บรรยากาศโศกเศร้า! ฝัง 2 ศพเหยื่อปืนโหด แม่ฮ่องสอน ตร.ยังปิดแผนล่า หวั่นฆาตกรไหวตัว
บรรยากาศโศกเศร้า! ฝัง 2 ศพเหยื่อปืนโหด แม่ฮ่องสอน ตร.ยังปิดแผนล่า หวั่นฆาตกรไหวตัว
แม่ฮ่องสอน – พิธีฝังศพสองลุงหลานเหยื่อหนุ่มปืนโหดที่อำเภอแม่สะเรียง จังหวัดแม่ฮ่องสอน เป็นไปอย่างโศกเศร้า ท่ามกลางความกังวลของชาวบ้าน ขณะที่การไล่ล่าตัวผู้ต้องหาคือนายยุทธนา จตุพรสีวลี วัย 37 ปี ยังคงดำเนินไปอย่างเข้มข้น แต่เจ้าหน้าที่ตำรวจยังไม่เปิดเผยรายละเอียดแผนการ หวั่นผู้ต้องหาจะติดตามข่าวสารแล้วไหวตัวหลบหนี
สืบเนื่องจากเหตุการณ์สะเทือนขวัญเมื่อวันที่ 23 เมษายน ที่ผ่านมา ณ ตำบลแม่ยวม อำเภอแม่สะเรียง จังหวัดแม่ฮ่องสอน เมื่อนายยุทธนา จตุพรสีวลี หรือบอย อายุ 37 ปี ก่อเหตุใช้อาวุธปืนยิงนายดิเก สุกุลกิจ อายุ 65 ปี และนายกมล สุกุลกิจ อายุ 41 ปี เสียชีวิตรวม 2 ราย โดยไม่ทราบสาเหตุชัดเจน หลังจากเกิดเหตุ เจ้าหน้าที่ได้สนธิกำลังเข้าปฏิบัติการค้นหาและติดตามจับกุมตัวนายยุทธนาอย่างต่อเนื่อง แต่จนถึงขณะนี้ก็ยังไม่พบเบาะแสหรือร่องรอยของผู้ก่อเหตุ
ล่าสุด เมื่อวันที่ 28 เมษายน 2568 บรรดาญาติพี่น้องและชาวบ้านในพื้นที่ได้ร่วมกันเคลื่อนร่างของผู้เสียชีวิตทั้งสองคน เพื่อนำไปประกอบพิธีฝังศพตามหลักศาสนา ที่สุสานกลางคริสต์ชนสัมพันธ์ อำเภอแม่สะเรียง จังหวัดแม่ฮ่องสอน โดยพิธีเป็นไปอย่างเรียบง่ายและเต็มไปด้วยความโศกเศร้า มีการกล่าวคำอำลาเป็นครั้งสุดท้าย ก่อนที่ผู้มาร่วมไว้อาลัยจะร่วมกันโรยดอกไม้และดินลงบนโลงศพ จากนั้นจึงช่วยกันนำดินกลบหลุมศพ เป็นอันเสร็จสิ้นพิธี ท่ามกลางบรรยากาศอันหดหู่ของบรรดาญาติมิตรที่ต้องสูญเสียบุคคลอันเป็นที่รักไปอย่างกะทันหัน โดยระหว่างการประกอบพิธี มีเจ้าหน้าที่อาสาสมัครรักษาดินแดน (อส.) แม่สะเรียง มาคอยเฝ้าระวังรักษาความปลอดภัยให้กับชาวบ้านที่เดินทางมาร่วมพิธีด้วย
ความคืบหน้าในการไล่ล่าจับกุมตัวผู้ต้องหา พ.ต.ท.ปพัสศ์พงศ์ แก้วรากมุก สารวัตรสถานีตำรวจภูธรท่าตาฝั่ง เปิดเผยว่า เจ้าหน้าที่ได้มีการประชุมวางแผนการติดตามไล่ล่าผู้ต้องหาอย่างรัดกุม แต่ไม่สามารถเปิดเผยรายละเอียดของแผนการต่างๆ ต่อสาธารณะได้ในขณะนี้ เนื่องจากเกรงว่าผู้ต้องหาอาจจะมีโอกาสในการรับรู้ข่าวสารความเคลื่อนไหวในการทำงานของเจ้าหน้าที่ผ่านสื่อโซเชียลมีเดียต่างๆ ซึ่งจะส่งผลกระทบต่อการปฏิบัติงานและทำให้ผู้ต้องหาไหวตัวหลบหนีได้
