ออกหมายจับ! บุคคลอันตราย ยิงดับ 2 ศพที่แม่ฮ่องสอน จนท.ปิดป่าระดมกำลังเกือบ 100 นายไล่ล่า
แม่ฮ่องสอน – ความคืบหน้ากรณีเหตุสะเทือนขวัญ คนร้ายก่อเหตุใช้อาวุธปืนยิงชาวบ้านเสียชีวิต 2 ราย ในพื้นที่ตำบลแม่ยวม อำเภอแม่สะเรียง จังหวัดแม่ฮ่องสอน ล่าสุด ศาลจังหวัดแม่สะเรียงได้อนุมัติหมายจับผู้ก่อเหตุแล้ว ทราบชื่อคือ นายยุทธนา อายุ 37 ปี ซึ่งเป็นบุคคลที่ครอบครัวได้แจ้งความคนหายไว้ก่อนหน้านี้
เหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อวันที่ 23 เมษายน 2568 โดยนายยุทธนาได้ก่อเหตุยิง นายดิเก อายุ 65 ปี และ นายกมล อายุ 41 ปี เสียชีวิต โดยไม่ทราบสาเหตุที่แน่ชัด ก่อนหลบหนีเข้าไปในป่า ซึ่งผู้ก่อเหตุถูกแจ้งความคนหายออกจากบ้านไปตั้งแต่วันที่ 11 เมษายน 2568 และมีการระดมชาวบ้านและเจ้าหน้าที่ช่วยกันค้นหามาโดยตลอด จนกระทั่งมาก่อเหตุร้ายในที่สุด
นายวรศักดิ์ พานทอง นายอำเภอแม่สะเรียง เปิดเผยถึงความคืบหน้าการไล่ล่าผู้ต้องหาว่า หลังจากศาลได้ออกหมายจับนายยุทธนาแล้ว ทางเจ้าหน้าที่ได้ระดมกำลังจากหลายหน่วยงานเกือบ 100 นาย ประกอบด้วย เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.ท่าตาฝั่ง, เจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครองอำเภอแม่สะเรียง, เจ้าหน้าที่ ตชด. 337 แม่สะเรียง, กำนันผู้ใหญ่บ้าน, เจ้าหน้าที่ กก.สส.ภ.จว.แม่ฮ่องสอน, ทหารพราน 36 และเจ้าหน้าที่อุทยานสาละวิน แบ่งกำลังออกเป็น 2 ชุด เข้าทำการปิดป่าและค้นหาในบริเวณจุดเกิดเหตุและพื้นที่ใกล้เคียงอย่างกระชั้นชิดในช่วง 2 วันที่ผ่านมา
อย่างไรก็ตาม ปฏิบัติการค้นหาเป็นไปด้วยความยากลำบากและต้องเพิ่มความระมัดระวังอย่างสูง เนื่องจากผู้ก่อเหตุมีความชำนาญพื้นที่ป่าเป็นพิเศษ สามารถหลบหนีและซ่อนตัวได้อย่างดี ขณะนี้ยังไม่พบวี่แววของผู้ต้องหาแต่อย่างใด
ด้านนายสมชาติ (นามสมมติ) ซึ่งเป็นญาติของผู้เสียชีวิตทั้งสองราย ให้ข้อมูลว่า ผู้เสียชีวิตกับผู้ก่อเหตุไม่เคยมีเรื่องบาดหมางกันมาก่อน แต่เป็นที่รับรู้กันในหมู่บ้านว่าผู้ก่อเหตุมีประวัติเกี่ยวข้องกับยาเสพติด และได้ย้ายมาอยู่กับภรรยาในพื้นที่หมู่บ้านนี้ได้ประมาณ 10 ปีแล้ว เชื่อว่าสาเหตุที่ก่อเหตุน่าจะมาจากอาการหลอนจากการใช้สารเสพติด ทำให้เห็นใครก็จะทำร้าย ล่าสุดเมื่อคืนที่ผ่านมา ญาติได้ยินเสียงปืนดังขึ้น 1 นัดในป่า แต่ยังไม่ทราบว่าเป็นเสียงปืนจากผู้ก่อเหตุหรือไม่ และในวันนี้ (26 เม.ย.) จะเดินทางเข้าป่าพร้อมเจ้าหน้าที่เพื่อตรวจสอบกระท่อมที่ผู้ก่อเหตุเคยพักอาศัย
ข้อมูลล่าสุดจากเจ้าหน้าที่ระบุว่า ผู้ก่อเหตุมีการใช้สารเสพติดประเภทฝิ่น และใช้อาวุธปืนลูกซองยาวแบบบรรจุครั้งละนัด ซึ่งคาดว่ายังมีลูกกระสุนเหลืออยู่ประมาณ 10 นัด เจ้าหน้าที่จึงเน้นย้ำเรื่องความปลอดภัยของกำลังพลในการปฏิบัติหน้าที่เป็นอันดับแรก
นอกจากนี้ เพื่อป้องกันเหตุร้ายที่อาจเกิดขึ้นซ้ำ ทางอำเภอได้จัดกำลังเจ้าหน้าที่ทหารพรานและสมาชิกกองอาสารักษาดินแดน (อส.) เข้าเฝ้าระวังความปลอดภัยในพื้นที่หมู่บ้านแม่กองคา หมู่ 10 ตำบลแม่ยวม และหมู่บ้านใกล้เคียงอย่างเข้มงวด เนื่องจากเกรงว่าผู้ก่อเหตุจะย้อนกลับมาทำร้ายประชาชนในหมู่บ้านอีกครั้ง