กรุงเทพฯ – ณ ชั้น 1 อาคาร 7 ช่อง 7HD เมื่อวันที่ 19 พฤษภาคม 2568 นักแสดงหนุ่มมากฝีมือ หลุยส์ เฮส ได้มาร่วมงาน EXCLUSIVE PRESS INTERVIEW ละครเรื่องใหม่ ‘คุณแม่แก้ขัด’ พร้อมให้สัมภาษณ์พิเศษกับสื่อมวลชนถึงความรู้สึกที่ได้รับมอบหมายให้สานต่อบทบาทสำคัญในละครเรื่องนี้แทนนักแสดงรุ่นพี่อย่าง เอส กันตพงศ์ ที่ประสบอุบัติเหตุ

หลุยส์ เฮส เปิดใจถึงการตัดสินใจรับเล่นละครเรื่องนี้ว่า “ตอนแรกยอมรับว่าหนักใจนิดนึงครับ เพราะตอนที่พี่เอสประสบอุบัติเหตุก็อยู่ด้วย พอเวลาผ่านไป ทางช่องได้มอบหมายให้ผมมาเล่นละครเรื่องนี้ให้เสร็จ ผมก็ได้คุยกับทางช่องไปว่ายินดีมากครับ แต่ขอปรึกษาทางครอบครัวพี่เอสก่อนว่าท่านมีความรู้สึกยังไงบ้าง เพราะผมเคารพการตัดสินใจของครอบครัวพี่เอสครับ”

นักแสดงหนุ่มเผยต่อว่า หลังจากได้รับคำยินยอมจากทางครอบครัวของ เอส กันตพงศ์ ที่ให้การไฟเขียวแล้ว ก็พร้อมลุยงานอย่างเต็มที่ แต่ก็ต้องทำงานร่วมกับทีมงานในกองถ่ายกว่า 60-70 ชีวิต ที่ทำงานกันมาครึ่งปีแล้ว “ทุกคนในกองน่ารักมากครับ ไม่มีอุปสรรคเรื่องคนเลย อุปสรรคจริงๆ จะเป็นเรื่องของบทบาทที่เราต้องมาแกะคาแร็กเตอร์ที่พี่เอสได้สร้างไว้”

เมื่อถูกถามถึงความยากในการรับบทต่อ หลุยส์ เฮส กล่าวว่า “ผมไม่ได้รู้สึกว่ามันยากขึ้น แต่มันใช้เวลามากขึ้น แทนที่เราจะอ่านบทแล้วจบ เราต้องดูที่พี่เอสถ่ายมาทั้งหมด ไม่ใช่ดูแค่ครั้งเดียว แต่ต้องดูซ้ำหลายรอบ ดูแล้วก็ถ่ายคลิปในมือถือไว้ เพื่อทำความเข้าใจคาแร็กเตอร์ เป็นงานที่เพิ่มขึ้นมาอีกหนึ่งสเต็ปครับ”

ด้านเสียงตอบรับจากแฟนคลับ หลุยส์ เล่าว่า “แฟนๆ ที่ติดตามผมอยู่บอกว่า ‘ออกจากป่าแล้วนะ ไม่ได้บู๊แล้ว’ เรื่องนี้มาแบบโรแมนติก ดราม่า คอมเมดี้ ก็ดีใจมากครับ ดีใจที่แฟนคลับของพี่เอสเปิดใจให้เรา เขาก็ช่วยซัพพอร์ตเต็มที่”

สำหรับประเด็นที่ผู้ชมอาจจะสับสนกับการเปลี่ยนตัวนักแสดง หลุยส์ เชื่อว่า “ไม่น่างงครับ พูดถึงตัวเนื้อละครจะเป็นการเปลี่ยนเลย พี่เอสออกจากห้องนี้ไป แล้วผมอยู่อีกห้องหนึ่ง เป็นการเปลี่ยนแบบนี้เลย แล้วอีกอย่างในเวลาเดียวกันตอนที่พี่เอสประสบอุบัติเหตุก็เป็นข่าวใหญ่ระดับประเทศ ผมว่าผู้ชมเข้าใจและทราบเรื่องนี้อยู่แล้ว น่าจะเปิดใจรับได้ครับ” ส่วนเรื่องการถูกเปรียบเทียบนั้น เขาไม่หวั่น “น่าจะมีเปรียบเทียบอยู่แล้วครับ ทั้งแฟนคลับพี่เอส แฟนคลับผม และผู้ชมทั่วไปที่ดู 10 ตอนแรกที่พี่เอสเล่น แล้วมาดู 10 ตอนหลังที่ผมเล่น มันเป็นการเปลี่ยนที่รวดเร็วมาก ก็ต้องมีการเปรียบเทียบแน่นอนครับ มีทั้งคนชอบและไม่ชอบ ซึ่งเราก็ไม่ได้ติดใจอะไร”

นอกเหนือจากเรื่องงาน หนุ่มหลุยส์ยังได้อัปเดตเรื่องหัวใจให้ฟังว่า “ก็เรื่อยๆ ครับ มีคนคุยอยู่ ได้ศึกษากันทำงานร่วมกัน ความจริงคือเราก็ไม่ได้ปิด แต่เราก็ไม่ได้ประกาศ ไม่ใช่แนวสวีตลงไอจีอยู่แล้วครับ แต่ก็ไปไหนมาไหนด้วยกัน” เขาเผยว่าอีกฝ่ายเข้าใจธรรมชาติของวงการบันเทิง “เขาก็คลุกคลีอยู่กับวงการครับ ถามว่ามีหวานๆ บ้างไหม ก็มีอยู่ครับ”

เมื่อถูกถามว่าคลั่งรักไหม หลุยส์ ตอบว่า “ก็คลั่งครับ แต่วัยรุ่นอาจจะคลั่งกว่านี้ ตอนนี้โฟกัสเรื่องงานมากกว่า” เขามองว่าความรักที่ลงตัวคือการที่มีจุดประสงค์เดียวกัน มีเป้าหมายเดียวกัน มองเห็นอนาคตในแนวทางเดียวกัน และช่วยกันเดินไปข้างหน้าคนละไม้คนละมือ สำหรับความสัมพันธ์ครั้งนี้ ศึกษาดูใจกันมานานเกือบ 3 ปีแล้ว แต่ยังไม่คิดเรื่องแต่งงาน “ยังไม่คิดไปถึงจุดนั้นครับ พอเรามีเป้าหมายหนึ่งที่เราตั้งเอาไว้ แล้วเราก็คุยกันว่าไปให้ถึงเป้าหมายนี้ก่อน พอเราไปถึงเป้าหมายนี้ อนาคตค่อยว่ากันอีกที”

เป้าหมายที่ว่านี้คือเรื่องหน้าที่การงาน “ตอนนี้ก็ทำรายการอยู่ด้วย ช่วยกันทำด้วย แล้วก็เรื่องงานส่วนอื่นๆ เรียกได้ว่าเป็นคนบ้างานทั้งคู่ครับ อยู่บ้านไม่ได้ เขาก็เป็นคนทำงานค่อนข้างเยอะ”