กรุงเทพฯ – เมื่อช่วงเย็นที่ผ่านมา กรุงเทพมหานครเผชิญกับพายุฝนฟ้าคะนองและลมกระโชกแรง ส่งผลให้เกิดความเสียหายในหลายพื้นที่ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเหตุการณ์ต้นไม้ขนาดใหญ่ล้มทับบ้านเรือนประชาชนในซอยสาธุประดิษฐ์ 57 ซึ่งส่งผลให้มีผู้ได้รับบาดเจ็บและติดค้างอยู่ภายในบ้าน เจ้าหน้าที่หน่วยงานที่เกี่ยวข้องกำลังเร่งให้ความช่วยเหลืออย่างเต็มที่

รายงานข่าวระบุว่า ตั้งแต่ช่วงเย็นวันนี้ (10 พฤษภาคม 2568) พายุฝนได้เคลื่อนเข้าปกคลุมพื้นที่กรุงเทพมหานครและปริมณฑลหลายเขต ทำให้เกิดฝนตกหนักถึงหนักมาก และมีลมพัดแรง ส่งผลกระทบต่อการจราจรและสร้างความกังวลให้กับประชาชนในหลายพื้นที่ เช่น เขตหนองจอก หนองแขม บางแค บางบอน หลักสี่ ภาษีเจริญ จอมทอง สะพานสูง ประเวศ และทวีวัฒนา

ล่าสุด เมื่อเวลาประมาณ 18.23 น. ศูนย์วิทยุได้รับแจ้งขอความช่วยเหลือจากประชาชนในพื้นที่ซอยสาธุประดิษฐ์ 57 แขวงบางโพงพาง เขตยานนาวา โดยระบุว่ามีต้นไทรขนาดใหญ่ซึ่งตั้งอยู่บริเวณข้างป้อมตำรวจสาธุประดิษฐ์ ได้โค่นล้มลงมาทับบ้านเรือนที่อยู่ใกล้เคียงอย่างรุนแรง แรงกระแทกทำให้โครงสร้างบ้านได้รับความเสียหายอย่างหนัก และน่าตกใจไปกว่านั้นคือ มีรายงานว่ามีประชาชนติดค้างอยู่ภายในบ้านที่ถูกต้นไม้ทับ จำนวน 1 ราย ไม่สามารถออกมาจากตัวบ้านได้

ทันทีที่ได้รับแจ้งเหตุ เจ้าหน้าที่จากสถานีดับเพลิงและกู้ภัยถนนจันทร์ ได้รีบระดมกำลังพร้อมอุปกรณ์ตัดถ่างและเครื่องมือพิเศษเข้าพื้นที่เกิดเหตุอย่างเร่งด่วน พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่กู้ภัยจากมูลนิธิต่างๆ ที่ได้รับการประสานงาน โดยเมื่อเดินทางถึงจุดเกิดเหตุ เจ้าหน้าที่ได้ประเมินสถานการณ์เบื้องต้น พบว่าต้นไทรที่ล้มมีขนาดใหญ่มาก การช่วยเหลือผู้ที่ติดค้างอยู่ภายในต้องใช้ความระมัดระวังเป็นพิเศษ เนื่องจากเกรงว่าโครงสร้างบ้านที่เสียหายอยู่แล้วอาจจะทรุดตัวลงมาอีก

ขณะนี้ เจ้าหน้าที่ดับเพลิงและกู้ภัยกำลังใช้ความพยายามอย่างเต็มที่ในการวางแผนและดำเนินการเข้าช่วยเหลือผู้ที่ติดค้าง โดยกำลังประเมินวิธีการที่ปลอดภัยที่สุดในการเคลื่อนย้ายกิ่งไม้และลำต้นขนาดใหญ่ออกจากตัวบ้าน พร้อมทั้งพยายามหาช่องทางในการเข้าถึงตัวผู้ประสบภัยเพื่อให้การช่วยเหลือเบื้องต้นและนำตัวออกมาจากพื้นที่อันตรายให้ได้โดยเร็วที่สุด

สถานการณ์ล่าสุดในพื้นที่ยังคงตึงเครียด เจ้าหน้าที่ได้กั้นพื้นที่โดยรอบเพื่อความปลอดภัย และไม่อนุญาตให้ผู้ที่ไม่เกี่ยวข้องเข้าใกล้บริเวณจุดเกิดเหตุ เพื่อเปิดทางให้เจ้าหน้าที่ปฏิบัติงานได้อย่างสะดวกและรวดเร็วที่สุด ยังไม่มีรายงานยืนยันถึงอาการของผู้ที่ติดค้างภายใน แต่เจ้าหน้าที่ทุกคนหวังเป็นอย่างยิ่งว่าจะสามารถช่วยเหลือออกมาได้อย่างปลอดภัย

สำหรับความคืบหน้าเกี่ยวกับการช่วยเหลือผู้ประสบภัยในเหตุการณ์นี้ จะได้นำเสนอให้ทราบทันทีที่มีรายงานเพิ่มเติมจากเจ้าหน้าที่ในพื้นที่ต่อไป ขอให้ประชาชนในพื้นที่ใกล้เคียงเพิ่มความระมัดระวังและหลีกเลี่ยงการเข้าใกล้บริเวณที่เกิดเหตุ