ไมอามี, สหรัฐอเมริกา – เกิดเหตุการณ์ไม่คาดฝันกลางทะเลใกล้เกาะไมอามี บีช รัฐฟลอริดา สหรัฐอเมริกา เมื่อเรือยอร์ชสุดหรูราคากว่า 147 ล้านบาท ที่กำลังจัดงานปาร์ตี้โดยมีกลุ่มอินฟลูเอนเซอร์กว่า 32 ชีวิตอยู่บนเรือ ได้ประสบเหตุค่อยๆ จมลงสู่ก้นทะเล สร้างความตกใจและเป็นที่วิพากษ์วิจารณ์ในโลกออนไลน์อย่างกว้างขวาง

เหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อเร็วๆ นี้ โดยเว็บไซต์ต่างประเทศได้รายงานว่า เรือยอร์ชลำดังกล่าวคือรุ่น Tecnomar Lamborghini 63 ซึ่งมีความยาวประมาณ 20 เมตร มูลค่าสูงถึง 4.7 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือคิดเป็นเงินไทยราว 147 ล้านบาท ได้กลายเป็นเวทีสำหรับงานปาร์ตี้ของเหล่าอินฟลูเอนเซอร์ชื่อดังจำนวน 32 คน

ระหว่างที่งานปาร์ตี้กำลังดำเนินไปอย่างสนุกสนาน ได้มีน้ำเริ่มไหลเข้าสู่ตัวเรืออย่างผิดปกติ ทำให้สถานการณ์เริ่มน่าเป็นห่วง หน่วยยามฝั่งสหรัฐอเมริกา ซึ่งได้รับแจ้งเหตุ ได้เร่งรัดเข้าให้การช่วยเหลือและอพยพผู้ที่อยู่บนเรือทั้งหมดออกมาก่อนที่เรือจะจมลงไปเกือบทั้งลำ

นับเป็นเรื่องโชคดีที่ปฏิบัติการช่วยเหลือเป็นไปอย่างรวดเร็วและมีประสิทธิภาพ ทำให้ผู้โดยสารทั้ง 32 คนบนเรือได้รับการช่วยเหลือขึ้นมาได้อย่างปลอดภัย ไม่มีรายงานผู้ได้รับบาดเจ็บจากเหตุการณ์ครั้งนี้แต่อย่างใด

เจ้าหน้าที่หน่วยยามฝั่งได้ใช้ถุงลมนิรภัยพิเศษเพื่อพยุงตัวเรือที่จมอยู่ ให้อยู่นอกเส้นทางเดินเรือหลัก เพื่อรอการกู้ซากเรือต่อไป

อย่างไรก็ตาม เหตุการณ์นี้ได้สร้างกระแสวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนักในสื่อสังคมออนไลน์ หลังจากมีการเผยแพร่วิดีโอที่บันทึกภาพขณะเกิดเหตุ ซึ่งแสดงให้เห็นว่า แม้เรือจะกำลังจมลง แต่เหล่าอินฟลูเอนเซอร์บางส่วนยังคงดูไม่ตระหนกกับสถานการณ์ที่เกิดขึ้น และยังคงเต้นรำและสนุกสนานราวกับไม่มีอะไรเกิดขึ้น อีกทั้งยังมีชายคนหนึ่งพูดติดตลกเปรียบเทียบเหตุการณ์นี้กับโศกนาฏกรรมเรือไททานิคที่ชนภูเขาน้ำแข็ง

เบื้องต้น เจ้าหน้าที่สันนิษฐานว่า สาเหตุที่ทำให้เรือยอร์ชสุดหรูลำนี้จม อาจมาจากน้ำหนักบนเรือที่มากเกินกว่าพิกัดบรรทุกสูงสุด ซึ่งเรือรุ่นนี้สามารถรับน้ำหนักได้ประมาณ 24 ตัน ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่ยังไม่สามารถระบุตัวตนของเจ้าของเรือยอร์ชลำดังกล่าวได้อย่างแน่ชัด และกำลังอยู่ระหว่างการสอบสวนเพื่อหาสาเหตุที่แท้จริงของเหตุการณ์ครั้งนี้ต่อไป

เหตุการณ์เรือยอร์ชจมกลางทะเลไมอามีครั้งนี้ ถือเป็นอุทาหรณ์เกี่ยวกับความปลอดภัยในการเดินเรือ และยังสะท้อนให้เห็นถึงพฤติกรรมที่หลากหลายของผู้คนในสถานการณ์ฉุกเฉิน ซึ่งกลายเป็นประเด็นที่ถูกพูดถึงอย่างมากในวงกว้าง