอย่างต่อเนื่อง จึงมีแนวคิดที่จะขยายระยะเวลาโครงการออกไปอีก จากเดิมที่มีกำหนดสิ้นสุดในวันที่ 30 มิถุนายน 2568 เพื่อให้ลูกหนี้มีเวลาและโอกาสในการเข้าถึงมาตรการช่วยเหลือเหล่านี้ได้มากขึ้น

การปรับปรุงเงื่อนไขทั้งหมดนี้อยู่ระหว่างการหารือรายละเอียดขั้นสุดท้ายกับ ธปท. ก่อนจะนำเสนอให้คณะรัฐมนตรีพิจารณาเห็นชอบอย่างเป็นทางการ โดยคาดว่าจะสามารถดำเนินการได้ภายในเดือนมิถุนายน 2568 นี้ ซึ่งหากได้รับการอนุมัติ มาตรการเหล่านี้จะเป็นอีกหนึ่งเครื่องมือสำคัญในการช่วยลดภาระหนี้สินของประชาชน และสนับสนุนการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจในภาพรวม