รำลึก หลวงพ่อสอน ฐานธัมโม เกจิดังปากท่อ ผู้สร้างและพัฒนา ‘วัดเขาถ้ำพระ’ จ.ราชบุรี
วัดเขาถ้ำพระ ตำบลดอนพระ อำเภอปากท่อ จังหวัดราชบุรี เป็นที่ตั้งของเกจิอาจารย์ที่ชาวราชบุรีให้ความเคารพนับถืออย่างยิ่ง นั่นคือ หลวงพ่อสอน ฐานธัมโม ผู้มีบทบาทสำคัญในการสร้างและพัฒนาวัดแห่งนี้ให้มีความเจริญรุ่งเรือง
หลวงพ่อสอน มีนามเดิมว่า สอน สว่างแจ้ง ท่านถือกำเนิดเมื่อวันพุธ เดือน 4 ปีมะโรง พ.ศ.2434 ณ จังหวัดพระตะบอง ประเทศกัมพูชา มีพี่น้องร่วมบิดามารดาเดียวกัน 3 คน ท่านเป็นบุตรคนกลาง ความพิเศษคือท่านสามารถสื่อสารได้ถึง 3 ภาษา ได้แก่ ภาษาเขมร ภาษาไทย และภาษาฝรั่งเศส
ชีวิตวัยหนุ่มของหลวงพ่อสอนนั้นค่อนข้างผาดโผน ท่านเดินทางเข้ามาในประเทศไทยเมื่ออายุ 35 ปี ทางจังหวัดปราจีนบุรี ก่อนจะย้ายไปทำงานเป็นช่างไม้ที่วัดพิกุลทอง อำเภอบางกรวย จังหวัดนนทบุรี เป็นเวลา 1 ปี จากนั้นไปทำไร่อยู่ที่จังหวัดกาญจนบุรีกับคนจีนอีก 1 ปี ก่อนจะหวนกลับมายังวัดพิกุลทองอีกครั้ง
เมื่ออายุได้ 38 ปี ท่านมีความตั้งใจที่จะเดินทางกลับบ้านเกิดที่กัมพูชา จึงดำริว่าจะบรรพชาเพื่อความสะดวกในการเดินทาง ท่านจึงได้ปรึกษาเจ้าอาวาสวัดพิกุลทอง ซึ่งก็ยินดีรับเป็นพระอุปัชฌาย์บรรพชาให้ ท่านได้อยู่จำพรรษาที่วัดพิกุลทองเพื่อศึกษาพระปริยัติธรรมกับพระอุปัชฌาย์เป็นเวลา 1 พรรษา
ในปี พ.ศ.2473 ขณะอายุ 39 ปี หลวงพ่อสอนได้ล้มเลิกความตั้งใจที่จะกลับบ้านเกิด และได้ขออุปสมบทอย่างเป็นทางการ ณ พัทธสีมาวัดพิกุลทอง ได้รับฉายาว่า “ฐานธัมโม”
หลังจากออกพรรษาแรก ท่านได้กราบลาพระอุปัชฌาย์ไปยังวัดเขาวงจินดา อำเภอบ่อพลอย จังหวัดกาญจนบุรี จำพรรษาอยู่ 3 พรรษา ระหว่างนั้น ท่านได้สร้างกุฏิขึ้นใหม่ 1 หลัง และซ่อมแซมกุฏิที่ชำรุดอีกหลายหลัง
ต่อมาในปี พ.ศ.2481 หลวงพ่อสอนได้ย้ายมาจำพรรษาที่วัดศรีอุปลาราม อำเภอเมือง จังหวัดกาญจนบุรี ซึ่งท่านอยู่จำพรรษานานถึง 10 พรรษา ในช่วงเวลานี้ พระครูนิวิฐสมาจาร (หลวงปู่เหรียญ) เจ้าอาวาสวัด กำลังดำเนินการก่อสร้างอาคารเรียน 2 ชั้น คือโรงเรียนนิวิฐพิทยาคาร หลวงพ่อสอนจึงได้เป็นกำลังสำคัญในการก่อสร้าง โดยรับผิดชอบในส่วนของงานช่างไม้
จุดเปลี่ยนสำคัญเกิดขึ้นในปี พ.ศ.2492 เมื่อท่านได้ย้ายมาอยู่ที่สำนักสงฆ์เขาถ้ำพระ อำเภอปากท่อ จังหวัดราชบุรี (ซึ่งภายหลังได้รับอนุญาตตั้งเป็นวัดเขาถ้ำพระในปี พ.ศ.2522 และได้รับพระราชทานวิสุงคามสีมาในปี พ.ศ.2524) ขณะนั้น วัดอยู่ในสภาพที่ทรุดโทรมอย่างมาก ขาดผู้ดูแลปฏิสังขรณ์ ทำให้ถาวรวัตถุต่างๆ ชำรุดทรุดโทรม โดยเฉพาะพระพุทธรูปเก่าแก่ภายในถ้ำ ซึ่งบางองค์ปรักหักพัง หลวงพ่อสอนเมื่อมาพบเห็นจึงเกิดความสังเวชสลดใจ และตั้งปณิธานที่จะทำนุบำรุงฟื้นฟูวัดแห่งนี้ให้กลับคืนสู่สภาพที่ดีขึ้น
ภายใต้การนำของหลวงพ่อสอน ท่านได้เริ่มโครงการบูรณะครั้งใหญ่ เริ่มจากการสร้างมณฑปเพื่อประดิษฐานพระพุทธรูปเก่าแก่ภายในถ้ำ พร้อมทั้งปรับปรุงพื้นที่ภายในถ้ำโดยการเทพื้นปูน และสร้างบันไดจากเชิงเขาขึ้นสู่ถ้ำ หลังจากสร้างมณฑปและปรับปรุงพื้นที่แล้วเสร็จ ท่านได้ซ่อมแซมพระพุทธรูปที่ชำรุดเสียหายให้กลับสู่สภาพสมบูรณ์และอัญเชิญขึ้นประดิษฐานบนมณฑป นอกจากนี้ ยังได้เทพื้นซีเมนต์ภายในถ้ำใหม่ทั้งหมด สร้างกุฏิสงฆ์ สร้างถังเก็บน้ำฝน และสร้างบันไดทางขึ้นไปถึงองค์เจดีย์บนยอดเขาถ้ำพระ ไม่เพียงเท่านั้น ท่านยังได้เป็นกำลังสำคัญในการช่วยเหลือสร้างโรงเรียนบ้านเขาถ้ำเพื่อการศึกษาของเด็กๆ ในพื้นที่อีกด้วย
งานใหญ่ที่สำคัญอีกอย่างคือการสร้างเจดีย์ 5 องค์บนยอดเขาถ้ำพระ ซึ่งเริ่มดำเนินการในปี พ.ศ.2500 และแล้วเสร็จในปี พ.ศ.2506 เพื่อเป็นที่ประดิษฐานพระบรมสารีริกธาตุ
หลวงพ่อสอน ฐานธัมโม ได้ปกครองและพัฒนาวัดเขาถ้ำพระเรื่อยมา ท่านถึงแก่มรณภาพด้วยโรคมะเร็ง เมื่อวันที่ 21 เมษายน พ.ศ.2511 เวลา 23.00 น. สิริอายุได้ 77 ปี พรรษาที่ 39
แม้ท่านจะจากไปแล้ว แต่คุณูปการที่หลวงพ่อสอนได้สร้างไว้แก่วัดเขาถ้ำพระและชุมชนนั้นยังคงอยู่ เป็นเครื่องเตือนใจถึงความอุตสาหะ ความเสียสละ และพลังแห่งศรัทธาของพระเกจิอาจารย์ผู้เปี่ยมด้วยเมตตาบารมี ทำให้วัดเขาถ้ำพระยังคงเป็นศูนย์รวมจิตใจของชาวราชบุรีและผู้ศรัทธาตราบจนทุกวันนี้.