พลิกล็อกแอนฟิลด์! อาร์เซนอลฮึดคัมแบ็กเจ๊า ลิเวอร์พูล 2-2 หลังตาม 0-2
ลิเวอร์พูลพลาดชัยในบ้านเกม พรีเมียร์ลีก ทั้งที่เป็นฝ่ายยิงนำก่อนถึง 2 ประตูเมื่อจบครึ่งแรก แต่กลับพลาดท่าถูกอาร์เซนอลไล่ตีเสมอในครึ่งหลัง แบ่งกันไปทีมละ 1 คะแนน
การแข่งขันฟุตบอล พรีเมียร์ลีก อังกฤษ ฤดูกาล [ใส่ปีที่แข่งจริง] เมื่อวันที่ 11 พฤษภาคม ณ สนามแอนฟิลด์ “หงส์แดง” ลิเวอร์พูล ซึ่งคว้าแชมป์ลีกไปแล้ว เปิดบ้านต้อนรับการมาเยือนของรองจ่าฝูง “ปืนใหญ่” อาร์เซนอล
เกมนี้ เยอร์เก้น คล็อปป์ กุนซือลิเวอร์พูล จัดทัพโดยมี หลุยส์ ดิอาซ, โดมินิก โซโบสไล, โมฮาเหม็ด ซาลาห์ เป็นแกนหลักในแนวรุก ขณะที่ มิเกล อาร์เตต้า ผู้จัดการทีมอาร์เซนอล วาง เลอันโดร ทรอสซาร์ด, บูคาโย ซากา และ กาเบรียล มาร์ติเนลลี เป็นสามประสานในแดนหน้า
เริ่มเกมมาเพียง 8 นาที ลิเวอร์พูลเกือบได้ประตูขึ้นนำ จากจังหวะที่ เคอร์ติส โจนส์ ดีดไซด์ก้อยให้ โมฮาเหม็ด ซาลาห์ ในเขตโทษด้านขวา ก่อนที่ ซาลาห์ จะแปะคืนให้ หลุยส์ ดิอาซ ได้สับไกยิงโล่งๆ แต่ ดาบิด รายา ผู้รักษาประตูอาร์เซนอล ยังโชว์ซูเปอร์เซฟ พุ่งตัวปัดบอลไว้ได้อย่างหวุดหวิด
นาทีที่ 20 เจ้าบ้านได้เฮก่อน จากลูกทุ่มทางฝั่งซ้าย เคอร์ติส โจนส์ สบโอกาสที่แนวรับอาร์เซนอลยืนประมาท จึงรีบทุ่มเร็วให้ แอนดรูว์ โรเบิร์ตสัน ได้เปิดบอลพุ่งเลียดมาที่เสาแรก และเป็น โคดี กักโป ที่วิ่งเข้ามาชาร์จด้วยศีรษะระยะเผาขน เข้าประตูไปอย่างเด็ดขาด ลิเวอร์พูลนำ 1-0
เพียงแค่นาทีเดียวถัดมา (นาทีที่ 21) ลิเวอร์พูลก็ทะยานหนีไปเป็น 2-0 อย่างรวดเร็ว โมฮาเหม็ด ซาลาห์ ได้บอลกลางสนาม ก่อนเปิดขึ้นหน้าให้ โดมินิก โซโบสไล โฉบเข้ามาเกี่ยวบอลในเขตโทษ แล้วจ่ายหนีนายทวารไปหน้าประตู หลุยส์ ดิอาซ ปราดเข้ามาชาร์จโล่งๆ ไม่เหลือ อาร์เซนอลตกอยู่ในสถานการณ์ที่ยากลำบาก
นาทีที่ 24 ลิเวอร์พูลยังคงบุกต่อเนื่อง หลุยส์ ดิอาซ จ่ายบอลให้ เคอร์ติส โจนส์ หมุนตัวยิงด้วยขวา แต่ ดาบิด รายา ยังคงเหนียวหนึบ พุ่งปัดทิ้งไปได้ จบครึ่งแรก ลิเวอร์พูลนำอาร์เซนอลอยู่ 2-0
