ปีศาจแดง ถล่มบิลเบา 10 คน 3-0 กุมความได้เปรียบสูง ส่วนสเปอร์สเปิดบ้านเชือดโบโด/กลิมต์ ยูโรปา ลีก รอบรองฯ นัดแรก

แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด โชว์ฟอร์มแกร่งบุกถล่ม แอธเลติก บิลเบา ที่เหลือผู้เล่น 10 คน ขาดลอย 3-0 ในศึกยูฟ่า ยูโรปา ลีก รอบรองชนะเลิศ นัดแรก ขณะที่ ท็อตแนม ฮอตสเปอร์ อีกหนึ่งทีมจากอังกฤษ ก็สามารถเปิดบ้านเอาชนะ โบโด/กลิมต์ ไปได้เช่นกัน 3-1 ทำให้ทั้งสองทีมกุมความได้เปรียบก่อนเกมนัดที่สอง

การแข่งขันฟุตบอลยูฟ่า ยูโรปา ลีก ฤดูกาล 2024-25 รอบรองชนะเลิศ นัดแรก เมื่อคืนวันพฤหัสบดีที่ 1 พฤษภาคม 2568 มีสองคู่สำคัญลงสนาม

คู่แรกเป็นการพบกันระหว่าง แอธเลติก บิลเบา ตัวแทนจากสเปน เปิดสนาม ซาน มาเมส ซึ่งเป็นสนามที่จะใช้เป็นสังเวียนนัดชิงชนะเลิศของรายการนี้ ต้อนรับการมาเยือนของ “ปีศาจแดง” แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ยักษ์ใหญ่จากพรีเมียร์ลีก อังกฤษ

เกมนี้ เจ้าบ้าน บิลเบา นำทัพมาโดยสามประสานในแนวรุกอย่าง นิโก วิลเลียมส์, อิญากี วิลเลียมส์ และมารอน ซานนาดี ขณะที่ทีมเยือน แมนฯ ยูไนเต็ด จัดผู้เล่นชุดที่ดีที่สุดลงสนามเช่นกัน นำโดย บรูโน แฟร์นานเดส, อเลฮานโดร การ์นาโช และราสมุส ฮอยลุนด์

รูปเกมเป็นไปอย่างเข้มข้น กระทั่งนาทีที่ 30 แมนฯ ยูไนเต็ด ได้ประตูขึ้นนำก่อน จากจังหวะของ คาเซมิโร ส่งให้ “ปีศาจแดง” บุกนำ 1-0

สถานการณ์ของเจ้าถิ่น บิลเบา ยิ่งย่ำแย่ลงไปอีกในนาทีที่ 35 เมื่อ ดาเนียล วิเวียน กองหลังของทีม มาโดนใบแดงโดยตรงถูกไล่ออกจากสนาม ทำให้ บิลเบา ต้องเล่นด้วยผู้เล่น 10 คนตั้งแต่ยังไม่จบครึ่งแรก

หลังจาก บิลเบา เหลือ 10 คน แมนฯ ยูไนเต็ด ก็ใช้ความได้เปรียบเรื่องตัวผู้เล่นโจมตีทันที และมาได้ประตูที่สองในนาทีที่ 37 จากลูกจุดโทษ และเป็น บรูโน แฟร์นานเดส ที่สังหารไม่พลาด สกอร์ขยับเป็น 2-0

ก่อนหมดครึ่งแรกในนาทีที่ 45 แมนฯ ยูไนเต็ด ก็มาได้ประตูที่สาม ตอกย้ำความเหนือกว่า จบครึ่งแรก “ปีศาจแดง” บุกมานำ แอธเลติก บิลเบา ถึงถิ่น 3-0

ครึ่งหลังแม้ บิลเบา จะพยายามเปิดเกมรุก แต่ด้วยผู้เล่นที่น้อยกว่าก็ไม่สามารถเจาะแนวรับของ แมนฯ ยูไนเต็ด ได้ จบเกม แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด บุกเอาชนะ แอธเลติก บิลเบา ไปด้วยสกอร์ 3-0 กุมความได้เปรียบมหาศาลก่อนจะกลับไปเล่นเกมนัดที่สองที่สนาม โอลด์ แทรฟฟอร์ด ในวันที่ 8 พฤษภาคมนี้ ซึ่งขอเพียงแค่ไม่แพ้เกิน 3 ประตู ก็จะผ่านเข้าสู่รอบชิงชนะเลิศทันที

มาดูผลอีกคู่ในรอบรองชนะเลิศ นัดแรก “ไก่เดือยทอง” ท็อตแนม ฮอตสเปอร์ อีกหนึ่งตัวแทนจากอังกฤษ เปิดสนาม ท็อตแนม ฮอตสเปอร์ สเตเดียม รับการมาเยือนของ โบโด/กลิมต์ ทีมจากนอร์เวย์

เกมนี้ “ไก่เดือยทอง” ได้ประตูออกนำอย่างรวดเร็วตั้งแต่เพียงนาทีที่ 1 จาก เบรนแนน จอห์นสัน ก่อนจะมาได้ประตูที่สองในนาทีที่ 34 จาก เจมส์ แมดดิสัน สเปอร์ส นำ 2-0

ครึ่งหลัง นาทีที่ 61 สเปอร์ส ก็มาได้ประตูที่สามจากลูกจุดโทษ โดยเป็น โดมินิก โซลันกี ที่รับหน้าที่สังหารเข้าไป ทำให้สกอร์เป็น 3-0

แม้จะโดนนำห่าง แต่ โบโด/กลิมต์ ก็ไม่ย่อท้อ และมาได้ประตูตีไข่แตกในนาทีที่ 83 จาก อุลริก ซัลท์เนส ไล่ตามมาเป็น 3-1

ช่วงเวลาที่เหลือไม่มีประตูเพิ่ม จบเกม ท็อตแนม ฮอตสเปอร์ เปิดบ้านเอาชนะ โบโด/กลิมต์ ไปด้วยสกอร์ 3-1 เก็บชัยชนะในบ้านได้สำเร็จ ก่อนจะต้องไปเยือนนอร์เวย์ในเกมนัดที่สอง โดยต้องการผลเสมอเป็นอย่างน้อย หรือแพ้ไม่เกิน 1 ประตู (ถ้าเสียประตูเดียว) เพื่อผ่านเข้าสู่รอบชิงชนะเลิศต่อไป.