กรมชลฯ เร่งฟื้นฟูพื้นที่แม่สายหลังน้ำท่วมคลี่คลาย ย้ำติดตามสถานการณ์ใกล้ชิด

เชียงราย – กรมชลประทาน โดยโครงการชลประทานเชียงราย ได้ลงพื้นที่ติดตามสถานการณ์น้ำเอ่อล้นจากแม่น้ำสาย ซึ่งเป็นแม่น้ำที่กั้นพรมแดนไทย-เมียนมา บริเวณชายแดนอำเภอแม่สาย จังหวัดเชียงราย หลังจากที่ได้รับผลกระทบจากปริมาณน้ำที่เพิ่มสูงขึ้นอย่างรวดเร็ว

สถานการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นเนื่องจากมีฝนตกหนักอย่างต่อเนื่องในพื้นที่ต้นน้ำบริเวณประเทศเมียนมา โดยมีรายงานปริมาณฝนสะสมในรอบ 24 ชั่วโมง วัดได้ถึง 69.8 มิลลิเมตร เมื่อเวลา 12.30 น. ของวันที่ 29 เมษายน 2568 ซึ่งปริมาณฝนที่มากในระยะเวลาสั้นๆ นี้ ส่งผลให้เกิดน้ำไหลหลากลงสู่แม่น้ำสายอย่างรวดเร็วและรุนแรง

น้ำที่เพิ่มระดับสูงขึ้นได้เอ่อล้นตลิ่งเข้าท่วมพื้นที่ชายแดนฝั่งประเทศไทยในบางส่วน โดยเฉพาะบริเวณตลาดสายลมจอย ซึ่งเป็นตลาดการค้าสำคัญ ชุมชนไม้ลุงขน และพื้นที่ใกล้เคียง ระดับน้ำท่วมสูงประมาณ 15 – 20 เซนติเมตร แม้จะไม่ใช่ระดับที่สูงมาก แต่ก็สร้างความเดือดร้อนและความกังวลให้กับประชาชนและผู้ประกอบการในพื้นที่ ซึ่งได้รับผลกระทบโดยตรงจากการสัญจรที่ไม่สะดวกและการเข้าท่วมของน้ำในพื้นที่การค้าและที่พักอาศัย

อย่างไรก็ตาม ด้วยความรวดเร็วของการระบายน้ำและการบริหารจัดการเบื้องต้น สถานการณ์น้ำท่วมในพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบได้กลับเข้าสู่ภาวะปกติแล้วในเวลาอันรวดเร็ว ประชาชนและผู้ประกอบการสามารถกลับมาดำเนินกิจกรรมต่างๆ ได้ตามเดิม

ภายหลังน้ำลด กรมชลประทาน โดยโครงการชลประทานเชียงราย ไม่ได้นิ่งนอนใจ ได้ประสานความร่วมมืออย่างใกล้ชิดกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในพื้นที่ อาทิ องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น และหน่วยงานด้านความมั่นคง เพื่อเร่งดำเนินการฟื้นฟูพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบโดยทันที

ปฏิบัติการฟื้นฟูหลังน้ำลดได้เริ่มขึ้น โดยมุ่งเน้นการทำความสะอาดบ้านเรือนของประชาชนและสถานที่สาธารณะที่ได้รับความเสียหายจากคราบโคลนและสิ่งสกปรกที่มากับน้ำ เพื่อสุขอนามัยที่ดีของประชาชนในพื้นที่

นอกจากมาตรการฟื้นฟูแล้ว ยังได้มีการดำเนินมาตรการป้องกันในระยะสั้น โดยการเสริมแนวกระสอบทรายขนาดใหญ่ หรือที่เรียกว่า Big Bag บริเวณตลิ่งแม่น้ำสายในจุดที่เคยเกิดปัญหาน้ำเอ่อล้น เพื่อเสริมความแข็งแรงและเพิ่มประสิทธิภาพในการป้องกันน้ำไม่ให้เข้าท่วมพื้นที่อีกครั้ง หากเกิดสถานการณ์ฝนตกหนักและน้ำในแม่น้ำสายเพิ่มระดับขึ้น

พร้อมกันนี้ กรมชลประทานได้มอบหมายให้เจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องประสานงานกับหน่วยงานต่างๆ เพื่อออกสำรวจความเสียหายที่เกิดขึ้นอย่างละเอียด เพื่อประเมินผลกระทบและให้ความช่วยเหลือต่อไป หากมีความจำเป็น

เจ้าหน้าที่ยังคงติดตามสถานการณ์น้ำในแม่น้ำสายและพื้นที่ใกล้เคียงอย่างต่อเนื่องตลอด 24 ชั่วโมง และได้มีการเตรียมความพร้อมด้านเครื่องจักรเครื่องมือที่จำเป็น เช่น เครื่องสูบน้ำ และรถบรรทุก ไว้รองรับสถานการณ์ฉุกเฉินที่อาจจะเกิดขึ้นในอนาคต เพื่อให้มั่นใจว่าสามารถเข้าช่วยเหลือประชาชนและบริหารจัดการสถานการณ์ได้อย่างทันท่วงที

เหตุการณ์ครั้งนี้เน้นย้ำถึงความสำคัญของการเฝ้าระวังและเตรียมความพร้อมรับมือสถานการณ์น้ำ โดยเฉพาะในพื้นที่ที่มีความเสี่ยงสูงบริเวณชายแดน ซึ่งได้รับอิทธิพลจากสภาพอากาศในประเทศเพื่อนบ้าน การประสานงานระหว่างหน่วยงานต่างๆ ทั้งในส่วนกลางและส่วนภูมิภาค รวมถึงหน่วยงานท้องถิ่นและหน่วยงานด้านความมั่นคง ถือเป็นปัจจัยสำคัญในการป้องกันและบรรเทาผลกระทบจากสถานการณ์น้ำ

กรมชลประทานยืนยันว่า จะดำเนินการเฝ้าระวังและบริหารจัดการน้ำในพื้นที่อำเภอแม่สายและจังหวัดเชียงรายอย่างเต็มที่ เพื่อความปลอดภัยและบรรเทาผลกระทบต่อประชาชน