รัฐมนตรีท่องเที่ยวฯ ผุดแคมเปญ ‘สวัสดี หนีห่าว’ ดึงสื่อ-อินฟลูฯ จีน 300 คน ฟื้นความเชื่อมั่น ดันรายได้ท่องเที่ยว
กรุงเทพฯ – นายสรวงศ์ เทียนทอง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา เปิดเผยถึงสถานการณ์และมาตรการส่งเสริมการท่องเที่ยวไทย โดยระบุว่าภาพรวมรายได้จากการท่องเที่ยวในช่วง 4 เดือนแรกของปี 2568 (1 ม.ค. – 28 เม.ย.) อยู่ที่ 952,000 ล้านบาท ซึ่งเพิ่มขึ้น 4.73% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน
แม้ว่าตลาดนักท่องเที่ยวจีนซึ่งเป็นกลุ่มสำคัญจะมีการชะลอตัวลงบ้าง แต่รายได้ที่เพิ่มขึ้นมาจากนักท่องเที่ยวตลาดไกล เช่น ยุโรป และสหรัฐอเมริกา ที่เข้ามาทดแทน
นายสรวงศ์ กล่าวว่า เพื่อเร่งฟื้นฟูตลาดจีนให้กลับมาแข็งแกร่ง กระทรวงฯ เตรียมเดินหน้าหลายมาตรการ โดยในสัปดาห์หน้าจะมีการหารือร่วมกับท่านทูตจีนประจำประเทศไทย เพื่อแลกเปลี่ยนข้อคิดเห็นและหาแนวทางร่วมกัน รวมถึงพิจารณาข้อเสนอจากภาคเอกชนที่ต้องการเชิญรัฐมนตรีท่องเที่ยวของจีนมาเยือนไทย เพื่อช่วยสร้างภาพลักษณ์ที่ดีและความเชื่อมั่นในการเดินทาง
หัวใจสำคัญของแผนฟื้นฟูตลาดจีนคือโครงการเร่งด่วนที่จะเริ่มดำเนินการในเดือนพฤษภาคมนี้ คือโครงการ “สวัสดี หนีห่าว” ซึ่งเป็นการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) จะเป็นเจ้าภาพเชิญคณะอินฟลูเอ็นเซอร์และสื่อมวลชนจากสาธารณรัฐประชาชนจีนจำนวนกว่า 300 คน เข้ามาเดินทางสัมผัสประสบการณ์จริงในการท่องเที่ยวตามภูมิภาคต่างๆ ของประเทศไทย โครงการนี้มีวัตถุประสงค์หลักเพื่อให้อินฟลูเอนเซอร์และสื่อมวลชนเหล่านี้ได้เห็นและสัมผัสถึงความสวยงาม แหล่งท่องเที่ยวที่หลากหลาย และการต้อนรับอย่างอบอุ่นของคนไทย ก่อนจะนำเรื่องราวและภาพลักษณ์เชิงบวกกลับไปเผยแพร่ยังประเทศจีน ซึ่งคาดว่าจะช่วยสร้างความเข้าใจที่ถูกต้องและกระตุ้นการตัดสินใจเดินทางมาเที่ยวไทยของนักท่องเที่ยวชาวจีนได้
นอกจากมาตรการด้านการตลาดและการสร้างความเชื่อมั่น นายสรวงศ์ ยังเน้นย้ำถึงความมุ่งมั่นของรัฐบาลในการปราบปรามขบวนการอาชญากรรมข้ามชาติหรือ “ทุนเทา” อย่างต่อเนื่อง เพื่อให้การท่องเที่ยวมีความปลอดภัยและยั่งยืน พร้อมยอมรับว่าการรายงานข่าวที่รวดเร็วในยุคดิจิทัลบางครั้งอาจนำไปสู่ความเข้าใจผิดหรือข่าวปลอมได้ง่าย เช่น กรณีข่าวเท็จเรื่องการขายอวัยวะที่พัทยา ซึ่งยืนยันว่าไม่เป็นความจริง และเจ้าหน้าที่ได้เร่งดำเนินการชี้แจงข้อเท็จจริงเพื่อแก้ไขความเข้าใจผิดดังกล่าวแล้ว
เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการคัดกรองและดูแลความปลอดภัยของนักท่องเที่ยว ทางสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง (สตม.) ได้เริ่มนำระบบการยื่นใบ ตม.6 ออนไลน์ มาใช้ ซึ่งคาดว่าจะช่วยให้กระบวนการเข้าเมืองรวดเร็วขึ้นและสามารถคัดกรองกลุ่มบุคคลที่มีความเสี่ยงได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น
นายสรวงศ์ ยังกล่าวถึงการปรับดัชนีวัดผลการดำเนินงาน (KPI) ด้านการท่องเที่ยวของกระทรวงฯ ว่าจะไม่เน้นเพียงแค่จำนวนนักท่องเที่ยวอีกต่อไป แต่จะให้ความสำคัญกับการวัดรายได้ต่อหัวของนักท่องเที่ยวควบคู่กันไปด้วย โดยเฉพาะการมุ่งเน้นดึงกลุ่มนักท่องเที่ยวที่มีกำลังซื้อสูง รวมถึงการใช้ KOL (Key Opinion Leader) และอินฟลูเอนเซอร์ชาวจีนมาเป็นเครื่องมือสำคัญในการสื่อสารเพื่อสร้างความเชื่อมั่นและกระตุ้นการใช้จ่าย
ในส่วนของการกระตุ้นตลาดภายในประเทศ กระทรวงฯ กำลังอยู่ระหว่างจัดทำแคมเปญส่งเสริมการท่องเที่ยวภายในประเทศ ซึ่งคาดว่าจะมีความชัดเจนและเตรียมเสนอเข้าสู่ที่ประชุมคณะรัฐมนตรีในเร็วๆ นี้