แม่สายวิกฤต! ฝนถล่มหนัก น้ำล้นตลิ่งท่วมชุมชนริมน้ำ ชาวบ้านเร่งขนของหนี หวั่นซ้ำรอยปี 67
แม่สาย เชียงราย – 29 เมษายน 2068 – สถานการณ์น้ำท่วมในพื้นที่อำเภอแม่สาย จังหวัดเชียงราย กลับมาน่าเป็นห่วงอีกครั้ง หลังเผชิญกับฝนที่ตกลงมาอย่างหนักและต่อเนื่องตลอดช่วงเช้าวันนี้ ส่งผลให้ระดับน้ำในแม่น้ำสาย ซึ่งเป็นเส้นแบ่งเขตแดนธรรมชาติระหว่างประเทศไทยกับประเทศเมียนมา เพิ่มสูงขึ้นอย่างรวดเร็ว และเริ่มเอ่อล้นตลิ่งเข้าท่วมพื้นที่ชุมชนที่ตั้งอยู่ติดริมน้ำแล้วหลายแห่ง
ผู้สื่อข่าวรายงานสถานการณ์ล่าสุดเมื่อเวลา 12.00 น. ของวันที่ 29 เมษายน 2068 โดยได้รับแจ้งข้อมูลเบื้องต้นจากกลุ่มเฟซบุ๊ก ‘ชุมชนคนแม่สาย’ ซึ่งเป็นช่องทางสื่อสารของประชาชนในพื้นที่ พบว่าตั้งแต่ช่วงเช้ามีฝนตกโปรยปรายสลับหนักในหลายพื้นที่ของอำเภอแม่สาย ทำให้เกิดน้ำท่วมขังตามถนนและตรอกซอยในหมู่บ้านไม้ลุงขน ซึ่งเป็นสัญญาณเตือนแรกถึงสถานการณ์น้ำที่กำลังจะมาถึง
ต่อมาในช่วงสายถึงเที่ยง สถานการณ์เริ่มทวีความรุนแรงขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะบริเวณสะพานมิตรภาพไทย-เมียนมา แห่งที่ 1 ซึ่งเป็นจุดผ่านแดนสำคัญ พบว่าระดับน้ำในแม่น้ำสายได้เพิ่มสูงขึ้นจนเกือบถึงระดับตลิ่ง และในที่สุดก็เอ่อล้นออกมาจากลำน้ำ ไหลเข้าท่วมพื้นที่ริมตลิ่งทั้งฝั่งอำเภอแม่สาย จังหวัดเชียงราย และฝั่งจังหวัดท่าขี้เหล็ก ประเทศเมียนมา สร้างความแตกตื่นและเร่งรีบให้กับประชาชนที่อาศัยหรือประกอบกิจกรรมอยู่ในพื้นที่ริมน้ำดังกล่าว
นอกจากนี้ ในพื้นที่เกาะทราย ซึ่งเป็นอีกหนึ่งย่านชุมชนใหญ่ที่ตั้งอยู่ริมแม่น้ำสาย ก็ได้รับผลกระทบอย่างหนักเช่นกัน มีรายงานว่าน้ำได้ล้นตลิ่งเข้าท่วมบ้านเรือนและถนนหนทางในชุมชนหลายจุดอย่างรวดเร็ว แม้ในบางพื้นที่ระดับน้ำยังไม่สูงมากนัก แต่ก็เริ่มมีน้ำเจิ่งนองเป็นบริเวณกว้างและมีแนวโน้มเพิ่มสูงขึ้น หากฝนยังคงตกอย่างต่อเนื่อง
จากสถานการณ์ที่เกิดขึ้น ประชาชนในพื้นที่ริมแม่น้ำ โดยเฉพาะในย่านที่เคยประสบภัยน้ำท่วมเมื่อปีก่อน ต่างเร่งขนย้ายสิ่งของมีค่า เครื่องใช้ไฟฟ้า และทรัพย์สินสำคัญต่างๆ ขึ้นไปไว้บนที่สูง หรือเคลื่อนย้ายไปยังพื้นที่ปลอดภัยกว่า เพื่อลดความเสียหายที่อาจเกิดขึ้น พวกเขาหลายคนยังคงมีความกังวลและหวั่นเกรงว่าเหตุการณ์น้ำท่วมรุนแรงเมื่อปี 2567 ที่สร้างความเดือดร้อนและเสียหายเป็นวงกว้างจะกลับมาซ้ำรอยอีกครั้งในปีนี้
เจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องในพื้นที่กำลังเฝ้าระวังสถานการณ์อย่างใกล้ชิด และเตรียมพร้อมให้ความช่วยเหลือประชาชนที่ได้รับผลกระทบ ขณะที่ประชาชนเองก็มีการแจ้งเตือนและให้ข้อมูลระหว่างกันผ่านช่องทางโซเชียลมีเดีย เพื่อรับมือกับสถานการณ์น้ำท่วมที่กำลังขยายวงกว้างออกไป