ลือสนั่น! “อว.” จ่อตั้ง “กรมพัฒนาอุดมศึกษา” คุม มหา’ลัย ด้าน อดีตเลขา กกอ. ค้านหัวชนฝา ชี้ลดศักดิ์ ยิ่งทำปัญหาวุ่น
มีกระแสข่าวลือหนาหูในแวดวงการศึกษาว่า กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.) กำลังพิจารณาปรับโครงสร้างหน่วยงานภายในครั้งใหญ่ โดยมีแนวคิดที่จะจัดตั้งหน่วยงานระดับกรมขึ้นมาใหม่ ซึ่งจะใช้ชื่อว่า “กรมพัฒนาอุดมศึกษา” เพื่อทำหน้าที่ดูแล กำกับ และส่งเสริมมหาวิทยาลัยทั่วประเทศโดยเฉพาะ แทนที่รูปแบบการทำงานในปัจจุบัน
แหล่งข่าวระบุว่า เหตุผลเบื้องหลังแนวคิดนี้ มาจากมุมมองว่าปัจจุบันมหาวิทยาลัยต่างๆ อาจยังไม่ได้รับการดูแลเอาใจใส่เท่าที่ควรจากโครงสร้างที่มีอยู่
อย่างไรก็ตาม แนวคิดดังกล่าวกลับถูกคัดค้านจากผู้คร่ำหวอดในแวดวงอุดมศึกษา โดยเฉพาะ นายภาวิช ทองโรจน์ อดีตเลขาธิการคณะกรรมการการอุดมศึกษา (กกอ.) ซึ่งได้ออกมาแสดงความเห็นไม่เห็นด้วยอย่างยิ่งต่อการจัดตั้ง กรมพัฒนาอุดมศึกษา
นายภาวิช ชี้แจงว่า ตนเองเห็นใจที่ อว. มีภารกิจที่ต้องดูแลหลากหลายด้าน แต่เมื่อมองย้อนกลับไปในอดีต หน่วยงานที่ดูแลอุดมศึกษา ไม่ว่าจะเป็นสมัย ทบวงมหาวิทยาลัย หรือ สำนักงานคณะกรรมการการอุดมศึกษา (สกอ.) ภายใต้กระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) ต่างก็มีการทำงานที่ใกล้ชิดกับมหาวิทยาลัยและสามารถทำหน้าที่ได้อย่างมีทิศทาง
แต่เมื่อ สกอ. ย้ายมาอยู่ในสังกัดของ อว. และอยู่ภายใต้การกำกับดูแลของปลัด อว. ซึ่งมีภาระงานอื่นๆ อีกมาก ทำให้ สกอ. ในปัจจุบันดูเหมือนจะขาดทิศทางในการทำงาน ขาดความเข้มข้นในการขับเคลื่อนนโยบาย และการแก้ปัญหาสำคัญที่เกิดขึ้นในระบบอุดมศึกษา
ด้วยเหตุนี้ นายภาวิช จึงเห็นว่า ปัญหาการดูแลมหาวิทยาลัยเป็นเรื่องที่ต้องเร่งแก้ไขจริง แต่การตั้ง กรมพัฒนาอุดมศึกษา ไม่ใช่แนวทางการแก้ปัญหาที่ถูกต้องและควรทำในมุมมองของตนเอง
อดีตเลขาธิการ กกอ. ให้เหตุผลว่า ในอดีต อุดมศึกษาและมหาวิทยาลัยต่างๆ ได้รับความสำคัญอย่างยิ่ง หน่วยงานที่ทำหน้าที่ดูแลจึงจำเป็นต้องมีศักยภาพสูงมาก อย่างสมัยที่เป็น ทบวงมหาวิทยาลัย รัฐมนตรีทบวงฯ ยังบ่อยครั้งที่ควบตำแหน่งรองนายกรัฐมนตรี เพื่อให้อุดมศึกษาเป็นกลไกสำคัญในการช่วยแก้ปัญหาของประเทศ
“การเปลี่ยนให้ผู้ดูแลมหาวิทยาลัย กลายมาเป็นหน่วยงานระดับกรม ผมว่าไม่ใช่เรื่องที่ถูกต้อง ถือเป็นการลดศักดิ์ของหน่วยงานที่ช่วยแก้ไขปัญหาระดับประเทศลงมา” นายภาวิช กล่าวย้ำ
นอกจากนี้ เขายังมองว่า การจัดตั้งกรมฯ จะเป็นการลดขั้นผู้ดูแลจากเดิมที่เป็นระดับปลัด อว. หรือ เลขาธิการ กกอ. ซึ่งเป็นตำแหน่งบริหารระดับ 11 ลงมาเหลือเพียงอธิบดีกรม ซึ่งเป็นตำแหน่งระดับ 10 ถือว่าไม่ใช่เรื่องที่ควรทำอย่างยิ่ง เพราะตำแหน่งอธิบดีกรมนั้นมีระดับเทียบเท่ากับอธิการบดีของมหาวิทยาลัยต่างๆ ทำให้การที่อธิบดีระดับเดียวกันมาสั่งการมหาวิทยาลัยจึงอาจเป็นเรื่องที่ไม่เหมาะสมและแปลกประหลาด
นายภาวิช เสนอแนะทางออกว่า หากจะมีการปรับโครงสร้างจริง ควรให้ สกอ. กลับมามีบทบาทที่เข้มแข็ง โดยมีเลขาธิการคณะกรรมการการอุดมศึกษา (กกอ.) ที่มาจากการสรรหา ทำหน้าที่กำกับดูแลอุดมศึกษาโดยตรง เช่นเดียวกับโครงสร้างของกระทรวงศึกษาธิการที่มีผู้บริหารองค์กรหลักระดับเดียวกันหลายคน
ที่สำคัญ ผู้ที่จะมาทำหน้าที่เลขาธิการ กกอ. ควรจะต้องเป็นผู้ที่มีประสบการณ์ในการเป็นอธิการบดี หรือบริหารมหาวิทยาลัยมาก่อน เพื่อให้มีความเข้าใจในบริบทและสามารถพูดคุยหารือกับมหาวิทยาลัยต่างๆ ได้อย่างราบรื่น เนื่องจากเป็นผู้ที่อยู่ในแวดวงเดียวกัน
นายภาวิช ทิ้งท้ายเตือนว่า “ทั้งนี้ถ้า กรมพัฒนาอุดมศึกษา เกิดขึ้นจริง จะเกิดผลเสียต่อมหาวิทยาลัยแน่นอน” เพราะการได้มาซึ่งตำแหน่งอธิบดี อาจมาจากการไต่เต้าตามระบบราชการภายใน ซึ่งอาจขาดประสบการณ์ตรงในการบริหารมหาวิทยาลัย ไม่มีอาวุโส หรือบารมีเพียงพอที่จะพูดคุยและนำพามหาวิทยาลัยต่างๆ ได้อย่างมีประสิทธิภาพ ซึ่งสิ่งเหล่านี้คือความเสียหายเบื้องต้นที่อาจเกิดขึ้นอย่างแน่นอน