ความคืบหน้ากรณีพิพาทหนี้สินระหว่าง ‘แม่ปูนา ปูนาฟ้าใส’ ซึ่งเป็นที่รู้จักจากกรณีการทวงหนี้ตลกดัง และ ‘คุณนา’ เจ้าของร้านอ่องมันปู ล่าสุดทั้งสองฝ่ายได้เข้าพูดคุยและบรรลุข้อตกลงในการชำระหนี้ค้างจ่ายที่ยืดเยื้อมานานกว่า 4 แสนบาทแล้ว โดยมีกำหนดการผ่อนชำระเป็นรายเดือน

กรณีดังกล่าวเริ่มต้นขึ้นหลังจาก แม่ปูนา ได้ไปออกรายการ โหนกระแส เมื่อวันที่ 2 เมษายน 2567 ทำให้ยอดขายสินค้าอ่องมันปูของเธอพุ่งสูงขึ้นอย่างมาก แม่ปูนาจึงได้สั่งสินค้าจำนวนมากจากร้านของคุณนา ซึ่งเป็นคู่ค้าที่ร่วมงานกันมานาน แต่กลับมีการโอนชำระยอดสินค้าเพียงบางส่วน ทำให้มียอดค้างจ่ายสะสมสูงถึง 455,845 บาท นอกจากนี้ยังมีการอ้างว่าสินค้าไม่ได้คุณภาพ แต่ไม่ได้ส่งคืน ทำให้คุณนาตัดสินใจโพสต์ขอความเป็นธรรมเพื่อทวงถามหนี้สิน

ล่าสุด เมื่อเวลา 15.00 น. ของวันที่ 29 เมษายน 2568 (ตามเวลาในข่าวต้นทาง) คุณนา เจ้าของร้านอ่องมันปู พร้อมด้วย แม่ปูนา และคุณนิสา อดีตแอดมิน ได้ให้สัมภาษณ์ภายหลังจากเข้าเคลียร์ปัญหาในรายการโหนกระแส

คุณนา กล่าวว่า ตอนนี้ตนกับ แม่ปูนา ได้เคลียร์กันจบสิ้นแล้ว และรู้สึกพอใจเป็นอย่างมากกับข้อเสนอที่ได้ เนื่องจากรอคอยวันนี้มานานแล้ว ไม่มีความติดใจอะไรอีกต่อไป

สำหรับการเป็นหนี้จำนวน 450,000 บาทนั้น คุณนาชี้แจงว่าเป็นยอดสะสมที่ไม่สามารถเคลียร์กันได้ในอดีต โดยยอดหนี้ทั้งหมดเคยสูงถึงกว่า 900,000 บาทในช่วงก่อนและหลังออกรายการโหนกระแสครั้งแรก ซึ่งแม่ปูนาก็ได้พยายามชำระมาอย่างต่อเนื่องแล้วกว่า 600,000 บาท เหลือยอดค้างเพียงประมาณ 450,000 บาทเท่านั้น แต่มาขาดการชำระในช่วงหลัง

คุณนายอมรับว่าในช่วงที่ผ่านมาได้พยายามติดตามทวงถามหนี้ แต่ก็มีช่วงที่ขาดการติดต่อ ทำให้รู้สึกท้อใจและเลิกติดตามไปชั่วขณะ ด้วยความหวังว่าวันหนึ่ง แม่ปูนา จะติดต่อกลับมาหรือเห็นใจผู้ผลิตบ้าง แต่ก็เงียบหายไป จนกระทั่งได้มาเคลียร์กันในวันนี้ ในฐานะผู้ผลิต ตนได้รับผลกระทบอย่างหนัก ต้องแบกรับภาระทั้งค่าจ้างคนงาน ต้นทุนวัตถุดิบ แม้กระทั่งรถยนต์ส่วนตัวก็ต้องถูกยึดไปเนื่องจากขาดสภาพคล่องทางการเงิน

คุณนา ยังกล่าวถึงบทบาทของคุณนิสา อดีตแอดมิน ว่าคุณนิสามีส่วนช่วยให้ตนได้มาเจอกับ แม่ปูนา เพื่อเคลียร์ปัญหา โดยคุณนิสาเองก็เป็นคู่กรณีกับ แม่ปูนา อยู่แล้ว แค่อยากช่วยเหลือ จึงยอมให้ข้อมูลเพื่อใช้ในการทวงหนี้

ในที่สุด คุณนารู้สึกพอใจอย่างยิ่งกับสิ่งที่ แม่ปูนา ยอมรับและตกลงที่จะชดใช้หนี้สิน ตอนนี้ทั้งสองฝ่ายไม่มีอะไรติดค้างกันแล้ว เหลือเพียงการชำระยอดที่ค้างอีก 400,000 บาท โดยตกลงจะชำระครั้งละ 50,000 บาท ในทุกวันที่ 5 ของเดือน จนกว่าจะครบยอดหนี้