สงขลา – ทหารและเจ้าหน้าที่ศุลกากรสะเดา สนธิกำลังตั้งด่านสกัดสิ่งผิดกฎหมาย พบรถบรรทุก 18 ล้อ ดัดแปลงถังน้ำมันซุกซ่อนทั้งใต้ท้องรถและภายในตู้คอนเทนเนอร์ที่อ้างว่าเป็นตู้เปล่า ตรวจยึดน้ำมันดีเซลเถื่อนได้เกือบ 5,000 ลิตร พร้อมคุมตัวคนขับสอบสวน

เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 25 เมษายน 2568 บริเวณจุดตรวจจุดสกัดสิ่งผิดกฎหมาย ถนนกาญจนวานิช บ้านพรุเตียว ตำบลสำนักขาม อำเภอสะเดา จังหวัดสงขลา ซึ่งเป็นการปฏิบัติการร่วมกันของกองกำลังเทพสตรี กองร้อยทหารราบที่ 5021 ภายใต้การอำนวยการของ พันเอก ทวีพร คณะทอง ผู้บังคับหน่วยเฉพาะกิจกรมทหารราบที่ 5 และ พันเอก ธนพล นุ้ยสุข รองผู้บังคับหน่วยเฉพาะกิจกรมทหารราบที่ 5 ร่วมกับ ฝ่ายป้องกันและปราบปราม ส่วนควบคุมทางศุลกากร สำนักงานศุลกากรภาคที่ 4 และเจ้าหน้าที่ส่วนควบคุมทางศุลกากร ด่านศุลกากรสะเดา นำโดย นางนิรมล ศรีวุฒิชาญ ผู้อำนวยการส่วนควบคุมทางศุลกากร และ นายอังกูร เรืองสุข หัวหน้าฝ่ายป้องกันและปราบปรามทางศุลกากร

ขณะที่เจ้าหน้าที่กำลังปฏิบัติหน้าที่ ได้มีรถบรรทุกตู้คอนเทนเนอร์ หมายเลขทะเบียนจังหวัดสงขลา วิ่งผ่านมา เจ้าหน้าที่จึงให้สัญญาณหยุดเพื่อทำการตรวจสอบ จากการสอบถาม นายฟาดิ้ล อายุ 28 ปี ซึ่งเป็นคนขับรถบรรทุกคันดังกล่าว ถึงเส้นทางการเดินทางและสิ่งของบรรทุก

เจ้าหน้าที่ได้ขอเข้าทำการตรวจสอบภายในตู้บรรทุกสินค้า ซึ่งคนขับอ้างว่าเป็นตู้คอนเทนเนอร์ตู้เปล่า แต่เมื่อเจ้าหน้าที่ขึ้นไปตรวจสอบอย่างละเอียดภายในตู้คอนเทนเนอร์ กลับพบว่ามีการลักลอบดัดแปลงพื้นที่ภายในเป็นถังสำหรับบรรจุน้ำมันดีเซลเต็มทั้งหมด ไม่เพียงเท่านั้น เมื่อตรวจสอบบริเวณฐานพ่วงใต้ท้องรถบรรทุก ก็ยังพบการติดตั้งถังน้ำมันดัดแปลงซุกซ่อนอยู่อีก รวมถังน้ำมันดัดแปลงที่พบทั้งหมดจำนวน 10 ถัง ซึ่งภายในบรรจุน้ำมันดีเซลไว้รวมปริมาณทั้งสิ้นประมาณ 4,900 ลิตร

จากการสอบสวนเบื้องต้น นายฟาดิ้ล คนขับ ให้การว่า รถบรรทุกคันนี้เป็นของบริษัทชื่อดังแห่งหนึ่ง และตนเป็นเพียงพนักงานรับจ้างขับ มีหน้าที่ขับรถเข้าออกประเทศมาเลเซีย เพื่อไปรับน้ำมันดีเซลจากปั๊มน้ำมันแห่งหนึ่ง ซึ่งมีราคาเพียงลิตรละประมาณ 20 บาท และจะนำน้ำมันทั้งหมดกลับมาส่งลงที่บ่อน้ำมันแห่งหนึ่งในพื้นที่ตำบลฉลุง อำเภอหาดใหญ่ จังหวัดสงขลา

เบื้องต้น เจ้าหน้าที่ได้ควบคุมตัว นายฟาดิ้ล พร้อมยึดของกลางทั้งหมด ได้แก่ รถบรรทุก 18 ล้อ, ตู้คอนเทนเนอร์ดัดแปลง, ถังน้ำมันดัดแปลง และน้ำมันดีเซลของกลาง ส่งมอบให้ฝ่ายป้องกันและปราบปรามทางศุลกากร ด่านศุลกากรสะเดา เพื่อดำเนินการสอบสวนขยายผลและดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป