กรุงเทพฯ – แพทยสภาได้มีมติพิจารณาจริยธรรมแพทย์ที่เกี่ยวข้องกับการดูแลรักษา นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ซึ่งเข้ารับการรักษาตัวที่โรงพยาบาลตำรวจ ชั้น 14 โดยมีคำร้องสอบจริยธรรมแพทย์รวม 4 ราย

รายงานข่าวระบุว่า จากการพิจารณา คณะกรรมการแพทยสภามีมติให้ยกคำร้อง 1 ราย คือ ผู้ถูกร้องที่ 1 ส่วนอีก 3 ราย มีมติให้ลงโทษ โดยแบ่งเป็นฐานความผิดดังนี้:

• แพทย์หญิงจากโรงพยาบาลราชทัณฑ์ ซึ่งเป็นผู้ถูกร้องที่ 2 ได้รับการลงโทษโดยการว่ากล่าวตักเตือน ในกรณีที่เกี่ยวกับมาตรฐานการประกอบวิชาชีพ
• นายแพทย์จากโรงพยาบาลตำรวจ ซึ่งเป็นผู้ถูกร้องที่ 3 ได้รับการลงโทษโดยการพักใช้ใบอนุญาตประกอบวิชาชีพเวชกรรมเป็นระยะเวลา 3 เดือน ในกรณีให้ข้อมูลหรือเอกสารทางการแพทย์อันไม่ตรงกับความเป็นจริง
• นายแพทย์อีกรายจากโรงพยาบาลตำรวจ ซึ่งเป็นผู้ถูกร้องรายที่ 3 ได้รับการลงโทษโดยการพักใช้ใบอนุญาตประกอบวิชาชีพเวชกรรมเป็นระยะเวลา 6 เดือน ในกรณีให้ข้อมูลหรือเอกสารทางการแพทย์อันไม่ตรงกับความเป็นจริงเช่นเดียวกัน

ความเคลื่อนไหวล่าสุด รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ในฐานะสภานายกพิเศษแห่งแพทยสภา ได้แต่งตั้งคณะทำงานจำนวน 10 คน ขึ้นมาเพื่อร่วมกันพิจารณามติของแพทยสภาดังกล่าว คณะทำงานชุดนี้มีหน้าที่ทำความเห็นส่งกลับไปยังคณะกรรมการแพทยสภาภายใน 15 วัน นับตั้งแต่วันที่ 16 พฤษภาคม 2568 เป็นต้นไป ว่าจะเห็นชอบตามมติดังกล่าวหรือไม่

กระบวนการหลังจากนี้คือ หากสภานายกพิเศษฯ เห็นชอบตามมติเดิม บอร์ดแพทยสภาก็จะประกาศผลการลงโทษข้างต้นอย่างเป็นทางการ แต่หากมีการวีโต้เกิดขึ้น คณะกรรมการแพทยสภาจะต้องใช้เสียง 2 ใน 3 ของบอร์ด เพื่อพิจารณาว่า การโต้นั้นมีเหตุผลสมควรที่จะต้องมีการสืบสวน สอบสวนเพิ่มเติมหรือไม่ หรือถ้าเห็นว่าการโต้นั้นไม่มีเหตุผล บอร์ดก็สามารถมีมติยืนยันตามมติเดิมได้

ทั้งนี้ ผู้ถูกลงโทษ หากไม่เห็นด้วยกับคำตัดสินของแพทยสภา ก็ยังคงมีสิทธิ์ตามกฎหมายในการยื่นฟ้องต่อศาลปกครองเพื่อขอความเป็นธรรมได้

รายงานเพิ่มเติมระบุว่า ในช่วงวันที่ 13, 14 และ 15 พฤษภาคม 2568 ที่ผ่านมา แพทย์ที่เชื่อว่าตนเองเป็นผู้ที่ถูกตัดสินลงโทษ ได้เข้ายื่นหนังสือร้องขอความเป็นธรรมต่อรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข โดยมี นายกองตรี ดร.ธนกฤต จิตรอารีย์รัตน์ ผู้ช่วยรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข เป็นผู้รับมอบหนังสือดังกล่าว