ทนายอานนท์ เชื้อสัตตบงกช ทนายความชื่อดัง ได้ออกมาให้ความเห็นและวิเคราะห์ทางกฎหมายในกรณีรถกระบะกับบีเอ็มป้ายแดงเกิดเหตุปาดหน้ากันจนบีเอ็มชนไหล่ทาง โดยอ้างอิง พ.ร.บ.จราจรทางบก พ.ศ.2522 อย่างละเอียด

จากคลิปวงจรปิดพบว่า เป็นช่วงถนนบีบจาก 3 เลนเหลือ 2 เลน รถเก๋งบีเอ็มวิ่งชิดแบริเออร์ด้านใน ขณะที่รถกระบะมาจากด้านข้าง เมื่อถึงจุดรวมเลน ทั้งคู่เข้าเลนพร้อมกัน จนบีเอ็มต้องหักหลบชนขอบทาง

มุมมองทางกฎหมาย:

• ฝ่ายกระบะ: หากเปลี่ยนเลนแบบกระชั้นชิดโดยไม่ให้สัญญาณไฟล่วงหน้า 30 เมตร ถือว่าผิดกฎหมาย
• กรณีรวมเลน: ตามมาตรา 71 พ.ร.บ.จราจร ต้องให้รถทางซ้ายมือผ่านไปก่อนหากมาถึงพร้อมกัน (รถกระบะอยู่ซ้าย)
• มาตรา 40: รถบีเอ็มที่เร่งแซงจนเกือบชนท้ายกระบะอาจเข้าข่ายขับประมาท

ทนายอานนท์ให้ความเห็นเพิ่มเติมว่า การขับไล่ปาดหน้ากระบะหลังเกิดเหตุไม่เข้าข่ายประมาท แต่เป็น“การกระทำโดยเจตนา” อาจมีความผิดฐาน:

1. เจตนาทำร้ายร่างกาย
2. พยายามฆ่า (หากเล็งเห็นอันตรายถึงชีวิต)
3. ขับรถโดยไม่คำนึงถึงความปลอดภัย

ทั้งนี้ ทนายเสนอว่าควรมีการแจ้งข้อหาประมาทร่วมทั้งสองฝ่ายมากกว่าการโทษฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งเพียงอย่างเดียว