สร้างประวัติศาสตร์! แม็กซิมัส ภราพล โจนส์ ผงาดแชมป์ ATP Challenger อายุน้อยสุดของไทย

สาธารณรัฐโกตดิวัวร์ – ความเคลื่อนไหวล่าสุดจากการแข่งขันเทนนิสอาชีพชาย เอทีพี ชาลเลนเจอร์ ทัวร์ 50 รายการ “โกตดิวัวร์ โอเพ่น 1 ” ชิงเงินรางวัลรวม 60,000 ดอลลาร์สหรัฐ หรือประมาณ 2 ล้านบาท ที่สาธารณรัฐโกตดิวัวร์ หรือที่รู้จักกันในชื่อ ไอวอรีโคสต์ ซึ่งการแข่งขันได้ปิดฉากลงเมื่อช่วงเช้าวันที่ 21 เมษายน 2568 ตามเวลาประเทศไทย

ในประเภทชายเดี่ยว รอบชิงชนะเลิศ เป็นการพบกันระหว่าง แม็กซิมัส ภราพล โจนส์ นักเทนนิสลูกครึ่งไทย-ออสเตรเลีย วัย 20 ปี มืออันดับ 618 ของโลก ซึ่งฝ่าฟันมาจากรอบคัดเลือก พบกับ ริคาร์ดาส เบรานคิส นักหวดมากประสบการณ์จากลิทัวเนีย วัย 34 ปี มืออันดับ 297 ของโลก และเป็นมือวางอันดับ 5 ของรายการ

ผลการแข่งขันปรากฏว่า แม็กซิมัส ภราพล โจนส์ โชว์ฟอร์มได้อย่างยอดเยี่ยมและพลิกเอาชนะไปได้อย่างสุดระทึก 2-1 เซต ด้วยสกอร์ 6-3, 4-6 และ 6-4 โดยใช้เวลาการแข่งขันทั้งสิ้น 2 ชั่วโมง 8 นาที ถือเป็นการคว้าแชมป์ระดับ เอทีพี ชาลเลนเจอร์ ครั้งแรกในชีวิตของนักหวดดาวรุ่งรายนี้

ชัยชนะในครั้งนี้ ส่งผลให้ แม็กซิมัส คว้าเงินรางวัลไปครองจำนวน 8,680 ดอลลาร์สหรัฐฯ หรือประมาณ 289,000 บาท พร้อมกับได้รับคะแนนสะสมอันดับโลกเพิ่มอีก 53 คะแนน ซึ่งจะทำให้อันดับโลกของเขากระโดดขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ โดย แม็กซิมัส เป็นนักกีฬาที่ได้รับการสนับสนุนอย่างต่อเนื่องจากการปิโตรเลียมแห่งประเทศไทย (ปตท.) และสมาคมกีฬาลอนเทนนิสแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์

นอกจากจะเป็นแชมป์ชาลเลนเจอร์แรกแล้ว ความสำเร็จครั้งนี้ของ แม็กซิมัส ยังเป็นการสร้างประวัติศาสตร์หน้าใหม่ให้กับวงการเทนนิสชายไทยอีกด้วย โดยเขากลายเป็นนักเทนนิสชายไทยคนที่ 3 ที่สามารถคว้าแชมป์ระดับ เอทีพี ชาลเลนเจอร์ ในประเภทชายเดี่ยว ต่อจากรุ่นพี่ในตำนานอย่าง “ซูเปอร์บอล” ภราดร ศรีชาพันธุ์ อดีตมืออันดับ 9 ของโลก และ “ปิ๊ก” ดนัย อุดมโชค อดีตมืออันดับ 77 ของโลก

ที่สำคัญคือ แม็กซิมัส ภราพล โจนส์ ได้ทำลายสถิติของรุ่นพี่ทั้งสองคน โดย ภราดร ศรีชาพันธุ์ คว้าแชมป์ชาลเลนเจอร์แรกได้เมื่ออายุ 22 ปี ในปี 2001 ที่รายการ แบงค็อก ชาลเลนเจอร์ ส่วน ดนัย อุดมโชค คว้าแชมป์ชาลเลนเจอร์แรกได้เมื่ออายุ 22 ปี ในปี 2003 ที่รายการ Dharwad Challenger ประเทศอินเดีย แต่ แม็กซิมัส สามารถทำได้สำเร็จตั้งแต่อายุเพียง 20 ปี ทำให้เขากลายเป็นนักเทนนิสชายไทยอายุน้อยที่สุดในประวัติศาสตร์ที่คว้าแชมป์รายการระดับ เอทีพี ชาลเลนเจอร์ ได้สำเร็จ

ภายหลังการแข่งขัน แม็กซิมัส กล่าวถึงความรู้สึกว่า ดีใจมากที่ได้แชมป์รายการนี้ ยอมรับว่าการแข่งขันในแต่ละรอบไม่ใช่เรื่องง่ายเลย โดยเฉพาะในรอบชิงชนะเลิศ ที่ต้องเจอกับผู้เล่นที่แข็งแกร่งมาก ซึ่งเป็นเหตุให้ตนเองแพ้ในเซตที่สอง อย่างไรก็ตาม ในเซตที่สาม ตนเองได้พยายามคิดหาวิธีการเล่นและก็ทำได้ในที่สุด ทั้งนี้ ขอขอบคุณครอบครัว ขอบคุณ ปตท. และสมาคมกีฬาลอนเทนนิสแห่งประเทศไทยฯ ที่ให้การสนับสนุนมาโดยตลอด ทำให้ตนสามารถเดินทางไปแข่งขันในต่างประเทศได้อย่างต่อเนื่อง

ด้าน นายสุชัย พรชัยศักดิ์อุดม นายกสมาคมกีฬาลอนเทนนิสแห่งประเทศไทยฯ ได้กล่าวแสดงความยินดีกับ แม็กซิมัส ว่า ขอแสดงความยินดีอย่างยิ่งกับ แม็กซิมัส ภราพล โจนส์ ที่สามารถคว้าแชมป์ระดับชาลเลนเจอร์มาครองได้สำเร็จ ถือเป็นการสร้างชื่อเสียงให้กับตนเอง ครอบครัว และประเทศไทยอย่างมาก ขอชื่นชม และยินดีกับครอบครัวของแม็กซิมัสด้วย ที่ได้ทุ่มเทและพยายามมาอย่างต่อเนื่อง ซึ่งทางสมาคมฯ ก็พร้อมที่จะให้การสนับสนุนต่อไปอย่างเต็มกำลังความสามารถ