กลับมาเล่นในครึ่งหลัง รูปเกมของอาร์เซนอลดูดีขึ้น และมาได้ประตูไล่ตามมาในนาทีที่ 47 เลอันโดร ทรอสซาร์ด ได้บอลทางซ้าย ก่อนดึงจังหวะแล้วหยอดบอลเข้ากลางด้วยน้ำหนักที่พอเหมาะให้ กาเบรียล มาร์ติเนลลี พุ่งเข้าโขกเช็ดบอลเข้าประตูไปอย่างสวยงาม “ปืนใหญ่” ไล่มาเป็น 1-2
อาร์เซนอลยังคงพยายามบุกเพื่อประตูตีเสมอ นาทีที่ 54 เบน ไวต์ พาบอลลุยเองเข้ามาในเขตโทษด้านขวา ก่อนยิงมุมแคบ อลิสซอน เบ็กเกอร์ ยังใช้เท้าปัดไว้ได้ ก่อนตามไปรับเข้าซอง
ลิเวอร์พูลตอบโต้บ้างในนาทีที่ 56 โคดี กักโป จ่ายให้ โดมินิก โซโบสไล แต่งบอลแล้วลองยิงไกลจากระยะประมาณ 30 หลา ดาบิด รายา ต้องออกแรงปัดในจังหวะแรก ก่อนตามไปตะครุบบอลได้
จนกระทั่งนาทีที่ 70 “ปืนใหญ่” ก็มาได้ประตูตีเสมอจนได้ มาร์ติน โอเดการ์ด ยิงจากนอกเขตโทษ อลิสซอน ปัดบอลไปชนเสา บอลกระดอนออกมาหน้าประตูเข้าทาง มิเคล เมริโน ที่ยืนอยู่ตรงนั้นพอดี จึงโหม่งซ้ำเข้าไปไม่พลาด สกอร์กลับมาเท่ากันที่ 2-2
สถานการณ์ของอาร์เซนอลต้องยากลำบากอีกครั้งในนาทีที่ 79 มิเคล เมริโน ผู้ยิงประตูตีเสมอ ไปเสียบทำฟาวล์ ดาร์วิน นูนเญซ บริเวณหน้าเขตโทษตัวเอง ทำให้ได้รับใบเหลืองที่สอง เป็นใบแดงไล่ออกจากสนาม อาร์เซนอลต้องเล่นด้วยผู้เล่น 10 คนในช่วงท้ายเกม
ช่วงทดเวลาบาดเจ็บ นาทีที่ 90+6 ลิเวอร์พูลเกือบได้ประตูชัย อเล็กซิส แม็กอัลลิสเตอร์ เปิดลูกเตะมุมให้ เฟอร์จิล ฟาน ไดก์ โขกติดเซฟ ดาบิด รายา บอลกระดอนมาเข้าทาง แอนดรูว์ โรเบิร์ตสัน ที่ยิงซ้ำระยะเผาขนเข้าไป แต่ผู้ตัดสินเช็ก VAR แล้วพบว่า อิบราฮิมา โคนาเต ได้ไปผลักผู้เล่นอาร์เซนอลก่อน ประตูจึงถูกริบไปอย่างน่าเสียดาย
จบเกมการแข่งขัน ลิเวอร์พูล เสมอ อาร์เซนอล 2-2 แบ่งกันไปทีมละ 1 คะแนน
ผลการแข่งขันนี้ทำให้ ลิเวอร์พูล ลงเล่น 36 นัด มี 83 คะแนน (การันตีแชมป์ไปแล้ว) ส่วนอาร์เซนอล เก็บเพิ่มเป็น 68 คะแนน จาก 36 นัด ยังคงรั้งตำแหน่งรองจ่าฝูง โดยต้องการเพียง 2 คะแนนจาก 2 นัดที่เหลือ ก็จะการันตีโควต้าท็อปไฟฟ์ได้ทันที
ผลฟุตบอล พรีเมียร์ลีก คู่อื่นๆ ที่น่าสนใจ:
นิวคาสเซิล ยูไนเต็ด ชนะ เชลซี 2-0
แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด แพ้ เวสต์แฮม ยูไนเต็ด 0-2
น็อตติงแฮม ฟอเรสต์ เสมอ เลสเตอร์ ซิตี้ 2-2
ท็อตแนม ฮอตสเปอร์ แพ้ คริสตัล พาเลซ 0-2