ฮีโร่สาว! นศ.นิติฯ ใช้ความรู้ CPR จาก รด. ช่วยชีวิตเด็กหญิง 5 ขวบ จมน้ำอุบลฯ ชาวเน็ตแห่ชื่นชม
อุบลราชธานี – เรื่องราวสุดประทับใจในสังคมออนไลน์เมื่อนางสาวพรรณิพา หรือน้องปิ่น ทีอุทิศ นักศึกษาชั้นปีที่ 2 คณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยอุบลราชธานี วัย 19 ปี ได้แสดงความกล้าหาญและใช้ความรู้ที่ได้จากการอบรมฟื้นคืนชีพ เข้าช่วยชีวิตเด็กหญิงวัย 5 ขวบที่ประสบอุบัติเหตุจมน้ำบริเวณหาดคูเดื่อ จังหวัดอุบลราชธานี จนปลอดภัย ทำให้ได้รับการยกย่องและชื่นชมอย่างล้นหลามจากชาวเน็ต
เหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อเวลาประมาณ 13.30 น. ของวันที่ 6 พฤษภาคม 2568 ศูนย์รับแจ้งเหตุและสั่งการ 1669 จังหวัดอุบลราชธานี ได้รับแจ้งจากพลเมืองดีว่ามีเด็กหญิงจมน้ำบริเวณหาดคูเดื่อ ตำบลแจระแม อำเภอเมืองอุบลราชธานี จึงได้รีบประสานหน่วยกู้ภัยมูลนิธิศิษย์พระจี้กงอุบลราชธานี และหน่วยกู้ชีพโรงพยาบาลสรรพสิทธิประสงค์อุบลราชธานี ให้เข้าทำการช่วยเหลือเป็นการด่วน
เมื่อเจ้าหน้าที่และหน่วยกู้ภัยเดินทางไปถึงที่เกิดเหตุ พบว่ามีพลเมืองดีกำลังให้การปฐมพยาบาลเบื้องต้นแก่เด็กหญิงวัย 5 ขวบ ซึ่งอยู่ในอาการสำลักน้ำ เจ้าหน้าที่กู้ภัยจึงได้รับตัวเด็กและนำส่งโรงพยาบาลเด็ก โรงพยาบาลสรรพสิทธิประสงค์ ซึ่งเป็นโรงพยาบาลที่อยู่ใกล้ที่สุด เพื่อให้แพทย์ทำการดูแลต่อไป ล่าสุดมีรายงานว่าเด็กหญิงอาการพ้นขีดอันตรายแล้ว แต่ยังคงต้องพักรักษาตัวและดูอาการอย่างใกล้ชิดในห้องไอซียูเด็ก
หลังเหตุการณ์ดังกล่าว มีการโพสต์ภาพและข้อความชื่นชม นางสาวพรรณิพา หรือน้องปิ่น ซึ่งเป็นผู้ที่เข้าให้การช่วยเหลือเด็กในเบื้องต้น โดยระบุว่าขณะที่น้องปิ่นกำลังช่วยคุณพ่อขายลอตเตอรี่อยู่ที่หาดคูเดื่อ ได้เห็นเหตุการณ์เด็กหญิงพลัดตกน้ำ จึงได้รีบเข้าให้การช่วยเหลืออย่างรวดเร็ว ทำให้เรื่องราวนี้ถูกเผยแพร่และได้รับความสนใจจากชาวเน็ตจำนวนมาก ที่ต่างเข้ามาแสดงความคิดเห็นชื่นชมในการทำความดีและความมีสติของน้องปิ่น
ผู้สื่อข่าวได้มีโอกาสพูดคุยกับ นางสาวพรรณิพา เพื่อสอบถามถึงเหตุการณ์ในวันนั้น น้องปิ่นได้เล่าด้วยน้ำเสียงตื่นเต้นว่า ก่อนเกิดเหตุตนเองกำลังขายลอตเตอรี่ให้กับผู้ปกครองของเด็กหญิงที่จมน้ำ จากนั้นไม่นานก็ได้ยินเสียงตะโกนขอความช่วยเหลือว่ามีเด็กตกน้ำ ด้วยความตกใจแต่ก็พยายามตั้งสติ ตนเองรีบค้นหาเบอร์โทรศัพท์และโทรศัพท์แจ้งไปยังศูนย์รับแจ้งเหตุ 1669 เพื่อแจ้งรายละเอียดเหตุการณ์อย่างรวดเร็วว่ามีเด็กหญิงจมน้ำที่หาดคูเดื่อ ขอหน่วยกู้ภัยและรถพยาบาลมารับตัวด่วน
หลังจากแจ้งเหตุแล้ว ตนเองได้รีบเข้าไปดูตรงจุดเกิดเหตุ และพบว่าญาติของน้องที่จมน้ำได้นำตัวน้องขึ้นมาจากน้ำแล้ว โดยอุ้มพาดบ่าและกำลังเขย่าตัวน้อง เพื่อพยายามเอาน้ำออกจากท้อง ซึ่งเป็นวิธีการที่ผิด ตนเองเห็นเช่นนั้นจึงรีบเข้าไปบอกให้ญาติวางน้องนอนราบกับพื้น จากนั้นตนเองได้ทำการตรวจเช็คสัญญาณชีพของน้อง พบว่าชีพจรเต้นอ่อนมากและไม่หายใจ ด้วยความรู้ที่ได้จากการอบรมการฟื้นคืนชีพ หรือ CPR ในช่วงที่เรียนนักศึกษาวิชาทหาร (รด.) ตนเองจึงได้เริ่มทำการปฐมพยาบาลด้วยการทำ CPR สลับกับการเป่าปากเพื่อช่วยหายใจ
น้องปิ่นเล่าต่อว่า ทำการ CPR ไปได้ไม่นาน น้องก็เริ่มมีอาการอาเจียนออกมา ซึ่งมีทั้งน้ำและเศษอาหารปะปนอยู่ หลังจากน้องอาเจียนแล้ว อาการก็เริ่มดีขึ้นอย่างเห็นได้ชัด ตนเองรู้สึกดีใจและภูมิใจอย่างมากที่สามารถนำความรู้ที่ได้รับการอบรมมาใช้ในการช่วยชีวิตคนได้จริง ๆ เหตุการณ์นี้ทำให้น้องปิ่นได้ตระหนักถึงความสำคัญของการอบรมการฟื้นคืนชีพ และอยากจะฝากถึงสถาบันการศึกษาต่าง ๆ ให้มีการสอนหรือจัดอบรมการปฐมพยาบาลเบื้องต้นและการทำ CPR ให้แก่นักเรียน นักศึกษา เพราะความรู้เหล่านี้อาจมีความสำคัญและจำเป็นอย่างยิ่งในการช่วยชีวิตผู้อื่นในสถานการณ์ฉุกเฉินในชีวิตจริงได้ทุกเมื่อ
เรื่องราวของน้องปิ่น ทีอุทิศ ถือเป็นแบบอย่างที่ดีของคนรุ่นใหม่ ที่มีไหวพริบ สติ และความกล้าหาญในการเข้าช่วยเหลือเพื่อนมนุษย์ นอกจากนี้ยังแสดงให้เห็นถึงประโยชน์ของการเรียนรู้ทักษะการเอาชีวิตรอดและการปฐมพยาบาลเบื้องต้น ซึ่งควรได้รับการส่งเสริมให้แพร่หลายในวงกว้างต่อไป