พ.ต.ท.ปพัสศ์พงศ์ กล่าวต่อไปว่า ขอให้พี่น้องประชาชนในพื้นที่อย่าได้ตื่นตระหนกเกินไป เนื่องจากเจ้าหน้าที่มีการประสานงานและวางแผนในการจับกุมตัวอย่างรอบคอบรัดกุม อย่างไรก็ตาม การปฏิบัติงานอาจจะต้องใช้ระยะเวลาพอสมควร เนื่องจากผู้ก่อเหตุมีความชำนาญในพื้นที่ป่า และรู้ทิศทางในการเข้าออกเป็นอย่างดี ทำให้การติดตามเป็นไปด้วยความยากลำบาก
ในส่วนของการดูแลความปลอดภัยของราษฎรบ้านแม่กองคา ตำบลแม่ยวม อำเภอแม่สะเรียง ซึ่งเป็นพื้นที่เกิดเหตุและชาวบ้านยังคงมีความหวาดระแวงและไม่มั่นใจในความปลอดภัยนั้น พ.ต.ท.ปพัสศ์พงศ์ กล่าวว่า ชาวบ้านบางส่วนได้พาลูกเมียไปอาศัยอยู่กับญาติที่หมู่บ้านอื่นในพื้นที่อำเภอแม่สะเรียง เหลือไว้เพียงผู้ชายที่ต้องช่วยกันดูแลบ้านเรือนและคอยสอดส่องดูแลความปลอดภัยซึ่งกันและกันในหมู่บ้าน โดยขณะนี้มีเจ้าหน้าที่จากหน่วยเฉพาะกิจกรมทหารพรานที่ 36, อส.แม่สะเรียง และ สภ.ท่าตาฝั่ง เป็นกำลังหลักในการสับเปลี่ยนหมุนเวียนกันเข้ามาดูแลความปลอดภัยให้กับราษฎรอย่างต่อเนื่อง
ด้าน ว่าที่ร้อยตรีวิทยา โปทาศรี นายอำเภอแม่ลาน้อย ได้กล่าวเพิ่มเติมถึงกรณีที่มีกระแสข่าวว่าผู้ต้องหาอาจจะหลบหนีไปในพื้นที่บ้านเกิดที่อำเภอแม่ลาน้อยว่า ขอให้ประชาชนในพื้นที่อย่าได้ตื่นตระหนกเช่นกัน เจ้าหน้าที่ทุกฝ่ายได้มีการเตรียมความพร้อม และได้มีการส่งชุดเจ้าหน้าที่เข้าไปในพื้นที่เป้าหมายที่คาดว่าผู้ก่อเหตุอาจจะไป ตั้งแต่เกิดเหตุมาหลายวันแล้ว และมีการวางแผน การประกอบกำลัง กำหนดเป้าหมาย พื้นที่ต่างๆ อย่างละเอียด
การไล่ล่าตัวนายยุทธนา จตุพรสีวลี ผู้ต้องหาคดียิง 2 ศพในครั้งนี้ ยังคงดำเนินไปอย่างเข้มข้น แม้จะต้องเผชิญกับอุปสรรคด้านภูมิประเทศและความกังวลว่าผู้ต้องหาจะรู้ความเคลื่อนไหวของเจ้าหน้าที่ ขณะที่ชาวบ้านในพื้นที่ยังคงใช้ชีวิตอยู่ด้วยความหวาดระแวงและต้องพึ่งพาเจ้าหน้าที่ฝ่ายความมั่นคงในการดูแลความปลอดภัย