กระทรวงศึกษาธิการ โดย สำนักงานลูกเสือแห่งชาติ (สลช.) เตรียมประกาศยกเว้นเครื่องแบบและการแต่งกายลูกเสือของสถานศึกษาสังกัดกระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) อย่างเป็นทางการภายในเดือนเมษายนนี้ เพื่อช่วยลดภาระค่าใช้จ่ายให้แก่ผู้ปกครอง และให้สอดคล้องกับสภาพเศรษฐกิจ รวมถึงสภาพอากาศในแต่ละพื้นที่ นโยบายนี้เกิดขึ้นในช่วงที่ผู้ปกครองกำลังเตรียมซื้อชุดนักเรียนให้บุตรหลานเพื่อรับการเปิดภาคเรียนที่ 1 ประจำปีการศึกษา 2568 ในวันที่ 16 พฤษภาคมนี้

บรรยากาศที่ร้านจำหน่ายชุดนักเรียนในช่วงนี้ยังคงไม่คึกคักเท่าที่ควร ส่วนใหญ่ผู้ปกครองจะมารอซื้อในช่วงต้นเดือนพฤษภาคม อย่างไรก็ตาม ประเด็นการยกเลิกชุดลูกเสือได้กลายเป็นที่พูดถึงและมีปฏิกิริยาที่หลากหลาย

นางน้ำอ้อย อริยจิราพงศ์ ผู้ปกครองรายหนึ่ง กล่าวให้ความเห็นว่า ตอนนี้กำลังรอดูแนวโน้มจากทางโรงเรียนว่าจะมีการตัดสินใจอย่างไร หากมีการยกเลิกเครื่องแบบลูกเสือจริง ก็คงไม่มีผลกระทบมากนักสำหรับผู้ปกครองที่เคยซื้อชุดไว้แล้ว เพียงแต่อาจจะต้องเปลี่ยนเครื่องหมายบางอย่าง แต่หากมองในภาพรวม การยกเลิกจะช่วยประหยัดค่าใช้จ่ายได้มากสำหรับผู้ปกครองที่ยังไม่ได้ซื้อชุด อย่างไรก็ตาม นางน้ำอ้อยแสดงความเห็นว่า หากจะมีการยกเลิกจริง น่าจะประกาศให้เร็วกว่านี้ เพราะขณะนี้ใกล้ถึงช่วงเปิดเทอมแล้ว ผู้ปกครองส่วนใหญ่มักจะเตรียมชุดไว้พร้อมตั้งแต่ช่วงมอบตัวหรือใกล้เปิดเทอม การประกาศกะทันหันอาจไม่ได้ช่วยประหยัดสำหรับทุกคนอย่างที่ตั้งใจ

ด้าน น.ส.สุภารัตน์ สุนทร อายุ 39 ปี อีกหนึ่งผู้ปกครอง กล่าวว่า ตนเองยังไม่ได้ซื้อชุดลูกเสือให้ลูกชายทั้ง 2 คน เนื่องจากมีความสับสนในนโยบาย หากต้องซื้อพร้อมกันสองคน ค่าใช้จ่ายหนักมาก ตกชุดละประมาณ 600-900 บาท การที่กระทรวงฯ มีแนวคิดจะยกเลิกชุดลูกเสือจึงถือเป็นผลดีอย่างยิ่งสำหรับผู้ปกครองอย่างตน เพราะช่วยประหยัดเงินไปได้มาก

น.ส.สุภารัตน์ ยังกล่าวเสริมว่า เห็นด้วยอย่างยิ่งกับการยกเลิกชุดลูกเสือ เพราะนอกจากเรื่องค่าใช้จ่ายในช่วงเศรษฐกิจแบบนี้ ซึ่งต้องจ่ายค่าเทอมลูกสองคนก็เป็นเงินจำนวนมากแล้ว ยังมีเรื่องของสภาพอากาศในประเทศไทยที่ร้อนจัด การที่เด็กๆ ต้องใส่ชุดที่มีการแต่งกายหลายชิ้น หรือมีเนื้อผ้าที่ค่อนข้างหนา อาจทำให้เด็กรู้สึกไม่สบายตัว ไม่มีความสุขกับการเรียน โดยเฉพาะเวลาออกไปทำกิจกรรมกลางแจ้ง อาจเสี่ยงต่อการเกิดภาวะฮีทสโตรกได้

ในมุมของผู้ประกอบการ นายสมชัย แท่นวัฒนกุล อายุ 68 ปี เจ้าของร้านชุดนักเรียน ร้านมีอาภรณ์ เล่าถึงสถานการณ์ว่า ตอนนี้ยอดขายชุดนักเรียนลดลงอย่างเห็นได้ชัด นอกจากลูกค้าบางส่วนที่ได้สั่งซื้อไว้ล่วงหน้าเท่านั้น ตนยังเชื่อว่าโรงเรียนที่อยู่ในตัวเมืองส่วนใหญ่น่าจะยังคงกำหนดให้นักเรียนใส่เครื่องแบบลูกเสือเหมือนเดิม แต่ก็เข้าใจได้สำหรับโรงเรียนในพื้นที่ชนบทซึ่งอาจปรับเปลี่ยนตามภาวะเศรษฐกิจ

นายสมชัยแสดงความกังวลว่า ทางร้านได้สั่งชุดลูกเสือเข้ามาสต็อกไว้ตั้งแต่ปีที่แล้วเพื่อเตรียมพร้อมสำหรับปีนี้ การประกาศนโยบายยกเลิกเครื่องแบบอย่างกะทันหันนี้ส่งผลกระทบหนักมาก ทั้งต่อผู้ผลิต โรงงาน และร้านค้า ซึ่งควรจะมีการแจ้งล่วงหน้าว่าจะยกเลิกในปีการศึกษาใด เพื่อให้ทุกฝ่ายได้วางแผนเตรียมตัวได้อย่างถูกต้อง

นายสมชัยทิ้งท้ายว่า ปีนี้ภาพรวมการค้าขายชุดนักเรียนถือว่าหนักมาก ยอดขายลดลงไปกว่า 40% เมื่อเทียบกับปีที่แล้ว และหากเทียบกับ 10 ปีที่ผ่านมา ยอดขายลดลงไปเหลือไม่ถึง 10% ถือว่าเป็นปีที่ได้รับผลกระทบอย่างหนักจากสภาพเศรษฐกิจในปัจจุบัน