กลายเป็นประเด็นที่หลายคนให้ความสนใจอย่างมาก หลังจากที่นักแสดงและยูทูปเบอร์สาวชื่อดัง “เบสท์ รักษ์วนีย์ คำสิงห์” ลูกสาวของอดีตนักมวยเหรียญทองโอลิมปิก “สมรักษ์ คำสิงห์” ได้ออกมาพูดในรายการ “แฉ” ถึงสถานการณ์ชีวิต และประเด็นที่ว่าเธออาจจะต้องยุติบทบาทการเข้าไปยุ่งเกี่ยวกับปัญหาต่างๆ ของผู้เป็นพ่อ ทำให้เกิดคำถามในสังคมว่าเกิดอะไรขึ้น

ล่าสุด ทางช่อง YouTube “Boy Entertain” ได้นำเสนอข้อมูลเชิงลึกจากปากคำของ “แม่อ้อย” อดีตภรรยาของสมรักษ์ และเป็นคุณแม่ของเบสท์ รวมถึงข้อมูลจากคนใกล้ชิดในครอบครัว เพื่อไขข้อสงสัยเกี่ยวกับประเด็นนี้

แหล่งข่าวจาก Boy Entertain ระบุว่า ได้พูดคุยกับเบสท์และแม่อ้อยตลอดหลายปีที่ผ่านมา ทราบดีว่า เบสท์ทำงานหนักเพื่อหาเงินด้วยการไลฟ์ขายของและรับรีวิวสินค้า รายได้ส่วนใหญ่ของเธอถูกนำไปใช้ช่วยเหลือคุณพ่อสมรักษ์ มีส่วนน้อยมากที่เบสท์จะใช้เพื่อตัวเอง ปัจจุบัน เบสท์เปรียบเสมือนหัวหน้าครอบครัวที่ดูแลทั้งพ่อและแม่

เมื่อถามแม่อ้อยว่าเหตุใดจึงปล่อยให้ลูกต้องแบกรับภาระช่วยเหลือพ่อมากขนาดนั้น แม่อ้อยตอบว่า “แล้วแต่ลูกเลย เงินของลูก การที่เขาดูแลคุณพ่อเป็นสิ่งที่ลูกพึงทำ และเราได้ปลูกฝังในครอบครัวเรื่องความกตัญญู”

ส่วนประเด็นที่สังคมอาจมองว่าแม่อ้อยเป็นคนบอกให้เบสท์หยุดช่วยเหลือพ่อหรือไม่ แม่อ้อยยืนยันหนักแน่นว่า “ไม่เคยสอนลูกสองคนเลย เรื่องการจะดูแลพ่อ และแม่ยังภูมิใจด้วยที่ลูกสองคนยังดูแลพ่อ แม้พ่อจะมีเรื่องไม่ค่อยจะบวกเท่าไหร่ ทุกวันนี้แม่บอกว่าสอนลูกอย่างเดียวเลย ไม่ต้องไปดูตัวอย่างไหน ดูตัวอย่างคนใกล้ตัว” ซึ่งเป็นการสอนที่เข้าใจลูกจริงๆ โดยให้ลูกตัดสินใจเอง

แหล่งข่าวแสดงความรู้สึกว่า แม่อ้อยเป็นผู้หญิงที่เก่งและแกร่งมาก เคียงข้างสมรักษ์มาตั้งแต่วันที่ยังเรียนหนังสือ ไม่มีเงิน จนกระทั่งโด่งดังได้เหรียญโอลิมปิก แม้ชีวิตคู่จะพังลง แต่สิ่งที่เป็นความภูมิใจที่สุดคือการมีลูกสองคนคือเบสท์และโบ๊ทที่กตัญญูมากๆ

เมื่อถามถึงสาเหตุที่เบสท์ออกมาพูดเรื่องนี้ในรายการแฉ แม่อ้อยเล่าว่า ไม่ได้มีการเตรียมตัวหรือเตรียมสคริปต์กันมาก่อน เบสท์พูดออกมาเอง และแม่อ้อยก็รู้สึกสงสารลูกเหมือนกันที่เงินทองที่หามาได้ต้องมาใช้หนี้แทนพ่อ

Boy Entertain แสดงความเห็นว่า การที่เบสท์ออกมาพูดเช่นนี้ น่าจะแสดงว่าเธอคงถึงจุดที่รู้สึกหนักมากแล้ว และชี้ให้เห็นว่า คดีความของสมรักษ์กับเยาวชนอายุ 17 ปียังอยู่ในกระบวนการ ทำให้เบสท์ยังต้องช่วยเหลือพ่อ ทั้งเรื่องเงินประกันตัว หรือหากอนาคตศาลมีคำพิพากษาให้ต้องโทษจำคุก ก็ยังเป็นหน้าที่ของลูกที่ต้องไปดูแล

ประเด็นสำคัญคือ ได้ถามแม่อ้อยว่า เบสท์กับโบ๊ทตัดขาดพ่อแล้วหรือไม่ ซึ่งแม่อ้อยยืนยันว่า “ไม่เลย” สิ่งที่ลูกพูดถึงปัญหาที่เข้าไปช่วยคือ 2 เรื่องหลักๆ คือหนี้สินจำนวน 20 ล้านบาท และเรื่องคดีความ ขณะเดียวกัน การดูแลเรื่องรายเดือน ค่ากินอยู่ การใช้ชีวิต ยังคงดูแลเหมือนเดิม ไม่ได้ตัดขาด ทำให้ไม่แปลกที่เบสท์จะรู้สึกกลัวว่าคนจะมองว่าเธออกตัญญู เมื่อไปออกรายการแล้วพูดถึงประเด็นเหล่านี้

สุดท้าย แหล่งข่าวจาก Boy Entertain ได้กล่าวชื่นชมในตัวเบสท์ โบ๊ท และแม่อ้อยอย่างยิ่ง โดยเฉพาะแม่อ้อยที่แสดงให้เห็นถึงความแข็งแกร่ง และการเลี้ยงดูลูกโดยไม่เคยสอนให้เกลียดพ่อ แม้จะเผชิญมรสุมชีวิตมามากมายก็ตาม