“ออล-อิงลิช ไฟนัล”! แมนฯ ยูไนเต็ด ควง ท็อตแนม ฮอตสเปอร์ เข้าชิงยูฟ่า ยูโรปา ลีก ดวลเดือดที่บิลเบา

“ออล-อิงลิช ไฟนัล” เกิดขึ้นอีกครั้งในศึกฟุตบอลยูฟ่า ยูโรปา ลีก ฤดูกาลนี้ หลังสองสโมสรยักษ์ใหญ่จากอังกฤษ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด และ ท็อตแนม ฮอตสเปอร์ ต่างพาเหรดผ่านเข้าสู่รอบชิงชนะเลิศได้สำเร็จ เตรียมดวลความเดือดเพื่อชิงความเป็นหนึ่งในเวทียุโรป ณ เมืองบิลเบา ประเทศสเปน ปลายเดือนพฤษภาคมนี้

แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ถล่ม บิลเบา ขาดลอย สกอร์รวม 7-1

การแข่งขันฟุตบอลยูฟ่า ยูโรปา ลีก รอบรองชนะเลิศ นัดที่สอง เมื่อวันที่ 8 พฤษภาคม ที่สนามโอลด์ แทรฟฟอร์ด “ปีศาจแดง” แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด เปิดบ้านต้อนรับการมาเยือนของ แอธเลติก บิลเบา จากสเปน โดยเกมแรก แมนฯ ยูไนเต็ด บุกไปเอาชนะมาได้ถึงถิ่นบิลเบา 3-0 ทำให้เกมนี้ได้เปรียบอย่างมาก

เกมเริ่มต้นด้วยความมุ่งมั่นของทั้งสองทีม โดยเจ้าบ้านส่งผู้เล่นตัวหลักอย่าง ราสมุส ฮอยลุนด์, บรูโน แฟร์นานเดส และ อเลฮานโดร การ์นาโช ลงสนาม ส่วนทีมเยือนก็มีแกนนำอย่าง มาโรอาน ซานนาดี และ อเล็กซ์ เบเรนเกร์

ครึ่งแรก แอธเลติก บิลเบา สร้างเซอร์ไพรส์ด้วยการได้ประตูขึ้นนำในนาทีที่ 31 จากจังหวะที่บอลมาเข้าทาง มิเคล เฆาเรกิซาร์ ที่ซัดจากระยะประมาณ 25 หลา บอลพุ่งเสียบสามเหลี่ยมเข้าไปอย่างสวยงาม ทำให้สกอร์รวม บิลเบา ตีตื้นขึ้นมาเป็น 1-3

อย่างไรก็ตาม ครึ่งหลัง “ปีศาจแดง” กลับมาโชว์ฟอร์มสุดยอด นาทีที่ 72 เมสัน เมาต์ รับบอลจาก เลนี โยโร ก่อนโชว์ทักษะพลิกหลบกองหลังและยิงเสียบมุมเข้าไปอย่างเด็ดขาด ทำให้ แมนฯ ยูไนเต็ด ตีเสมอเป็น 1-1 และนำสกอร์รวม 4-1

โมเมนตัมเริ่มเป็นของเจ้าบ้าน นาทีที่ 79 จากลูกฟรีคิกทางฝั่งขวา บรูโน แฟร์นานเดส เปิดบอลเข้ามา และเป็น คาเซมิโร ที่ถึงแม้จะโขกไม่เต็มศรีษะ แต่ก็สามารถสะบัดบอลให้ลอยผ่านมือนายทวารเข้าประตูไป แมนฯ ยูไนเต็ด แซงนำ 2-1 สกอร์รวม 5-1

นาทีที่ 85 แมนฯ ยูไนเต็ด มาได้ประตูที่สาม อาหมัด ดิยัลโล กระชากบอลสุดเส้นก่อนตวัดเข้ากลางให้ ราสมุส ฮอยลุนด์ ที่ยืนรออยู่โล่งๆ ไม่พลาดที่จะยิงเผาขนเข้าไปอย่างง่ายดาย ทำให้สกอร์ขยับเป็น 3-1 และสกอร์รวม 6-1

