จากเหตุการณ์เศร้าที่สร้างความเสียใจให้กับแฟนเพลงทั่วโลก เมื่อ ‘เลียม เพย์น’ อดีตสมาชิกวงบอยแบนด์ระดับโลก ‘วันไดเรกชั่น’ ได้เสียชีวิตลงอย่างกะทันหันด้วยวัยเพียง 31 ปี หลังจากที่เขาพลัดตกจากชั้น 3 ของโรงแรมแห่งหนึ่งในกรุงบัวโนสไอเรส ประเทศอาร์เจนตินา เมื่อช่วงปลายปีที่ผ่านมา

ล่าสุด ได้มีรายงานข่าวเปิดเผยถึงรายละเอียดเรื่องมรดกของนักร้องผู้ล่วงลับ ซึ่งมีมูลค่ามหาศาลถึง 32.2 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือคิดเป็นเงินไทยราว 1 พันล้านบาท แหล่งข่าวระบุว่า เนื่องจาก เลียม เพย์น เสียชีวิตโดยที่ไม่ได้ทำพินัยกรรมไว้ ทรัพย์สินทั้งหมดนี้จึงตกเป็นของ ‘แบร์’ ลูกชายวัย 8 ขวบของเขาแต่เพียงผู้เดียว

ในส่วนของการบริหารจัดการมรดกนั้น แหล่งข่าวระบุว่า เชอริล อดีตแฟนสาวและเป็นแม่ของแบร์ ได้รับการแต่งตั้งให้เป็นผู้ดูแลมรดกร่วมกับทนายความส่วนตัว คือ นายริชาร์ด มาร์ค เบรย์ เพื่อจัดการดูแลผลประโยชน์ให้กับลูกชาย

ตามกฎหมายของประเทศอังกฤษ ซึ่งเป็นสัญชาติของ เลียม เพย์น ระบุไว้อย่างชัดเจนว่า หากผู้เสียชีวิตไม่มีคู่สมรสหรือคู่ชีวิตที่จดทะเบียนตามกฎหมาย ทรัพย์สินทั้งหมดจะตกเป็นของบุตรโดยชอบธรรม ซึ่งในกรณีนี้คือ แบร์ ทำให้ เจฟฟ์และคาเรน พ่อแม่ของเขา รวมถึง นิโคลาและรูธ น้องสาวทั้งสองคน จะไม่ได้รับส่วนแบ่งใดๆ จากมรดกนี้เลย

สำหรับ เคท แคสซิดี้ ผู้ทรงอิทธิพลทางโซเชียลมีเดียชาวอเมริกันวัย 26 ปี ซึ่งเป็นแฟนสาวคนปัจจุบันของ เลียม เพย์น ในช่วงที่เขายังมีชีวิตอยู่ แหล่งข่าวก็ยืนยันเช่นกันว่า เธอจะไม่ได้รับสิ่งใดจากกองมรดกนี้เลย

ก่อนหน้านี้ มีรายงานว่า ในระหว่างที่คบหากัน เลียม เพย์น ได้ดูแลค่าใช้จ่ายของ เคท แคสซิดี้ เป็นอย่างดี โดยให้เงินค่าใช้จ่ายรายเดือนประมาณ 10,000 ดอลลาร์สหรัฐ (ราว 3.6 แสนบาท) และยังอนุญาตให้เธอใช้บัตรเครดิตส่วนตัวของเขา ซึ่งรวมค่าใช้จ่ายทั้งหมดแล้วอยู่ที่ประมาณ 25,000 ดอลลาร์สหรัฐ (ราว 9 แสนบาท) ต่อเดือน

แม้จะมีกระแสข่าวลือว่า เคท แคสซิดี้ อาจจะหวังพึ่งพามรดกของแฟนหนุ่ม รวมถึงเรื่องการซื้อบ้าน แต่เพื่อนสนิทของเธอคนหนึ่งได้เคยเปิดเผยกับสื่อเมื่อเดือนธันวาคมปีที่แล้วว่า “เคทมีเงินของตัวเองอยู่แล้ว เธอไม่ได้ลำบาก ไม่มีที่ไป ใช่ เธออาจจะไม่ได้มีเงินมากเท่า เลียม แต่เธอก็ไม่ได้ยากจนอะไรนัก แม้ว่าเธอจะไม่มีสิทธิ์ในมรดกของ เลียม เลยก็ตาม แต่สิ่งสำคัญที่สุดสำหรับเธอคือความเสียใจอย่างสุดซึ้งกับการจากไปของ เลียม ต่างหาก” ซึ่งเป็นการยืนยันว่าประเด็นสำคัญคือการสูญเสียคนรัก ไม่ใช่เรื่องทรัพย์สิน