ศธ. เตือน! ครู 1.8 หมื่นราย “ตั๋วหมดอายุ” สพฐ. มากสุด จี้ต่อใบอนุญาตฯ ก่อนเปิดเทอม 16 พ.ค. เสี่ยงคุก-ปรับ หากฝ่าฝืน
กรุงเทพฯ – ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) ออกมาแจ้งเตือนครูทั่วประเทศกว่า 18,000 ราย ที่ใบอนุญาตประกอบวิชาชีพหมดอายุตั้งแต่ปลายปี 2567 ให้เร่งดำเนินการต่ออายุโดยด่วน ก่อนถึงกำหนดเปิดภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2568 ในวันที่ 16 พฤษภาคมนี้ เน้นย้ำ หากฝ่าฝืนทำการสอนโดยไม่มีใบอนุญาตฯ ที่ถูกต้อง จะต้องรับโทษตามกฎหมาย ทั้งจำคุกและปรับ พร้อมทั้งโรงเรียนต้นสังกัดก็อาจมีความผิดร่วมด้วย
นายสิริพงศ์ อังคสกุลเกียรติ ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงศึกษาธิการ และโฆษก ศธ. เปิดเผยข้อมูลล่าสุดจากสำนักงานเลขาธิการคุรุสภา ว่า ขณะนี้มีครูจำนวนมากที่ยังไม่ได้ต่ออายุใบอนุญาตประกอบวิชาชีพ โดยเฉพาะกลุ่มที่ใบอนุญาตฯ หมดอายุไปแล้วตั้งแต่วันที่ 8 ธันวาคม 2567 มีจำนวนสูงถึงกว่า 18,000 คน และยังไม่ได้ดำเนินการต่ออายุ ซึ่งในจำนวนนี้พบว่าส่วนใหญ่อยู่ในสังกัดสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) ประมาณ 11,000 คน ขณะที่สังกัดอื่นๆ มีประมาณ 7,000 คน
นายสิริพงศ์ กล่าวว่า ปัญหานี้เป็นเรื่องที่ พล.ต.อ.เพิ่มพูน ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการ ศธ. ให้ความสำคัญอย่างยิ่ง เพราะการที่ครูมีใบอนุญาตฯ อย่างถูกต้องตามกฎหมาย เป็นการยืนยันถึงมาตรฐานวิชาชีพ การพัฒนาตนเองอย่างต่อเนื่อง และการปฏิบัติตนอยู่ในหลักจริยธรรมของความเป็นครู ซึ่งจะช่วยสร้างความมั่นใจให้กับผู้ปกครอง นักเรียน และโรงเรียน ในการปฏิบัติหน้าที่สอนได้อย่างมีประสิทธิภาพและถูกต้องตามระเบียบ
“เราขอเชิญชวนครูทุกคนที่ยังไม่ได้ต่ออายุใบอนุญาตฯ ให้เร่งดำเนินการให้เรียบร้อยโดยเร็วที่สุด ซึ่งเหลือเวลาอีกไม่มากก่อนวันเปิดภาคเรียนที่ 1/2568 ในวันที่ 16 พฤษภาคมนี้ หากตรวจสอบพบว่าครูท่านใดทำการสอนโดยที่ใบอนุญาตฯ หมดอายุ จะถือว่ามีความผิดตามพระราชบัญญัติสภาครูและบุคลากรทางการศึกษา พ.ศ.2546 ซึ่งมีบทลงโทษจำคุกไม่เกิน 1 ปี หรือปรับไม่เกิน 20,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ และที่สำคัญคือ โรงเรียนต้นสังกัดเองก็อาจมีความผิดร่วมด้วย ในกรณีที่จ้างครูที่ไม่มีใบอนุญาตฯ ที่ถูกต้องตามกฎหมายมาทำการสอน” นายสิริพงศ์ กล่าวเตือน
ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำ ศธ. กล่าวเสริมว่า ครูสามารถตรวจสอบสถานะใบอนุญาตประกอบวิชาชีพได้ที่เว็บไซต์ของสำนักงานเลขาธิการคุรุสภา และสามารถดำเนินการต่ออายุใบอนุญาตฯ ได้อย่างสะดวกผ่านระบบ KSP Self-Service ซึ่งรองรับการดำเนินการผ่านโทรศัพท์มือถือได้ทุกขั้นตอน ทำให้ครูไม่ต้องเสียเวลาเดินทาง จึงไม่มีข้ออ้างในการละเลยการต่ออายุ
“ดังนั้น จึงอยากเน้นย้ำให้ครูทุกท่านตระหนักถึงความสำคัญและเร่งดำเนินการต่ออายุใบอนุญาตฯ ให้เสร็จสิ้นก่อนวันเปิดภาคเรียน เพื่อให้การปฏิบัติหน้าที่เป็นไปอย่างราบรื่น ถูกต้องตามกฎหมาย และไม่ต้องเผชิญกับปัญหาทางกฎหมายที่อาจตามมาในภายหลัง ซึ่งจะเป็นผลเสียต่อทั้งตัวครูเอง โรงเรียน และระบบการศึกษาโดยรวม” นายสิริพงศ์ กล่าวทิ้งท้าย