ลิโอเนล เมสซี ยอดนักฟุตบอลระดับโลกชาวอาร์เจนตินา ออกมาเปิดเผยถึงความรู้สึกสับสนเกี่ยวกับประเด็นความไม่พอใจจากแฟนบอลชาวเม็กซิกัน ซึ่งเกิดขึ้นภายหลังการแข่งขันฟุตบอลโลก 2022 ที่ทีมชาติอาร์เจนตินาเอาชนะเม็กซิโกไปได้ 2-0 โดยเมสซียืนยันว่าไม่เข้าใจว่าทำไมถึงเกิดสถานการณ์เช่นนี้ขึ้น ทั้งที่เขารู้สึกดีกับชาวเม็กซิกันเสมอมา

ประเด็นดังกล่าวถูกรายงานโดยสำนักข่าวอีเอสพีเอ็น โดยเริ่มต้นขึ้นหลังจากเกมสำคัญในรอบแบ่งกลุ่มของศึกฟุตบอลโลกที่ประเทศกาตาร์ เมื่อปี 2022 ซึ่งเป็นเกมที่ทีมชาติอาร์เจนตินาภายใต้การนำของเมสซีต้องพบกับทีมชาติเม็กซิโก และอาร์เจนตินาสามารถเอาชนะไปได้ 2-0 ในเกมนั้น ทำให้เมสซีและเพื่อนร่วมทีมกลายเป็นเป้าหมายของเสียงวิพากษ์วิจารณ์และแสดงความไม่พอใจจากแฟนบอลบางส่วนของเม็กซิโก

ล่าสุด ดาวยิงวัย 36 ปี ซึ่งปัจจุบันค้าแข้งอยู่กับสโมสรอินเตอร์ ไมอามี ในเมเจอร์ลีก ซอกเกอร์ สหรัฐอเมริกา ได้ออกมากล่าวถึงเรื่องนี้ว่า "พวกเขาทำให้ตัวเองอยู่ในจุดที่เป็นคู่ปรับกับเรา ซึ่งมันไม่ได้เป็นแบบนั้น มันไม่ได้มีการเปรียบเทียบกันระหว่างอาร์เจนตินา และ เม็กซิโก และผมไม่รู้ว่ามันไปเริ่มต้นมาจากไหน"

"ผมไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นกับแฟนบอลเม็กซิกัน การเป็นคู่ปรับเกิดขึ้นเมื่อไร และความโกรธนั้นเริ่มตั้งแต่ตอนไหน" เมสซีกล่าวเสริม พร้อมแสดงความรู้สึกส่วนตัวที่มีต่อชาวเม็กซิกัน "ผมรู้สึกเสมอว่าชาวเม็กซิกันรักผม ผมไม่เคยไม่ให้เกียรติใครเลยนะ"

คำกล่าวของเมสซีตอกย้ำถึงความประหลาดใจของเขาต่อปฏิกิริยาของแฟนบอลบางกลุ่ม โดยชี้ให้เห็นว่าความรู้สึกเป็นปรปักษ์ที่เกิดขึ้นนั้นเป็นเรื่องที่ไม่เคยมีมาก่อน และไม่ได้สะท้อนความสัมพันธ์ปกติระหว่างสองชาติในวงการฟุตบอล ทั้งนี้ เมสซีเป็นที่รักและได้รับการยอมรับจากแฟนบอลทั่วโลก รวมถึงในกลุ่มผู้ที่ชื่นชอบกีฬาฟุตบอลในประเทศเม็กซิโกด้วย การที่ประเด็นความไม่พอใจนี้เกิดขึ้น จึงเป็นเรื่องที่ทำให้เจ้าตัวรู้สึกงุนงงไม่น้อย

นับเป็นอีกครั้งที่เมสซีต้องออกมาพูดถึงเรื่องราวที่เกิดขึ้นนอกสนาม หลังจากที่เคยมีประเด็นถกเถียงอื่น ๆ ก่อนหน้านี้ อย่างไรก็ตาม ดาวยิงเจ้าของบัลลงดอร์หลายสมัย ยังคงให้ความสำคัญกับการทำหน้าที่ในสนามให้กับต้นสังกัดและทีมชาติ พร้อมแสดงทัศนคติที่ให้เกียรติทุกคนเสมอมา