ช่วงทดเวลาบาดเจ็บ นาทีที่ 90+1 เมสัน เมาต์ โชว์ความเฉียบขาดอีกครั้ง เมื่อนายทวารบิลเบาออกมาสกัดบอลนอกเขตโทษ บอลมาเข้าทาง เมสัน เมาต์ ที่มองเห็นประตูว่าง ซัดด้วยซ้ายจากระยะครึ่งสนาม บอลลอยข้ามหัวผู้เล่นบิลเบาที่พยายามถอยไปป้องกัน เข้าประตูไปอย่างเหนือชั้น เป็นประตูปิดท้ายให้ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด เอาชนะ แอธเลติก บิลเบา ไปอย่างท่วมท้น 4-1 ทำให้สกอร์รวมสองนัด “ปีศาจแดง” ผ่านเข้ารอบชิงชนะเลิศด้วยสกอร์รวม 7-1

ท็อตแนม ฮอตสเปอร์ ย้ำแค้น โบโด/กลิมต์ ลิ่วชิงด้วยสกอร์รวม 5-1

ในอีกคู่ การแข่งขันที่สนามอัสป์มีรา สตาดิโอน ประเทศนอร์เวย์ “ไก่เดือยทอง” ท็อตแนม ฮอตสเปอร์ จากอังกฤษ ก็สามารถบุกไปเอาชนะ โบโด/กลิมต์ ตัวแทนจากนอร์เวย์ ได้ 2-0 โดยได้ประตูจาก โดมินิก โซลันกี ในนาทีที่ 63 และ เปโดร ปอร์โร ในนาทีที่ 69 ทำให้สกอร์รวมสองนัด ท็อตแนม ฮอตสเปอร์ เอาชนะไปได้ 5-1 และผ่านเข้าสู่รอบชิงชนะเลิศได้สำเร็จเช่นกัน

ศึก “ออล-อิงลิช ไฟนัล” ครั้งที่ 3 ในประวัติศาสตร์

การที่ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด และ ท็อตแนม ฮอตสเปอร์ โคจรมาพบกันในรอบชิงชนะเลิศยูฟ่า ยูโรปา ลีก ถือเป็นครั้งที่สามในประวัติศาสตร์ของรายการนี้ ที่สโมสรจากอังกฤษทั้งสองทีมเข้าชิงชนะเลิศด้วยกัน ต่อจากฤดูกาล 1971-72 (ท็อตแนม ฮอตสเปอร์ พบ วูล์ฟแฮมป์ตัน วันเดอเรอร์ส) และฤดูกาล 2018-19 (เชลซี พบ อาร์เซนอล)

สำหรับสถิติในรายการนี้ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด เคยเข้าชิงชนะเลิศมาแล้ว 2 ครั้ง (ได้แชมป์ 1 สมัย, รองแชมป์ 1 สมัย) ขณะที่ ท็อตแนม ฮอตสเปอร์ เข้าชิงเป็นครั้งที่ 4 (ได้แชมป์ 2 สมัย, รองแชมป์ 1 สมัย) การเจอกันครั้งนี้จึงเป็นโอกาสของทั้งสองทีมในการเพิ่มเกียรติประวัติในเวทียุโรป

นัดชิงฯ ดวลเดือดที่บิลเบา 21 พฤษภาคมนี้

นัดชิงชนะเลิศยูฟ่า ยูโรปา ลีก ระหว่าง แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด กับ ท็อตแนม ฮอตสเปอร์ มีกำหนดแข่งขันในวันที่ 21 พฤษภาคม ณ สนามซาน มาเมาส บาร์เรีย เมืองบิลเบา ประเทศสเปน ซึ่งเป็นสนามเหย้าของ แอธเลติก บิลเบา ที่เพิ่งถูก แมนฯ ยูไนเต็ด เขี่ยตกรอบไปนั่นเอง

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *