น้องชายมือระเบิดแมนเชสเตอร์ อารีนา โจมตีเจ้าหน้าที่เรือนจำด้วยอาวุธประดิษฐ์ เจ็บสาหัส 3 ราย

(ภาพจาก AFP PHOTO / LIBYA’S SPECIAL DETERRENCE FORCE)

นายฮาเชม อาเบดี น้องชายของมือระเบิดในเหตุการณ์โจมตีสนามกีฬา “แมนเชสเตอร์ อารีนา” เมื่อปี 2560 ก่อเหตุใช้อาวุธประดิษฐ์ทำร้ายเจ้าหน้าที่เรือนจำ “แฟรงก์แลนด์” ในเคาน์ตี เดอร์แฮม ที่เขาถูกคุมขังอยู่ จนได้รับบาดเจ็บสาหัสถึง 3 คน เมื่อวันเสาร์ที่ 12 เม.ย. 2568

การโจมตีครั้งนี้เกิดขึ้นในศูนย์กักกันแยกของเรือนจำแฟรงก์แลนด์ ซึ่งมีไว้สำหรับคุมขังนักโทษที่อันตรายหรือมีอิทธิพลมากที่สุดในสหราชอาณาจักร โดยตอนเกิดเหตุ ศูนย์แยกแห่งนี้มีนักโทษไม่ถึง 10 คน

ตามการเปิดเผยของสมาคมเจ้าหน้าที่ทัณฑสถานของสหราชอาณาจักร นายอาเบดีสาดน้ำมันทำอาหารที่กำลังเดือดเข้าใส่เจ้าหน้าที่กลุ่มดังกล่าว และใช้อาวุธประดิษฐ์เองจ้วงแทงพวกเขา จนได้รับบาดเจ็บจากทั้งแผลไหม้, น้ำร้อนลวก และแผลถูกแทง และมีอาการสาหัสถึงขั้นอาจเป็นอันตรายต่อชีวิต

ขณะที่ บีบีซี ระบุว่า ผู้ได้รับบาดเจ็บเป็นเจ้าหน้าที่ชาย 2 นาย กับเจ้าหน้าที่หญิง 1 นาย ซึ่งตอนนี้เจ้าหน้าที่หญิงสามารถออกจากโรงพยาบาลได้แล้ว

ทั้งนี้ นายฮาเชม อาเบดี เป็นน้องชายของนาย ซัลมาน อาเบดี คนร้ายหลักในเหตุระเบิดพลีชีพโจมตีสนามกีฬา แมนเชสเตอร์ อารีนา หลังการแสดงคอนเสิร์ตของนักร้องสาว อารีอานา แกรนเด เมื่อ 22 พ.ค. 2560 จนทำให้มีผู้เสียชีวิต 22 ศพ บาดเจ็บอีกกว่า 500 คน โดยตัวนายซัลมานเสียชีวิตด้วย

ในปี 2563 นายฮาเชม อาเบดี ถูกพบว่ามีความผิดจริงในข้อหา ฆาตกรรม 22 กระทง, ข้อหาพยายามฆ่า และสมคบกันทำให้เกิดการระเบิดที่อาจเป็นอันตรายต่อชีวิต เนื่องจากเป็นผู้จัดหาวัตถุระเบิด และถูกพิพากษาให้จำคุกเป็นเวลาอย่างน้อย 55 ปี ก่อนที่เขาจะมีสิทธิ์ขอรับการพิจารณาทำทัณฑ์บนเพื่อปล่อยตัวก่อนกำหนด

แต่ในปี 2565 นายอาเบดีกับพวกอีก 2 คนถูกตัดสินว่ามีความผิดจริงในข้อหาโจมตีเจ้าหน้าที่เรือนจำ 2 คนในเหตุการณ์ก่อนหน้านี้ และถูกพิพากษาให้จำคุกเพิ่มอีก 3 ปีกับ 10 เดือน

หลังเกิดเหตุการณ์เมื่อวันเสาร์ นายมาร์ก แฟร์เฮิร์สต์ ประธานสมาคมเจ้าหน้าที่ทัณฑสถาน ออกมาตั้งข้อเสนอแนะว่า ควรมีการทบทวนเรื่องอิสรภาพที่เจ้าหน้าที่ของศูนย์เหล่านี้มอบให้แก่ผู้ต้องขัง และควรยกเลิกการปล่อยให้นักโทษเข้าถึงอุปกรณ์ทำอาหาร และของใช้ต่างๆ ที่อาจเป็นอันตรายต่อชีวิตของเจ้าหน้าที่ได้ในทันที

ติดตามข่าวต่างประเทศ : https://www.thairath.co.th/news/foreign

ที่มา : bbc

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *